นายแท่นคํา ทองบน รักษาการหัวหน้าคณะคุ้มครองโครงการทางรถไฟลาว – จีน เปิดเผยเมื่อวันที่ 2 ตุลาคม 2562 ว่า ในเดือนสิงหาคม. 2562 โครงการก่อสร้างทางรถไฟลาว – จีน มีความคืบหน้าร้อยละ 76.2 การส่งมอบ พื้นที่ให้โครงการฯ มีความคืบหน้าร้อยละ 98.29 ของพื้นที่เส้นทางรถไฟและสถานีรถไฟทั้งหมดจํานวน 3,000 เฮกตาร์ ทั้งนี้ คาดว่าโครงการดังกล่าวจะแล้วเสร็จตามกําหนดและพร้อมเปิดให้บริการเที่ยวปฐมฤกษ์ในวันที่ 2 ธันวาคม 2564
[su_spacer]
นายแท่นคําฯ ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า ขณะนี้รัฐบาล สปป. ลาวได้จ่ายค่าชดเชยให้ผู้ได้รับผลกระทบ ไปแล้วทั้งสิ้น 1,136 พันล้านกีบ (128.9 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) จากจํานวนค่าชดเชยทั้งหมด 2,492 พันล้านกีบ (282.9 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) รัฐบาล สปป. ลาวได้จัดสรรงบประมาณปี 2563 จํานวน 400 พันล้านกีบ (45.4 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) เพื่อเป็นค่าชดเชยและมอบหมายให้ธนาคารแห่ง สปป. ลาวออกพันธบัตรเพื่อระดมทุน มาเป็นค่าชดเชยในส่วนที่ยังขาด
[su_spacer]
โครงการก่อสร้างทางรถไฟลาว – จีนมีมูลค่าการลงทุนทั้งหมดประมาณ 5,956 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยรัฐวิสาหกิจรถไฟแห่งชาติลาว (ร้อยละ 30) บริษัท Boten Vientiane Railway (ร้อยละ 40) บริษัท Beijing Yukun Investment Corporation (ร้อยละ 20) และบริษัท Yunnan Investment Holding Group (ร้อยละ 10) มีระยะทางยาวประมาณ 414 กิโลเมตร จากชายแดนลาว – จีนถึงนครหลวงเวียงจันทน์ ผ่านแขวงหลวงน้ําทา อุดมไซ หลวงพระบาง เวียงจันทน์ และนครหลวงเวียงจันทน์ โดยมี 3 สถานีรถไฟหลัก ได้แก่ สถานีหลวงพระบาง วังเวียง และนครหลวงเวียงจันทน์ การก่อสร้างทางรถไฟมีการเจาะอุโมงค์ 75 แห่ง รวมระยะทางประมาณ 197 กิโลเมตร และสะพานรถไฟ 163 แห่ง รวมระยะทางประมาณ 61 กิโลเมตร
[su_spacer]
ในระยะแรกจะเปิดให้บริการ 18 เที่ยวต่อวัน แบ่งเป็นการขนส่งผู้โดยสาร 4 เที่ยว เที่ยวละ 7 ตู้ ซึ่งสามารถขนส่งผู้โดยสารได้ 672 คน มีอัตราค่าโดยสาร 350 กีบต่อกิโลเมตรต่อคน (0.039 ดอลลาร์สหรัฐ) และตลอดเส้นทาง 140,000 กีบต่อคน (15.8 ดอลลาร์สหรัฐ) ใช้เวลาเดินทาง 4 ชั่วโมง และการขนส่งสินค้าจํานวน 14 เที่ยว มีอัตราค่าขนส่งประมาณ 600 กีบ (0.068 ดอลลาร์สหรัฐ) ต่อตันต่อกิโลเมตร
[su_spacer]
ทั้งนี้ หากโครงการฯ ดังกล่าวมีการดำเนินการเสร็จสิ้นแล้ว ก็เป็นโอกาสของผู้ประกอบการไทยในการส่งออก-นำเข้าสินค้าและบริการมากขึ้น โดยเฉพาะผู้ประกอบการที่ได้ทำการติดต่อซื้อขายกับประเทศ สปป.ลาวก่อนหน้านี้นั้น สามารถขยายการทำธุรกิจกับสปป.ลาวและประเทศรอบข้างได้มากขึ้น โดยเฉพาะประเทศจีนและเวียดนาม จากการขนส่งสินค้าที่สะดวก,รวดเร็วขึ้นและต้นทุนที่ไม่สูงมากนัก
สถานเอกอัครราชทูต ณ เวียงจันทน์
[su_spacer]
ที่มา: หนังสือพิมพ์เศรษฐกิจการค้า วันที่ 4 ต.ค. 2562