สเปนเป็นประเทศที่มีนักท่องเที่ยวมาเยือนมากที่สุดเป็นอันดับ 2 ของโลกรองจากฝรั่งเศส โดยในปี 2561 สเปนต้อนรับนักท่องเที่ยวจำนวน 82.6 ล้านคน และถึงแม้ว่าสเปนจะไม่ใช่ประเทศมุสลิม แต่ก็รายล้อมไปด้วยประเทศมุสลิม โดยมีประชากรมุสลิมเกือบประมาณ 2 ล้านคนในประเทศ และยังมีแหล่งประวัติศาสตร์ที่เกี่ยวกับมุสลิมอีกมากมาย จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้ประเทศนี้มีศักยภาพสูงด้านการท่องเที่ยวเชิงฮาลาล
[su_spacer]
เมื่อปี 2562 สเปนติดอันดับ 9 ของประเทศในกลุ่มที่ไม่ใช่มุสลิมที่ได้รับความนิยมจากนักเดินทางชาวมุสลิมมากที่สุด (Top 20 Non-OIC Destination) ตามดัชนี Global Muslim Travel Index โดยนักท่องเที่ยวจากประเทศมุสลิม 5 อันดับแรกที่มาเยือนสเปน ได้แก่ แอลจีเรีย ตุรกี โมร็อกโก อียิปต์ และอินโดนีเซีย ในวันนี้เราจะมาพาผู้อ่านมารู้จักศักยภาพการท่องเที่ยวเชิงฮาลาลในสเปน และโอกาสสำหรับผู้ประกอบการธุรกิจและบริการฮาลาลของไทย
[su_spacer]
การท่องเที่ยวเชิงฮาลาลในสเปนนับว่ามีพัฒนาการที่ดีขึ้นตามกระแสโลกในช่วง 6-7 ปีที่ผ่านมา ส่วนหนึ่ง สืบเนื่องมาจากการปรับปรุงเที่ยวบินระหว่างสเปนกับกลุ่มประเทศอาหรับ (Gulf Cooperation Council – GCC) การจัดตั้งสำนักงานส่งเสริมการท่องเที่ยวสเปนในสถานเอกอัครราชทูตสเปน ณ กรุงอาบูดาบี เมื่อปี 2559 เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวกลุ่มประเทศ GCC และการจัดทำเว็บไซต์ของการท่องเที่ยวสเปน (Turespana) เป็นภาษาอาหรับในปี 2560 สำหรับนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้โดยเฉพาะ โดยมีการให้ข้อมูลการท่องเที่ยวเชิงฮาลาลทั้งรายชื่อร้านอาหาร โรงแรมห้องละหมาดในสนามบินมัสยิดทั่วทั้งสเปน เป็นต้น
[su_spacer]
จากสถิติค่าใช้จ่ายของนักท่องเที่ยว (EGATUR) พบว่า ค่าใช้จ่ายเฉลี่ยของนักท่องเที่ยวชาวมุสลิมสูงกว่านักท่องเที่ยวที่ไปเยือนสเปนทั่วไป โดยใช้จ่ายเฉลี่ยอยู่ที่ 137 ยูโร/วัน หรือ 1,063 ยูโร/คน ในปี 2560
[su_spacer]
จุดขายของสเปนสำหรับนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้ ได้แก่ สถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ที่เกี่ยวกับมุสลิมที่ตั้งอยู่ในแคว้นอันดาลูเซีย อาหาร และสภาพอากาศที่เอื้ออำนวยต่อการท่องเที่ยว รวมทั้งการมีระบบโครงสร้างพื้นฐานที่มีประสิทธิภาพ โดยนักท่องเที่ยวจากสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE) ใช้จ่ายเฉลี่ยอยู่ที่ 274 ยูโร/วัน หรือ 2,066/คน ซาอุดีอาระเบีย 286 ยูโร/วัน หรือ 1,877 ยูโร/คน และตุรกี 234 ยูโร/วัน หรือ 1,711 ยูโร/คน ในด้านนโยบายรัฐบาลสเปนได้มอบอำนาจให้รัฐบาลท้องถิ่นกำหนดและดำเนินนโยบายด้านการท่องเที่ยว ในส่วนของการท่องเที่ยวเชิงฮาลาล หากเจาะลึกในแคว้นอันดาลูเซีย (แคว้นทางภาคใต้ของประเทศ) เราจะพบว่ามีความพยายามส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงฮาลาลทั้งจากหน่วยงานภาครัฐและเอกชน
[su_spacer]
ในส่วนของการดำเนินการของภาครัฐ
