เมื่อวันที่ 25 ม.ค. 2562 รัฐบาลนครกุ้ยหยางและบริษัท Tencent ลงนามกรอบความร่วมมือในเชิงลึก ใจความสําคัญคือ เพื่อร่วมกันยกระดับนครกุ้ยหยางให้มีความเป็นอัจฉริยะมากขึ้น กลายเป็น “Smart Digital Guiyang” ซึ่งก่อนหน้านี้ รัฐบาลนครกุ้ยหยางได้เคยลงนามความร่วมมือกับบริษัท Tencent เพื่อสร้างให้กุ้ยหยางกลายเป็น “China’s Big Data Valley” ในงาน China International Big Data Industry Expo (Big Data Expo) เมื่อเดือน พ.ค. 2561 [su_spacer size=”20″]
การลงนามในครั้งนี้รัฐบาลกุ้ยหยางจะอาศัยประสบการณ์และเทคโนโลยีของบริษัท Tencent ซึ่งเป็น ยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีสื่อสารของจีน เช่น Cloud Computing, Big Data, Blockchain และ AI ช่วยสนับสนุนให้นครกุ้ยหยางพัฒนาด้านเศรษฐกิจดิจิทัล กลายเป็นเมืองแห่งสีเขียว Low Carbon มีความสะดวกสบาย และเมืองแห่งนวัตกรรม [su_spacer size=”20″]
ช่วงปี 2558 กุ้ยหยางได้รับการอนุมัติให้เป็นพื้นที่สาธิตการรวบรวมอุตสาหกรรม Big Data ระดับประเทศแห่งแรกของจีน ขณะเดียวกันช่วงต้นปี 2559 รัฐบาลจีนได้อนุมัติให้มณฑลกุ้ยโจวเป็นเขตนําร่อง Big Data ระดับประเทศแห่งแรกของจีน (National Big Data Pilot Zone) ทําให้นครกุ้ยหยางมีชื่อเสียงกลายเป็น “China’s Big Data Valley”แห่งใหม่ของจีน และรัฐบาลกุ้ยหยางได้สนับสนุนการพัฒนาด้านนวัตกรรมมาอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ นายเฉิน เอี้ยน นายกเทศมนตรีนครกุ้ยหยางกล่าวว่า ความร่วมมือกันในครั้งนี้จะช่วยให้การยกระดับความเป็นดิจิทัลของนครกุ้ยหยางบรรลุผลสําเร็จ [su_spacer size=”20″]
ตัวอย่างของความร่วมมือที่จะเกิดขึ้นจากการลงนามดังกล่าว เช่น การสร้าง “รัฐบาลดิจิทัล” เพื่อยกระดับการอํานวยความสะดวกและคุณภาพชีวิตของประชาชน เพียงแค่ใช้มือถือเครื่องเดียวก็สามารถบริการประชาชนแบบครบวงจรและสร้างความพึงพอใจให้กับประชาชนมากขึ้น เช่น ใช้มือถือสแกนใบหน้าก็สามารถตรวจสอบตัวตนและแสดงหลักฐานเกี่ยวกับใบขับขี่อิเล็กทรอนิกส์หรือบัตรประชาชนอิเล็กทรอนิกส์หรือใบรับรองการพํานักอาศัยควบคู่ไปกับการบริการอื่นที่มีให้อย่างครบครัน เช่น การจ่ายค่าประกันสังคม การสอบถามกองทุน การชําระค่าน้ำ ค่าไฟ และค่าปรับ เป็นต้น นอกจากนี้ ยังจะร่วมกันพัฒนาในด้านอื่น ๆ เช่น การสร้างเขตพัฒนานวัตกรรม ความร่วมมือกับสถาบันการศึกษาเพื่อบ่มเพาะบุคลากรด้าน AI [su_spacer size=”20″]
สถานกงสุลใหญ่ ณ นครคุนหมิง