เมื่อวันที่ 3 มิถุนายน 2562 มหานครฉงซึ่งได้มีการจัดประชุมเสวนา ข้อริเริ่มสายแถบและเส้นทาง (Belt and Road Initiatives) ภายใต้หัวข้อ “การสร้างอนาคตใหม่สำหรับการพัฒนาการเชื่อมโยงทางบกและทางทะเล”ในหัวข้อย่อยการส่งเสริมการพัฒนาความร่วมมือทางอุตสาหกรรมในการพัฒนาการเชื่อมโยงทางบกและทางทะเลอย่างยั่งยืน โดยมีนายจางไป รองประธานสถาบันสังคมศาสตร์ของมหานครฉงชิ่งได้เข้าร่วมแบ่งปันความรู้ความต้องการในการพัฒนาการเชื่อมโยงทางบกและทางทะเลพร้อมแนวทางปฏิบัติใหม่ ๆ ของมหานครฉงชิ่งในการเตรียมความพร้อมด้านนี้ นายจางไปกล่าวว่า ตัวแปรสำคัญต่อการพัฒนาการเชื่อมโยงทางบกและทางทะเลคือความโยงกันของ “ช่องทางการค้าทางบกและทางทะเลระหว่างประเทศ สำหรับมหานครฉงชิ่งใช้เส้นทางการค้าทางน้ำโดยแม่น้ำแยงซีเป็นสายหลักและถือเป็นเส้นทางสำคัญ โดยการพัฒนาที่ผ่านมาทําให้ปัจจุบันท่าเรือของมหานครฉงชิ่งได้กลายเป็นท่าเรือที่สำคัญซึ่งการขนส่งทางทะเลเส้นทางเริ่มต้นจากการขนส่งทางแม่น้ำแยงซีผ่านมหานครฉงชิ่งไปยังเมืองหนิงโปที่ได้เปิดให้บริการเมื่อปลายปีที่แล้วนั้นมีรอบการให้บริการกว่า 140 รอบ เคลื่อนย้ายสินค้ากว่า 1,500 ตู้ (ตู้คอนเทนเนอร์ขนาดมาตรฐาน) สำหรับการขนส่งทางรางไปทางทิศตะวันตกกับเส้นทางรถไฟขนส่งสินค้าจีน (ฉงชิ่ง) – ยุโรป หรือ “หยูซินโอว” มีรอบบริการ ทั้งสิ้นรวมกว่า 3,000 รอบ โดยในปีที่ผ่านมาเพียงแค่ปีเดียวมีรอบบริการกว่า 1,000 รอบ ไปยังประเทศรัสเซีย เยอรมนี และสินค้ายังได้ถูกกระจายไปยังประเทศอื่น ๆ อีกกว่า 40 รอบส่วนทางทิศใต้นั้น ซึ่งเป็นที่ตั้งอยู่ของศูนย์กลางการดำเนินงานของการขนส่งทางทะเลจุดตั้งต้น ณ มหานครฉงชิ่ง มีรอบการบริการการขนส่งกว่า1,000 รอบ นายจางโปกล่าวอีกว่า การพัฒนาการเชื่อมโยงทางบกและทางทะเลต้องมีหลายภาคส่วนช่วยเหลือส่งเสริมซึ่งกันและกัน
[su_spacer]
ทั้งนี้ มหานครฉงชิ่งเป็นเมืองแห่งอุตสาหกรรม 41 อุตสาหกรรมหลักของประเทศจีนมี 39 อุตสาหกรรมเป็นของมหานครฉงชิ่ง โดยเมื่อปีที่ผ่านมา มีมูลค่า GDP ทั้งหมดสูงถึงกว่า 2 แสนล้านหยวน การนำเข้า – ส่งออกมีมูลค่าถึง 52,200 ล้านหยวน เติบโตเพิ่มขึ้น 15.9% การบริการทางการค้ามีมูลค่า 3,150 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 20% มหานครฉงซึ่งเป็นเมืองกลยุทธ์ที่สำคัญสำหรับการพัฒนาของภูมิภาคตะวันตกของจีนเป็นจุดเชื่อมต่อระหว่างข้อริเริ่มสายแถบและเส้นทาง (Belt and Road Initiatives) และเขตเศรษฐกิจแม่น้ำแยงซี นายจางโปยังได้กล่าวทิ้งท้ายไว้ด้วยว่า เขตพื้นที่และมณฑลต่าง ๆ ล้วนมีข้อได้เปรียบเสียเปรียบในส่วนของพื้นที่ตนเองดังนั้น ทุกภาคส่วนเพียงแค่นำข้อได้เปรียบเหล่านั้นมาผนึกกำลังรวมกัน จะเป็นการสร้างความแข็งแกร่งสำหรับการพัฒนาการเชื่อมโยงทางบกและทางทะเล และการสร้างเส้นทางการค้าใหม่ ๆ ของจีนให้สมบูรณ์มากยิ่งขึ้นต่อไปในอนาคต
[su_spacer]
สถานกงสุลใหญ่ ณ นครเฉิงตู