รัฐบาลอันดาลูเซียได้สร้างจุดขายจากมรดกทางวัฒนธรรมอิสลามอัล-อันดาลุส ผ่านแนวคิด Andalucia, tus Raices (Andalusia Your Roots) เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวชาวมุสลิม ให้เดินทางมาเยือนสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ของศาสนาอิสลามภายในแคว้น โดยรัฐบาลแคว้นฯ ได้ร่วมมือกับสถาบันฮาลาลแห่งเมืองกอร์โดบาเพื่อโน้มน้าวให้ผู้ประกอบการภายในพื้นที่จัดให้มีสินค้าและบริการเชิงฮาลาลที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงฮาลาลอย่างครบวงจร ขณะเดียวกัน หน่วยงานการท่องเที่ยวเมืองกอร์โดบาก็มีแนวคิดจัดทำมาตรฐาน ARISTA เพื่อพัฒนาเส้นทางท่องเที่ยวเชิงฮาลาลในพื้นที่ รวมทั้งการจัดงานเทศกาลสำคัญตามปฏิทินอิสลามเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวชาวมุสลิมเข้าไปสัมผัสรากวัฒนธรรมอิสลามในพื้นที่เมืองกอร์โดบา
[su_spacer]
ในส่วนของภาคเอกชนก็มีการดำเนินการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงฮาลาลจากหลายฝ่าย อาทิ โรงแรม Alanda ในเมือง Marbella ได้ตัดสินใจขอรับมาตรฐานฮาลาลจากสถาบันฮาลาลแห่งเมืองกอร์โดบา และได้กลายเป็นที่พักยอดนิยมจากนักท่องเที่ยวทั้งชาวมุสลิม และที่ไม่ใช่ชาวมุสลิม นอกจากนี้ บริษัททัวร์หลายแห่งได้เริ่มจัดโปรแกรมทัวร์ฮาลาลและมัคคุเทศก์ฮาลาลเพื่อให้นักท่องเที่ยวได้ทำความรู้จักกับอารยธรรมอัล-อันดาลุสอย่างลึกซึ้ง รวมทั้งให้นักท่องเที่ยวมีกิจกรรมต่าง ๆ ให้ทำมากมาย เช่น การเพ้นท์กระเบื้อง การหัดเขียนภาษาอาหรับ การวาดภาพเมือง กอร์โดบา การเยี่ยมชุมชนมุสลิมที่จังหวัดกรานาดา
[su_spacer]
จะเห็นได้ว่าภาคส่วนต่าง ๆ ในสเปน โดยเฉพาะในแคว้นอันดาลูเซียตื่นตัวกับการส่งเสริมตลาดการท่องเที่ยวฮาลาล เพื่อรองรับความต้องการของผู้บริโภคที่มีกำลังซื้อสูง ซึ่งการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงฮาลาลของสเปนก็สามารถเป็นโอกาสสำหรับผู้ประกอบการไทยได้ เช่น
[su_spacer]
– สินค้าอาหารฮาลาลของไทยที่นอกจากจะมีตลาดชาวมุสลิมในสเปนจำนวนกว่า 2 ล้านคนแล้ว ในแต่ละปีก็มีจำนวนนักท่องเที่ยวชาวมุสลิมที่เดินทางเข้ามาในสเปนไม่ขาดสาย ถือเป็นโอกาสที่ดีสำหรับผู้ประกอบการสินค้าอาหารฮาลาลไทยในการขยายตลาดออกไป โดยปัจจุบัน อาหารและเครื่องดื่มฮาลาลที่บริโภคกันในสเปนมักเป็นสินค้าที่นำเข้ามาจากต่างประเทศอยู่แล้ว ซึ่งส่วนใหญ่นำเข้ามาจากโมร็อกโกและฝรั่งเศส อาหารฮาลาลของไทยจึงน่าจะเข้ามาเป็นทางเลือกหนึ่งให้กับผู้บริโภคชาวมุสลิมในสเปน โดยในสเปนมีท่าเรือที่ได้รับการรับรองมาตรฐานฮาลาล คือ ท่าเรืออัลเฆซีราส ตามบทความ “เกาะติดความคืบหน้าท่าเรืออัลเฆซีราส ท่าเรือฮาลาลของสเปน” และ “ขยายตลาดธุรกิจฮาลาลไทย ตอน 3: ท่าเรืออัลเซเซราสและโอกาสสำหรับสินค้าและธุรกิจไทยในสเปน ยุโรปใต้ แอฟริกา และตะวันออกกลาง” ซึ่งช่วยให้ทั้งผู้ประกอบการและผู้บริโภคมั่นใจได้ว่า สินค้าอาหารฮาลาลของไทยส่งถึงมือผู้บริโภคตามหลักฮาลาลทุกประการ
[su_spacer]
– สปาและเครื่องสําอางฮาลาลไทยในสเปน สเปนมีแหล่งบริการโรงแรมและสปาฮาลาลจำนวนไม่มากนัก อีกทั้งยังขาดเครื่องสำอางฮาลาลที่มีคุณภาพ
ความต้องการเครื่องสำอางดังกล่าวมีอยู่มากและกลุ่มประชากรที่ต้องการใช้เครื่องสำอางดังกล่าวต่างก็มีกำลังซื้อสูง ทั้งสปาและเครื่องสำอางฮาลาลของไทยจึงเป็นสินค้าที่น่าจะไปได้สวยในตลาดสเปนแห่งนี้ ผู้สนใจสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้จากบทความเรื่อง “โอกาส เครื่องสำอางฮาลาลไทยในสเปน” ที่ทางศูนย์ข้อมูลเพื่อธุรกิจไทยในสเปนได้เคยประชาสัมพันธ์ไปแล้วเมื่อต้นปี 2562