บริษัท SK Hynix ได้เปิดตัวโรงงานผลิตสารกึ่งตั วนำ (semiconductor) แห่งใหม่ที่เมืองชองจู จ. ชุงชองเหนือ ซึ่งถือเป็นโรงงานผลิต semiconductor ที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลก รองจากโรงงานของบริษัท Samsung Electronics โดยโรงงานดังกล่าวใช้ งบประมาณในการก่อสร้ างโรงงานรวมกว่า 2.2 ล้านล้านวอน หรือประมาณ 1.95 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ใช้เวลาก่อสร้างประมาณ 1 ปีครึ่ง มีเนื้อที่กว่า 60,000 ตร.ม. ทั้งนี้ ทางบริษัทมีแผนที่จะลงทุนค่าติ ดตั้งอุปกรณ์เพิ่มเติมอีกกว่า 20 ล้านล้านวอน หรือประมาณ 1.77 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยคาดว่าจะสามารถเริ่ มกระบวนการผลิตได้ในช่วงต้นปี 2562 [su_spacer size=”20″]
ผู้เชี่ยวชาญที่อยู่ในแวดวงอุ ตสาหกรรม semiconductor ประเมินว่า โรงงานดังกล่าวจะสามารถผลิตแผ่ นจานซิลิคอนเวเฟอร์ (silicon wafer) ขนาด 300 มม. ซึ่งเป็นชิ้นส่วนสําคัญสําหรั บใช้ผลิต NAND flash chip ได้มากถึง 200,000 แผ่น/เดือน และจะส่งผลให้ขี ดความสามารถในการผลิต NAND flash chip โดยรวมของบริษัท SK Hynix เพิ่มสูงขึ้นกว่า 40% ภายในปี 2566 ด้านสถาบันวิจัยเศรษฐกิจ (Institute of Economic Research) แห่งมหาวิทยาลัยแห่งชาติโซล (Seoul National University – SNU) ประเมินว่า โรงงานดังกล่าวจะสามารถสร้างตํ าแหน่งงานใหม่ได้มากกว่า 218,000 ตําแหน่ง และสร้างผลประโยชน์ทางเศรษฐกิ จต่อทั้ง SK Hynix บริษัทซัพพลายเออร์ และพันธมิตรทางธุรกิจ คิดเป็นมูลค่ารวมกว่า 70.9 ล้านล้านวอน หรือประมาณ 6.25 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐภายในปี 2566 [su_spacer size=”20″]
ทั้งนี้ การตัดสินใจขยายฐานการผลิต semiconductor ของบริษัท SK Hynix ดังกล่าวเป็นไปตามวิสัยทัศน์ ของนายเช แท-วอน (Chey Tae-won) ประธาน SK Group ที่ได้ประกาศเมื่อปี 2558 ว่าบริษัทจะลงทุนในอุตสาหกรรม semiconductor เป็นมูลค่ากว่า 46 ล้านล้านวอน และมีวัตถุประสงค์เพื่อรองรั บความต้องการ NAND Chip ที่คาดว่าจะเพิ่มสูงขึ้นอย่ างรวดเร็วในยุคการปฏิวัติอุ ตสาหกรรมครั้งที่ 4 (Fourth Industrial Revolution) และในอนาคต [su_spacer size=”20″]
อนึ่ง ในพิธีเปิดโรงงานดังกล่าวเมื่ อวันที่ 4 ต.ค. 2561 ประธานาธิบดีเกาหลีใต้ได้ร่ วมกล่าวแสดงความยินดีต่อการเปิ ดโรงงานดังกล่าวด้วย และเน้นย้ำว่า semiconductor เป็นอุตสาหกรรมสําคัญของประเทศ โดยมีส่วนช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิ จเกาหลีใต้และสามารถนํารายได้ เข้าประเทศได้มหาศาล (การส่งออก semiconductor ของเกาหลีใต้ในช่วงครึ่ งแรกของปี 2561 มีมูลค่าสูงถึง 6.12 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ) การเปิดทําการโรงงานแห่งใหม่ดั งกล่าวจะช่วยสร้างงานและเป็ นผลดีต่อเศรษฐกิจเกาหลีใต้ โดยรวม และรัฐบาลยืนยันว่าจะเดินหน้ าปรับลดกฎระเบียบ/ขั้นตอนการดํ าเนินธุรกิจที่ซ้ำซ้อนหรือไม่ จำเป็นเพื่อกระตุ้นการลงทุ นของภาคเอกชนให้มากขึ้น โดยพร้อมช่วยเหลือและสนับสนุ นให้บริษั ทเอกชนแสวงหาโอกาสทางธุรกิ จในสาขาใหม่ ๆ ที่มีศักยภาพ [su_spacer size=”20″]
สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงโซล