หนังสือพิมพ์ Saudi Gazette ฉบับวันที่ 22 ตุลาคม 2561 ได้รายงานข่าวในหัวข้อ “Over $800 billion invested in Saudi construction projects” โดยอ้างอิงข้อมูลจาก BNC Network ซึ่งเป็นองค์กรที่ให้บริการข่ าวสารความเคลื่อนไหวเกี่ยวกั บภาคการก่อสร้างที่ใหญ่ที่สุ ดในภูมิภาคตะวันออกกลางและแอฟริ กาเหนือ รายงานของ BNC Network แสดงให้เห็นว่าประเทศซาอุดี อาระเบียซึ่งเป็นประเทศที่ใหญ่ ที่สุดและมีประชากรมากที่สุดใน ประเทศกลุ่มอ่าว (GCC) มีโครงการก่อสร้างที่กําลังดํ าเนินการอยู่มากกว่า 5,200 โครงการ โดยมีมูลค่าถึง 819 พันล้านดอลลาร์สหรัฐหรือคิดเป็น 35% จากจํานวนโครงการก่อสร้างที่กํ าลังดําเนินการอยู่ทั่วทั้ งหมดในกลุ่ม GCC แม้ว่าซาอุดีอาระเบียจะต้องเผชิ ญกับภาวะราคาน้ำมันตกต่ำ และการขาดแคลนแรงงานคุณภาพก็ตาม แต่สําหรับในปีนี้ ภาคการก่อสร้างยั งคงสามารถขยายตัวได้ถึง 4.1% และคาดการณ์ว่าระหว่างปี 2018 – 2022 จะมีอัตราการเติบโตเฉลี่ย/ปีได้ ถึง 6.13% [su_spacer size=”20″]
การเปิดตัวโครงการหลาย ๆ โครงการ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในวิสัยทัศน์ 2030 ของซาอุดีอาระเบีย อาทิ โครงการรีสอร์ท Amaala ที่เปิดตัวไปเมื่อเดือนกั นยายนที่ผ่านมาได้รับการสนับสนุ นทางการเงินจากกองทุนการลงทุ นสาธารณะซึ่งมีมูลค่าหลายพันล้ านดอลลาร์สหรัฐ หรืออภิมหาโครงการอย่างเช่น โครงการเมืองใหม่ NEOM ที่เมืองตาบูก (Tabuk) ทางภาคเหนือของประเทศ ซึ่งมีขนาดพื้นที่ครอบคลุ มมากกว่า 26,500 ตารางกิโลเมตร และโครงการริมชายฝั่งทะเลแดงที่ เปรียบเทียบว่าเป็นริเวียร่าแห่ งตะวันออกกลาง (Riviera of the Middle East) รวมถึงโครงการก่อสร้างอื่น ๆ เป็นสิ่งที่พิสูจน์ให้เห็นถึ งการเติบโตในภาคการก่อสร้ างของประเทศได้เป็นอย่างดี โดยภาคการก่อสร้างเมืองมีสัดส่ วนของการขยายตัวมากที่สุดถึง 3,727 โครงการ คิดเป็นมูลค่า 386.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ รองลงมาได้แก่การก่อสร้ างระบบสาธารณูปโภค 733 โครงการ มูลค่า 95.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ และตามด้วยภาคการก่อสร้ างระบบคมนาคมอีก 500 โครงการ โดยมีมูลค่า 156.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ [su_spacer size=”20″]
สถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองเจดดาห์