เมื่อวันที่ 27 สิงหาคม 2561 เอกอัครราชทูต ณ กรุงเวียนนา ได้พบกับนาย Stefan Doboczky, CEO ของบริษัท Lenzing โดยนาย Doboczky แจ้งว่า ได้ลงนามในสัญญาฉบับแรกกับบริษัทไทยแล้วในการซื้อที่ดินที่ จ. ปราจีนบุรี เพื่อสร้างโรงงานของบริษัท Lenzing ซึ่งมีมูลค่าการลงทุน 300 ล้านเหรียญสหรัฐฯ โดยการสร้างโรงงานแรกจะแบ่งเป็น 3 ระยะ โดยระยะที่ 1, 2 และ 3 จะจ้างแรงงาน 400, 600 และ 1,000 คน ตามลําดับ เดิมแม้ว่า Lenzing จะมีโรงงานที่อินโดนีเซียและมีการจ้างงาน 2,000 คน แต่ได้ตัดสินใจตั้งโรงงานใหม่ในประเทศไทย ซึ่งจะใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยที่สุด และทันสมัยกว่าเทคโนโลยีของโรงงานในออสเตรียและสหรัฐอเมริกา[su_spacer size=”20″]
นาย Doboczky แจ้งว่า เหตุผลสำคัญที่บริษัท Lenzingตัดสินใจลงทุนในประเทศไทยเพราะเห็นว่าไทยเป็นศูนย์กลางและHub ทางด้านเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และเห็นว่าหน่วยงานของไทยโดยเฉพาะ BOIได้ตอบสนองเป็นอย่างดี และเห็นว่าในภูมิภาคอาเซียนนั้น BOI ของสิงคโปร์และไทยมีประสิทธิภาพสูงสุด[su_spacer size=”20″]
นาย Doboczky ได้ซักถามอย่างละเอียดเกี่ยวกับสถานการณ์การเมืองภาวะเศรษฐกิจและนโยบายเศรษฐกิจของไทย สถานะของไทยในภูมิภาคเอเชียและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ สถานการณ์และประเด็นที่สําคัญในภูมิภาค รวมทั้งทิศทางของอาเซียนและปัญหาในทะเลจีนใต้ ซึ่งเอกอัครราชทูตได้ให้ข้อมูลโดยละเอียดและแจ้งการมุ่งสู่การเลือกตั้งในต้นปีหน้า เศรษฐกิจไทยที่มีพื้นฐานที่ Solid economic fundamentals and economic resilience และนโยบายเศรษฐกิจของประเทศที่ต่อเนื่องและ pro trade/ pro business รวมทั้งนโยบายรัฐบาลปัจจุบันในการขับเคลื่อน innovation – based economy (Thailand 4.0) รวมทั้งEEC และอื่น ๆ[su_spacer size=”20″]
นาย Doboczky แจ้งว่า ในการขยายกําลังการผลิตและสร้างโรงงานนอกออสเตรียนั้น เดิมได้ พิจารณาทางเลือกระหว่างประเทศไทยกับสหรัฐอเมริกา โดยที่ Lenzing มีมูลค่าการลงทุนในสหรัฐอเมริกา 300 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เท่า ๆ กับมูลค่าการลงทุนที่กําลังจะสร้างโรงงานในประเทศไทย แต่บริษัท Lenzingประสงค์จะขยายโรงงาน นอกออสเตรียเพิ่มขึ้น ซึ่งเป็น strategyของบริษัท แต่ในปัจจุบันนายDoboczky เห็นว่า โดยที่นโยบายการเมือง การต่างประเทศ และนโยบายเศรษฐกิจและการค้าของสหรัฐอเมริกานั้น unpredictableมาก รวมทั้งการมีแนวทางที่ก่อให้เกิดสงครามทางการค้าระหว่างสหรัฐอเมริกากับประเทศต่าง ๆ นายDoboczky แจ้งว่า จึงมีความโน้มเอียงมาทางประเทศไทยอย่างมาก โดยการซื้อที่ดินที่ จ. ปราจีนบุรี นั้นได้เพื่อพื้นที่จะขยายโรงงานที่ 2, 3,4 ได้ในอนาคต[su_spacer size=”20″]
เอกอัครราชทูตเสนอให้ บริษัทLenzing ย้าย regional head office มาตั้งที่ประเทศไทย ซึ่งนายDoboczky กล่าวว่า มีแนวคิดนี้เช่นกัน โดยเมื่อโรงงานในประเทศไทยเริ่มทําการผลิตแล้ว ก็มีความเป็นไปได้ที่จะย้าย regional head officeจากสิงคโปร์มาตั้งในประเทศไทย นอกจากนี้ การที่บริษัทการบินไทยมี direct flight ระหว่างกรุงเทพฯ – เวียนนา และจะเพิ่มเป็น 7 flight ต่อสัปดาห์ในช่วงฤดูหนาวปีนี้ก็เป็นปัจจัยสําคัญประการหนึ่ง ประกอบการตัดสินใจที่จะย้าย regional head office มาอยู่ที่ประเทศไทย[su_spacer size=”20″]
นาย Doboczky แจ้งว่า บริษัทLenzing น่าจะพร้อมที่จะลงนามสัญญาฉบับที่ 2 ซึ่งจะเป็นการลงนามสัญญาเพื่อเริ่มสร้างโรงงาน รวมทั้งการลงนามสัญญากับsuppliers ต่าง ๆ ในประเทศไทย ในเดือน ธันวาคม 2561 นี้ หรือต้นปี2562 ซึ่งตนก็พร้อมที่จะเดินทางไปลงนามในสัญญาในประเทศไทย และยินดีที่จะมีพิธี announcementการลงทุนของบริษัทฯ [su_spacer size=”20″]
เอกอัครราชทูตแจ้งว่า กําลังหารือกับภาคเอกชนไทยและหอการค้าออสเตรีย (WKO) รวมทั้งกระทรวง Digital and Economic Affairs ของออสเตรียในการสนับสนุนให้ภาคเอกชนทั้งสองฝ่ายจัดตั้ง Thailand – AustrianBusiness Council โดยที่มีบริษัทออสเตรียลงทุนและทําธุรกิจในประเทศไทยมากกว่า 100 บริษัท แต่แนวคิดเรื่องนี้จะต้องมีภาคเอกชนเป็นผู้ผลักดันหลัก โดยนายDoboczky สนใจที่จะผลักดันเรื่องดังกล่าว และจะขอมาพบเอกอัครราชทูตอีกครั้งในเดือนกันยายนนี้ เพื่อจะหารือรายละเอียด ซึ่งเอกอัครราชทูตมีความยินดีและจะเชิญผู้แทนระดับสูงของหอการค้าออสเตรีย (WKO) และกระทรวงDigital and Economic Affairsของออสเตรียมาร่วมหารือด้วย [su_spacer size=”20″]