สื่อมวลชนไต้หวันรายงานว่า เจ้าหน้าที่ระดับสูงในกระทรวงเศรษฐการไต้หวันเปิดเผยว่า สงครามการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐฯ ที่ดุเดือดยิ่งขึ้นทุกขณะทําให้ธุรกิจไต้หวันในจีนวิตกต่อผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับการส่งออกสินค้าของตนไปยังสหรัฐฯ จึงเริ่มวางแผนย้ายฐานการผลิตกลับไต้หวัน ในขณะที่กระทรวงเศรษฐการได้พยายามให้ความช่วยเหลือจัดหาสถานที่ก่อตั้งโรงงาน แต่เนื่องจากส่วนใหญ่ประสงค์ที่จะหาสถานที่ในเขตภาคเหนือของไต้หวัน ทําให้ราคาที่ดินในเขตภาคเหนือพุ่งสูงขึ้นและหายากขึ้นทุกขณะ อย่างไรก็ดี กระทรวงเศรษฐการไต้หวันได้พยายามขอให้ผู้ประกอบการเหล่านี้หาสถานที่ลงทุนในเขตภาคกลางและภาคใต้ เพื่อกระจายการลงทุนมิให้กระจุกตัวอยู่ในเฉพาะภาคเหนือของเกาะเท่านั้น [su_spacer size=”20″]
นอกจากนี้ รัฐบาลไต้หวันยังได้พยายามให้ความช่วยเหลือในการแก้ปัญหาจากนโยบายจ้างแรงงานต่างชาติที่มีอยู่ในปัจจุบันกับการจ้างงานแรงงานท้องถิ่น โดยหากมีปัญหาการว่าจ้างแรงงานต่างชาติ จะแนะนําให้ปรับปรุงสายการผลิตใช้ระบบอัตโนมัติหรือ AI หรือ ย้ายฐานการผลิตไปยังประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงไต้ที่มีกําลังแรงงานพร้อมกว่าของไต้หวัน [su_spacer size=”20″]
โดยจากการประเมินความเสี่ยงของอุตสาหกรรมในไต้หวันที่อาจจะได้รับผลกระทบจากสงครามการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐฯ ของกระทรวงเศรษฐการไต้หวันพบว่ามีทั้งหมด 5 ภาคอุตสาหกรรม ได้แก่ (1) อุปกรณ์ Internet (2) จักรยานและอุปกรณ์ระดับกลางและล่าง (3) อุตสาหกรรมปิโตรเคมี (4) เครื่องกล และ (5) กระเป๋าถือ รวมทั้งระบุสินค้าที่อาจจะมีแนวโน้มมาสั่งซื้อจากโรงงานในไต้หวันเพิ่มขึ้น ได้แก่ อุปกรณ์เครื่องมือ น็อต หัวน็อต ราง มอเตอร์ เหล็กกล้า อะไหล่รถยนต์ แบตเตอรี่ หม้อแปลงไฟฟ้า และสินค้าอ๊อฟติก ซึ่งจะเป็นผลดีต่อการส่งออกของไต้หวัน [su_spacer size=”20″]
สำนักงานการค้าและเศรษฐกิจไทย