เทศบาลเมืองซาร์บรึคเคิน ประเทศเยอรมนี อยู่ระหว่างเจรจาต่อรองกับบริษัท 3 แห่งที่มีระบบให้เช่า E-Scooter (Sharing System) ซึ่งคาดว่าอัตราค่าเช่าจะอยู่ที่ 0.15 ยูโรต่อนาที เพื่อสนับสนุนการขนส่งมวลชนท้องถิ่น ลดความหนาแน่นของการจราจรในใจกลางเมือง และอํานวยความสะดวกให้แก่ประชาชนในการเชื่อมต่อไปยังป้ายรถโดยสารประจําทางและสถานีรถไฟ โดยจะเป็นครั้งแรกที่เมืองซาร์บรึคเคินจะมีระบบให้เช่ายานพาหนะสองล้อที่สามารถใช้เดินทางระยะสั้นได้ หลังจากที่ถูกปฏิเสธการให้บริการจากบริษัทให้เช่าจักรยาน โดยการใช้บริการ E-Scooter ผู้เช่าจะต้องลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชันของบริษัทที่ให้บริการก่อน และมีค่าปลดล็อค 1 ยูโรเมื่อจะใช้ E-Scooter โดยจะคิดค่าเช่านาทีละ 0.15 ยูโร จนกว่าจะจอดรถและออกจากระบบ ทั้งนี้ E-Scooter จะวางกระจายไปตามทางเท้าและแหล่งชุมชนต่าง ๆ [su_spacer size=”20″]
นอกจากนี้ เมืองซาร์บรึคเคินยังมีแผนการเพิ่มพื้นที่จอดรถยนต์บริเวณเส้นทางรถไฟ และโครงการสร้างลานจอดรถยนต์แห่งใหม่ในเขต Brebach (เขตหนึ่งทางด้าน ทิศใต้ของเมือง) โดยแหล่งข่าวด้านอุตสาหกรรมรายงานว่า บริษัท “Voi” ของสวีเดน และบริษัท start-ups ของกรุงเบอร์ลิน ได้แก่ “Flash” และ “Tier Mobility” ที่เป็นผู้ให้บริการธุรกิจด้านนี้ของเยอรมนี พยายามกีดกันไม่ให้บริษัทรายใหญ่ของสหรัฐ ฯ คือ “Lime” และ “Bird” เข้าแข่งขันในตลาดเยอรมนีได้ [su_spacer size=”20″]
ผู้เชี่ยวชาญให้ความเห็นว่า ถึงแม้ว่าวุฒิสภาของเยอรมนีจะยังไม่อนุญาตให้ขับขี่ E-Scooter บนทางเท้า และบริเวณทางคนเดินที่มีป้าย “เขตปลอดจักรยาน” แต่อาจมีความเป็นไปได้ในอนาคต เนื่องจาก E-Scooter และจักรยานไฟฟ้ามีระเบียบปฏิบัติแบบเดียวกัน นอกจากนี้ บริษัทผู้ให้เช่า E-Scooter ยังสามารถใช้ระบบกำหนดตำแหน่ง GPS ติดตามและควบคุม รวมไปถึงสามารถลดความเร็วและสามารถหยุดการทำงานเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉินได้ด้วย [su_spacer size=”20″]
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 17 พ.ค. 2562 วุฒิสภาของเยอรมนี มีมติเห็นชอบให้สามารถใช้ E-Scooter ได้บนถนนและเส้นทางจักรยานทั่วเยอรมนี โดยกำหนดให้มีความเร็วสูงสุดไม่เกิน 20 กม./ชม. และผู้ขับขี่ต้องมีอายุ 14 ปีขึ้นไป โดยไม่จำเป็นต้องสวมหมวกกันน็อคและมีใบขับขี่ ซึ่งมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนมากขึ้นทั้งกับผู้ขับขี่และผู้ใช้ทางเท้า [su_spacer size=”20″]
นาย Andreas Scheuer รัฐมนตรีว่าการกระทรวงขนส่งของเยอรมนี ให้ความเห็นว่า การนำ E-Scooter มาใช้ จะช่วยลดช่องว่างของระบบขนส่งสาธารณะ ลดการใช้รถยนต์สำหรับการเดินทางระยะใกล้ ลดปัญหามลภาวะทางอากาศได้ และคาดว่าจะสามารถออกกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องได้ภายในเดือน มิ.ย. 2562 [su_spacer size=”20″]
NGO กลุ่ม Friends of the Earth Germany (BUND) แสดงความห่วงกังวลว่า มีความเป็นไปได้ที่ E-Scooter จะเข้ามาแย่งพื้นที่ของจักรยานบนเส้นทางจักรยาน และจากการที่ E-Scooter มีอายุการใช้งานที่สั้น จึงอาจก่อให้เกิดปัญหาขยะลิเธียมและอลูมิเนียม จาก E-Scooter ที่หมดอายุการใช้งานแล้ว อีกทั้งกลุ่ม German Society for Orthopaedics and Trauma (DGOU) แสดงความห่วงกังวลว่า E-Scooter จะก่อให้เกิดอันตรายจากอุบัติเหตุบนท้องถนนอย่างมาก เนื่องจากผู้ใช้ยานพาหนะอื่น ๆ บนท้องถนนจําเป็นต้องปรับตัว และพื้นที่วางเท้าของ E-Scooter อยู่ในระดับที่ต่ำมาก ทําให้เกิดอันตรายต่อผู้ขับขี่ได้ง่าย หากประสบอุบัติเหตุล้มลง โดยสหราชอาณาจักร เป็นประเทศเดียวในยุโรปที่อนุญาตให้ E-Scooter วิ่งบนถนนและทางรถจักรยานได้ [su_spacer size=”20″]
สถานกงสุลใหญ่ ณ นครแฟรงก์เฟิร์ต