มาดากัสการ์เป็นหนึ่งในประเทศที่ตั้งอยู่ในทวีปแอฟริกา ซึ่งอุดมสมบูรณ์ด้วยทรัพยากรธรรมชาติจำพวกแร่ธาตุที่สำคัญมากมายที่ส่วนใหญ่ยังไม่ได้รับการสำรวจขุดเจาะและพัฒนาประโยชน์เชิงพาณิชย์ อาทิ ถ่านหิน เหล็ก นิเกิล ทองแดง ก๊าซธรรมชาติ และน้ำมัน เป็นต้น รวมทั้งยังมีแร่อัญมณีมีค่าซึ่งมีคุณภาพสูงเป็นที่ต้องการของตลาดอัญมณีในโลกอีกด้วย อาทิ ไพลิน ทัมทิม มรกต ทูมารีน ฯลฯ ทำให้ในปัจจุบันมีผู้ประกอบการจากทั่วโลกรวมถึงไทยเข้าไปประกอบธุรกิจอยู่ในมาดากัสการ์นานนับสิบปีเพื่อทำสัมปทานขุดเจาะและรับซื้อแร่ดิบส่งกลับมาเจียระไนในประเทศต้นทาง ก่อนจะผลิตเป็นอัญมณีสำเร็จรูปส่งออกจำหน่ายในตลาดโลก [su_spacer size=”20″]
จากสถิติทางการของมาดากัสการ์ พ่อค้าชาวไทยรับซื้อพลอยดิบจากชาวพื้นเมืองท้องถิ่นมาลากัสซี มูลค่ารวมปีละ 7 พันล้านบาท และนำวัตถุดิบอัญมณีดังกล่าวมาแปรรูปในไทยเพื่อส่งออกอัญมณีไปยังตลาดโลก ซึ่งสร้างรายได้ให้แก่ไทยมูลค่า 4 แสนล้านบาท ในปี 2560 โดยมาดากัสการ์เป็นประเทศเป้าหมายด้านอัญมณีที่ไทยต้องการจากแอฟริกาในภาพรวม เนื่องจากพ่อค้าพลอยไทยไม่สามารถเข้าถึงแหล่งวัตถุดิบแหล่งพลอยคุณภาพดีขนาดใหญ่ในปัจจุบันอย่างโมซัมบิกและแทนซาเนียได้อีกต่อไป เนื่องจากทางการของทั้งสองประเทศถือว่าการนำพลอยดิบออกนอกประเทศถือเป็นเรื่องผิดกฎหมายและทั้งสองประเทศนี้จะให้สัมปทานเฉพาะบริษัทซึ่งรัฐบาลของทั้งสองประเทศเห็นชอบเท่านั้น ดังนั้น แหล่งพลอยขนาดใหญ่ที่พ่อค้าพลอยไทยสามารถเข้าถึงได้ในปัจจุบันจึงมีเพียงมาดากัสการ์และเอธิโอเปีย ซึ่งพ่อค้าพลอยไทยต่างลงความเห็นว่าพลอยไพลินของมาดากัสการ์เป็นพลอยที่มีคุณภาพเกรด 1 มีคุณลักษณะเทียบเท่ากับพลอยไพลินจากศรีลังกา ในขณะที่พลอยไพลินในเอธิโอเปียจัดเป็นพลอยเกรด 2 ซึ่งไม่ได้รับความนิยมในตลาดโลก [su_spacer size=”20″]
อย่างไรก็ตาม แม้การค้าพลอยและรับซื้อพลอยดิบจากชาวพื้นเมืองของมาดากัสการ์ถือว่าเป็นเรื่องที่กระทำได้ตามข้อกฎหมายท้องถิ่น ซึ่งที่ผ่านมาพ่อค้าพลอยไทยได้ปฏิบัติตามกฎระเบียบอย่างเคร่งครัด โดยเริ่มตั้งแต่การได้รับวีซ่าถูกประเภท การชำระภาษีตามขั้นตอนอย่างครบถ้วนก่อนที่จะส่งพลอยดิบเข้ามายังประเทศไทย แต่ในปัจจุบันทิศทางของการดำเนินธุรกิจได้เปลี่ยนไปอย่างมากในอุตสาหกรรมดังกล่าว โดยในตอนนี้ มาดากัสการ์กำลังต้องการให้ผู้ประกอบการต่างชาติจัดตั้งโรงงานเจียระไนพลอยในมาดากัสการ์ก่อนที่จะส่งออกไปยังประเทศอื่น เนื่องจากต้องการสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่สินค้าและสร้างงานในตลาดแรงงานในประเทศตนเอง ดังนั้น จึงเป็นเรื่องที่ผู้ประกอบการไทยควรตระหนักถึงและปรับตัวการดำเนินธุรกิจให้ตรงกับสถานการณ์มากขึ้นเพื่อให้ผู้มีอำนาจในการกำหนดทิศทางด้านอัญมณีของมาดากัสการ์ตระหนักถึงความร่วมมือของผู้ประกอบการไทยในการช่วยเหลือมาดากัสการ์สร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่แร่อัญมณีภายในประเทศเพื่อรักษาผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจของไทยในมาดากัสการ์ ซึ่งเป็นแหล่งวัตถุดิบด้านอัญมณีแหล่งสุดท้ายของไทยในภูมิภาคแอฟริกาที่ควรรักษาไว้ [su_spacer size=”20″]
ทั้งนี้ ด้วยแรงงานของมาดากัสการ์ในภาคอุตสาหกรรมยังไม่มีประสิทธิภาพมากพอ รวมถึงผู้ประกอบการจำนวนมากยังอยู่นอกระบบและประกอบการอย่างไม่ถูกต้องตามกฎหมาย ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นปัจจัยที่เป็นอุปสรรคต่อการเจริญเติบโตของภาคอุตสาหกรรมอัญมณีในมาดากัสการ์ นอกจากนี้ โดยทั่วไปแล้วมาดากัสการ์ไม่มีปัญหาและอุปสรรคทางการค้าเป็นการเฉพาะ ยกเว้นแต่ปัญหาด้านภาษาที่ใช้ฝรั่งเศสเป็นหลัก และรูปแบบการบริโภคของชาวมาดากัสการ์ที่ไม่เคยชินกับรูปแบบการตลาดแบบตะวันตก ดังนั้น หากผู้ประกอบการไทยท่านใดสนใจเข้าไปลงทุนตั้งโรงงานเจียระไนในมาดากัสการ์แล้ว ขอแนะนำให้ติดต่อโดยตรงกับสมาคมไทย-มาดา (Thai-Mada Association) เพื่อประสานงานและขอคำปรึกษาในด้านธุรกิจอัญมณีและกฎระเบียบท้องถิ่นที่เกี่ยวข้อง โดยผู้ประกอบการไทยสามารถติดต่อสถานกงสุลใหญ่ของไทยประจำกรุงอันตานานาริโวที่ thaitnr@mfa.go.th เพื่อขอรับทราบข้อมูลและหมายเลขติดต่อกับสมาคมไทย-มาดาต่อไป [su_spacer size=”20″]
ศูนย์ธุรกิจสัมพันธ์
กรมเศรษฐกิจระหว่างประเทศ กระทรวงการต่างประเทศ
สถานกงสุลใหญ่ ณ กรุงอันตานานาริโว