สํานักข่าวในดูไบรายงานผลการจัดอันดับประเทศที่พร้อมในการรับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ การใช้เทคโนโลยียุคใหม่ การเปลี่ยนแปลงของภูมิรัฐศาสตร์ของโลก
และสงครามการค้า (KPMG’s 2019- Readiness Index) ซึ่งเมืองดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) อยู่อันดับที่ 5 ตามหลังสวิตเซอร์แลนด์ สิงคโปร์ เดนมาร์ก สวีเดน ตามลําดับจากการจัดลําดับ 140 ประเทศทั่วโลก ซึ่งดูไบอยู่ในอันดับสูงที่สุดของตะวันออกกลางและแอฟริกาเหนือ (MENA) และอยู่ในอันดับสูงกว่านอร์เวย์ เยอรมนี สหราชอาณาจักร นิวซีแลนด์ ฟินแลนด์ สหรัฐอเมริกา แคนาดา ออสเตรเลีย และญี่ปุ่น โดยดัชนีนี้วัดจากความพร้อมของภาครัฐและเอกชน ประชาชนและสังคมพลเมือง ในประเทศที่จะเตรียมความพร้อมในการจัดการและสร้างสังคมที่สอดรับกับการเปลี่ยนแปลงและสร้าง โอกาสใหม่ ๆ โดย 1) ดูไบได้รับการจัดอันดับสูงเนื่องมาจากรัฐบาลที่พร้อมรับการเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ 2) การตอบรับและใช้เทคโนโลยียุคใหม่เพื่อการพัฒนาประเทศ ทั้ง Blockchain และ AI 3) ความพร้อมต่อการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ 4) การพัฒนาสิ่งแวดล้อมและอื่น ๆ อย่างยั่งยืน 5) การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานอย่างบูรณาการ 6) Trendของสังคม 7) การจัด Hackathon 2019 8) ความพร้อมของดูไบในการลงทุนกว่า 600 พันล้านดีแรห์มในการลงทุนเพื่อตอบสนองอุปสงค์ด้านพลังงานที่จะมีมากขึ้นภายในปี ค.ศ. 2050
[su_spacer]
ทั้งนี้ ในการจัดอันดับดัชนีวัด ใน 3 เสาหลักได้แก่ ความสามารถของบริษัทธุรกิจ (อันดับที่ 5) รัฐบาล และประชาชน(อันดับที่ 3) และสังคมการเมือง (อันดับที่ 16) อนึ่ง การจัดอันดับดังกล่าวของ KPMG ในปีนี้ ดูไบอยู่ในอันดับ 1 ใน 5 มาเป็นครั้งที่ 3 แล้ว แต่ก็ได้ตกลงไป 2 อันดับจากปีที่แล้ว
[su_spacer]
นอกจากนี้ นาย Ambareen Nusa, CEO ของ Sougalmail.com กล่าวว่า รัฐบาลยูเออีได้ใช้ disruptive innovationอย่างมาก อาทิ blockchain และ AI โดยเฉพาะโปรแกรมเร่งรัดการใช้เทคโนโลยีเหล่านี้ให้กับภาคธุรกิจ และการโฟกัสไปยังความยั่งยืนในด้านต่าง ๆ สําหรับดูไบมีบริการ smart government และมี application ให้เข้ารับบริการต่าง ๆ ของรัฐได้อย่างกว้างขวาง และยังมี Dubai Now ซึ่งเป็นความริเริ่มใหม่ในการนําดูไบไปสู่โลกอนาคตในการเป็นเมืองอัจฉริยะ ซึ่งจะเป็นbenchmark ของเมืองต่าง ๆ ทั่วโลก ซึ่งดูไบเป็นเมืองที่พยายามลดระบบราชการลงและมีวัฒนธรรมระดับชาติที่นิยมและรักการเปลี่ยนแปลง (pro-change culture) ซึ่ง ดูไบไม่เพียงปรับตัวสําหรับการเปลี่ยนแปลงเท่านั้น แต่ยังเป็นผู้ขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงด้วย
[su_spacer]
