นครแฟรงก์เฟิร์ตเป็นเมืองที่ประชาชนนิยมใช้รถดีเซลเป็นจํานวนมากถึงประมาณร้อยละ 42 ของรถยนต์ที่จดทะเบียนทั้งหมดในนครแฟรงก์เฟิร์ต ส่งผลให้มีกลุ่มนักกิจกรรมด้านสิ่งแวดล้อมดําเนินการฟ้องร้องรัฐเฮสเซินต่อศาลฯ ว่า นครแฟรงก์เฟิร์ตมีการปล่อยก๊าซไนโตรเจนออกไซด์เกินกว่าค่ามาตรฐานความปลอดภัย และศาลฯ พิจารณาแล้วเห็นว่า แผนงาน clean air plan เมื่อปี ค.ศ. 2011 ไม่เพียงพอที่จะลดระดับการปล่อยก๊าซไนโตรเจนออกไซด์ในนครแฟรงค์เฟิร์ตให้อยู่ในระดับที่ต่ำกว่า 40 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ตามที่ EU กําหนด ศาลฯ จึงได้ออกคําสั่งให้รัฐเฮสเซินกําหนดโซนควบคุมสิ่งแวดล้อม และห้ามเดินรถดีเซลเป็นเมืองที่ 3 ในสหพันธ์ฯ ต่อจากนครฮัมบูร์ก และเมืองชตุทท์การ์ท โดยเมื่อวันที่ 5 กันยายน 2561 ศาลปกครองเมืองวีสบาเดินมีคําสั่งเกี่ยวกับการห้ามใช้รถดีเซลทั้งรถยนต์นั่งส่วนบุคคลและรถโดยสารสาธารณะในนครแฟรงก์เฟิร์ต ทั้งนี้ รถดีเซลที่มีมาตรฐานการปล่อยไอเสีย (European Emission Standard) ระดับ Euro 1-4 และรถเบนซินระดับ Euro 1-2 จะถูกห้ามใช้งานในเขตที่กําหนดตั้งแต่วันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2562 ในขณะที่รถดีเซลที่มีมาตรฐานการปล่อยไอเสียระดับ Euro 5 จะถูกห้ามใช้งานในเขตที่กําหนดตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2562 อย่างไรก็ตาม คําสั่งของศาลฯ ตั้งอยู่บนพื้นฐานของคําพิพากษาของศาลปกครองกลางเมือง Leipzig [su_spacer size=”20″]
การออกคําสั่งของศาลฯ ดังกล่าว ได้ส่งผลกระทบต่อผู้ใช้รถดีเซลจํานวนประมาณ 73,770 คัน หรือคิดเป็นประมาณร้อยละ 52 ของรถดีเซลที่จดทะเบียนทั้งหมดในนครแฟรงก์เฟิร์ต โดยในจํานวนนี้ยังไม่ได้นับรวมรถดีเซลที่มีมาตรฐานการปล่อยไอเสียต่ำกว่าระดับ Euro 6 และจดทะเบียนในบริเวณเมืองข้างเคียงของนครแฟรงก์เฟิร์ต ซึ่งประชาชนจําเป็นต้องเดินทางเข้ามาทํางานในนครแฟรงก์เฟิร์ตอีกจํานวนประมาณ 2.2 แสนคัน (Euro 4 ประมาณ 80,000 คัน และ Euro 5 ประมาณ140,000 คัน) ทั้งนี้ รัฐเฮสเซินมีรถดีเซลเพียงร้อยละ 29 ที่มีมาตรฐานการปล่อยไอเสียระดับ Euro 6 และไม่ได้รับผลกระทบ
นอกจากรถยนต์นั่งส่วนบุคคลแล้วประชาชนที่เดินทางสัญจรด้วยรถโดยสารสาธารณะก็ได้รับผลกระทบเป็นจํานวนมาก โดยรถเมล์สาธารณะในนครแฟรงก์เฟิร์ตส่วนใหญ่จะถูกพักการใช้งาน เนื่องจากรถเหล่านี้ใช้เครื่องยนต์รุ่นเก่าซึ่งไม่เป็นไปตามเกณฑ์ Euro 6 ปัจจุบันรถโดยสารสาธารณะที่มีมาตรฐานการปล่อยไอเสียระดับ Euro 6 มีจํานวนเพียง 110 คัน จาก 340 คัน นอกจากนี้ การห้ามใช้รถดีเซลยังรวมถึงรถโดยสารนําเที่ยวอีกด้วย ทั้งนี้ ผู้บริหารนครแฟรงก์เฟิร์ตกล่าวว่า รถโดยสารสาธารณะของบริษัทเอกชนที่จะทําสัญญาฉบับใหม่กับนครแฟรงก์เฟิร์ตจะต้องใช้รถโดยสารที่มีมาตรฐานการปล่อยไอเสียระดับ Euro 6 เท่านั้น
อย่างไรก็ตาม นาย Peter Feldmann นายกเทศมนตรีนครแฟรงก์เฟิร์ต เรียกร้องให้มีการประชุมสุดยอดดีเซลของรัฐเฮสเซิน และหวังว่าจะได้รับการสนับสนุนงบประมาณในช่วงของการเปลี่ยนผ่านเช่นเดียวกับนครชตุทท์การ์ท ซึ่งรัฐบาเดิน-เวิร์ทเทมแบร์ก สัญญาว่าจะให้การสนับสนุน นอกจากนี้ นาย Feldmann ยังแสดงความห่วงกังวลว่า อาจจะมีการประท้วงการห้ามใช้รถดีเซลจากภาคประชาชน เนื่องจากเกรงว่าจะต้องเสียค่าใช้จ่ายในการเปลี่ยนรถยนต์คันใหม่ หรือติดตั้ง software ใหม่เพิ่มเติมด้วยตนเอง