นายคำมะนี อินทิลาด รัฐมนตรีกระทรวงพลังงานและบ่อแร่แห่ง สปป. ลาว ได้ตอบข้อซักถามของสมาชิกสภาแห่งชาติเกี่ยวกับประเด็นการสร้างเขื่อนไฟฟ้า และการจำหน่ายไฟฟ้าไปยังประเทศเพื่อนบ้าน ว่า ปัจจุบัน สปป. ลาว มีแหล่งผลิตไฟฟ้าจำนวน 61 แห่ง มีกำลังการผลิตติดตั้งรวม 7,207.24 เมกะวัตต์ สามารถผลิตไฟฟ้าได้37,366.66 กิกะวัตต์-ชั่วโมงต่อปี โดยได้จำหน่ายไฟฟ้าให้กับประเทศเพื่อนบ้าน อาทิ ไทย มาเลเซีย เวียดนาม จีน และเมียนมา [su_spacer size=”20″]
นายคำมะนีฯ เปิดเผยเพิ่มเติมว่า ภายหลังการประกาศใช้กฎหมายว่าด้วยไฟฟ้าปี 2540 และการดำเนินนโยบายดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศทำให้มีนักธุรกิจเข้ามาลงทุนในธุรกิจไฟฟ้า (IPP) ซึ่งถือเป็นการริเริ่มการดำเนินธุรกิจไฟฟ้าในรูปแบบการมีส่วนร่วมของภาคเอกชนทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ ต่อมาในปี 2550สปป. ลาว มีแหล่งผลิตไฟฟ้าที่มีกำลังการผลิตติดตั้งประมาณ 450 เมกะวัตต์ หรือประมาณร้อยละ 40 ของครัวเรือนผู้บริโภคทั่วประเทศ [su_spacer size=”20″]
ปัจจุบัน สปป. ลาว มีแหล่งผลิตไฟฟ้าจำนวน 61 แห่ง มีกำลังการผลิตติดตั้ง 7,207.24 เมกะวัตต์ สามารถผลิตไฟฟ้าได้ 37,366.66 กิกะวัตต์-ชั่วโมงต่อปี ประกอบด้วย เขื่อนไฟฟ้าขนาดกลางและใหญ่จำนวน 32 แห่ง เขื่อนไฟฟ้าขนาดเล็กที่มีกำลังการผลิตติดตั้งไม่เกิน 15 เมกะวัตต์จำนวน 21 แห่ง โรงผลิตไฟฟ้าถ่านหินจำนวน 1 แห่ง โครงการไฟฟ้าพลังงานทดแทนจำนวน 2 แห่ง และโรงผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์จำนวน 5 แห่ง ทั้งนี้ คาดว่า ปี 2562 – 2563 จะมีโครงการที่ก่อสร้างเสร็จจำนวน 36 โครงการ มีกำลังการผลิตติดตั้งรวม 4,184.10 เมกะวัตต์ สามารถผลิตไฟฟ้าได้ 20,892.99 กิกะวัตต์-ชั่วโมงต่อปี ประกอบด้วย เขื่อนขนาดกลางและใหญ่จำนวน 14 โครงการ และเขื่อนขนาดเล็กมีกำลังการผลิตติดตั้งน้อยกว่า 15 เมกะวัตต์จำนวน 22 โครงการ [su_spacer size=”20″]
นายคำมะนีฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า การจำหน่ายไฟฟ้าไปต่างประเทศนั้น สามารถดำเนินการได้ ดังนี้ [su_spacer size=”20″]
(1) การเซ็นสัญญาซื้อ – ขายพลังงานไฟฟ้ากับประเทศไทยจำนวน 9,000 เมกะวัตต์นั้น ปัจจุบันสามารถจำหน่ายให้ประเทศไทย ได้แล้วจำนวน 4,000 เมกะวัตต์ และคาดว่าในปี 2563 และปี 2573 จะสามารถจำหน่ายไฟฟ้าได้จำนวน 7,000 เมกะวัตต์ และ 9,000เมกะวัตต์ ตามลำดับ [su_spacer size=”20″]
(2) การเซ็นสัญญาซื้อ – ขายพลังงานไฟฟ้ากับประเทศเวียดนามจำนวน 5,000 เมกะวัตต์นั้น ปัจจุบันสามารถจำหน่ายให้ประเทศเวียดนามได้จำนวนกว่า 300เมกะวัตต์ และคาดว่าในปี 2563 และปี 2573 จะสามารถจำหน่ายได้จำนวน 1,000 เมกะวัตต์ และ 5,000 เมกะวัตต์ ตามลำดับ [su_spacer size=”20″]
(3) การจำหน่ายไฟฟ้าให้ประเทศมาเลเซียผ่านสายนำส่งในประเทศไทยนั้น ปัจจุบันสามารถจำหน่ายได้จำนวน 100 เมกะวัตต์ และคาดว่า ในปี 2563 จะสามารถจำหน่ายได้จำนวน 300 เมกะวัตต์ [su_spacer size=”20″]
(4) การจำหน่ายไฟฟ้าให้ประเทศกัมพูชา ปัจจุบันสามารถจำหน่ายได้จำนวน 10 เมกะวัตต์ และคาดว่าในปี 2563 จะสามารถจำหน่ายได้จำนวน 200 เมกะวัตต์ [su_spacer size=”20″]
(5) การจำหน่ายไฟฟ้าให้ประเทศเมียนมา ปัจจุบันสามารถจำหน่ายได้กว่า 5 เมกะวัตต์ และคาดว่าในปี 2563 จะสามารถจำหน่ายได้จำนวน 100 เมกะวัตต์ [su_spacer size=”20″]
ในปี 2562 จะมีเขื่อนไฟฟ้าก่อสร้างเสร็จจำนวน 12 เขื่อน มีกำลังการผลิตติดตั้งรวม 1,959.94 เมกะวัตต์ โดย สปป. ลาว ได้เซ็นสัญญาซื้อ – ขายไฟฟ้าให้กับประเทศไทยแล้วจำนวน 1,575 เมกะวัตต์ นอกจากนี้ จะใช้เพื่อการบริโภคภายในประเทศจำนวน 384.94 เมกะวัตต์ [su_spacer size=”20″]
ศูนย์ข้อมูลเพื่อธุรกิจไทยในลาว