อนึ่ง ในการจัดอันดับของ KPMG สําหรับ MENA ยูเออีอยู่ในอันดับ 5 กาตาร์อันดับ 12 ซาอุดิอาระเบียอันดับ 30จอร์แดนอันดับ 42 โมร็อกโกอันดับ 67 ตูนิเซียอันดับ 68 เลบานอนอันดับ 77 อียิปต์อันดับ 81 อิหร่านอันดับ 93 แอลจีเรียอันดับ 111 เยเมนอันดับ 131 ลิเบียอันดับ 135 สําหรับประเทศที่อยู่ในอันดับต่ำสุด ได้แก่ ประเทศยากจนในแถบแอฟริกาและเอเชีย เช่น โซมาเลีย ซูดานใต้ ชาด อัฟกานิสถาน ซูดาน ลิเบีย แองโกลา เฮติ คองโก และเยเมน
[su_spacer]
นอกจากนี้ จากการวิจัยของ U. Savills ในดัชนีการเป็นเมืองที่ยืดหยุ่นที่สุด (Resilient Cities Index) ในด้าน อสังหาริมทรัพย์ระดับโลก โดยคํานึงถึงความสามารถในการใช้เทคโนโลยี ประชากร และความเป็นผู้นําในยุค disruption ที่กระทบต่อโลกอสังหาริมทรัพย์ในยุคปัจจุบันและในอนาคต 10 ปีข้างหน้า ปรากฏผลว่า ทั้งเมืองดูไบ และกรุงอาบูดาบียังคงเป็นเมืองที่มีความยืดหยุ่นสูงที่สุดในตะวันออกกลางจนถึงปี ค.ศ. 2028 โดยทั้ง 2 รัฐจะยังคงเป็น 1 ใน 30 เมืองทั่วโลกที่ยังอยู่ในอันดับสูงสุด โดยปัจจุบันกรุงอาบูดาบีอยู่ในอันดับ 22 ไปจนถึงปี 2028 (เมื่อทศวรรษที่แล้วอยู่อันดับที่ 25) ขณะที่ดูไบอยู่ในอันดับที่27 ในปัจจุบัน และจะเพิ่มขึ้นเป็นอันดับที่ 26 ภายใน 10 ปีข้างหน้า
[su_spacer]
ทั้งนี้ ตาม Savills’ Resilient Cities Index นอกจากกรุงอาบูดาบีและดูไบแล้ว เมืองใน 5 อันดับของภูมิภาคฯ ที่เป็นเมืองยืดหยุ่นสูงต่อมา คือ กรุงคูเวตซิตี้ กรุงริยาด และเมืองเจดดาห์ตามลําดับ แต่ภายในปี 2028 กรุงริยาด จะขึ้นนํากรุงคูเวตซิตี้ อนึ่ง ขณะนี้ นครนิวยอร์ค กรุงโตเกียว กรุงลอนดอน และนครลอสแองเจลิส เป็นเมืองที่ยืดหยุ่นที่สุดของโลกในปัจจุบันจนถึงปี 2028
[su_spacer]
นาย Arshad Khan ผู้จัดการ Wealth Monitor กล่าวว่าสิ่งสําคัญของประเทศต่างๆ ในการพัฒนาเมือง คือการปรับตัวให้ทันต่อการแข่งขันของโลกและการใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ ๆ เข้ามาใช้งานให้มาก ซึ่งดูไบและยูเออีมีความพร้อมในเรื่องนี้ รวมทั้งการใช้ AI, blockchain และเทคโนโลยียุคใหม่ต่าง ๆ ซึ่งผู้นําดูไบและ วิสัยทัศน์ของบุคคลเหล่านั้น เป็นสิ่งที่นําพาประเทศไปสู่ความสําเร็จ
[su_spacer]
ทั้งนี้ จากการศึกษาแนะนําว่า นักลงทุนที่กล้าหาญจะต้องมองผลตอบแทนในระยะยาวทั้งในส่วนของ ตลาดตะวันออกกลาง อินเดีย และเมืองรองของจีน ซึ่งหลายตลาดยังไม่มีการลงทุนเท่าใดนัก และในรายงานได้ ระบุว่า กรุงริยาดและเมืองเจดดาห์ ยังอยู่ใน 1 ใน 8 เมืองในตะวันออกกลางที่มีความท้าทายและพร้อมจะปรับตัว ขึ้นสูงในอนาคต อนึ่ง ดัชนีดังกล่าวใช้สําหรับนักลงทุนที่ต้องการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ในระยะยาวที่จะมี ผลตอบแทนสูงในอนาคต เป็นแหล่งการลงทุนที่จะปลอดภัยในยุคการลงทุนข้ามพรมแดน สําหรับเมืองที่น่าจับตา ในการเป็นเมืองที่มีความท้าทายสูงในอนาคตของโลก ได้แก่ เมืองหางโจว กรุงริยาด หนานจิง หนิงโป เมืองเดลี นครมุมไบ เมืองเจดดาห์ และเมืองบังกาลอร์ เป็นต้น
[su_spacer]
สถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองดูไบ