เมื่อวันที่ 16 สิงหาคม 2561 บริษัท บีวายดี จำกัด (Build Your Dream Co., Ltd: BYD) ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้ารายใหญ่ที่สุดของจีน ส่งมอบรถยนต์ไฟฟ้ารุ่น e6 จำนวน 101 คันให้กับบริษัท ไรเซน เอนเนอร์จี เพื่อใช้ในโครงการแท็กซี่วีไอพี นอกจากนี้ ยังมีการลงนามในสัญญาซื้อขายรถยนต์ไฟฟ้ารุ่น e6 จำนวน 1,000 คันในวันเดียวกัน นับเป็นสัญญาซื้อ-ขายรถยนต์ไฟฟ้าระหว่างไทยและบริษัท BYD ที่มีมูลค่ามากที่สุดเป็นประวัติการณ์ และเมื่อส่งมอบรถยนต์ไฟฟ้าในครั้งนี้แล้ว บริษัท BYD ก็นับเป็นบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ที่มีรถยนต์ไฟฟ้าวิ่งบนท้องถนนไทยมากที่สุด [su_spacer size=”20″]
การซื้อ-ขายครั้งนี้สืบเนื่องจากบันทึกข้อตกลงความร่วมมือในโครงการ “Taxi VIP” ระหว่างกรมการขนส่งทางบกกับบริษัท ไรเซน เอนเนอร์จี จำกัด ร่วมกับบริษัท อีวี โซไซตี้ จำกัด ซึ่งได้ลงนามไปเมื่อเดือนมีนาคม 2561 มีเนื้อหาเกี่ยวกับการให้บริการรถแท็กซี่หรือรถเช่าที่ท่าอากาศยาน จำนวน 2 ฉบับ ได้แก่ (๑) ความตกลงเพื่อผลักดันการใช้งานรถยนต์ไฟฟ้า BYD รุ่น E6 จำนวน 1,000 คัน ภายในปี 2562 และ (2) บริษัท อีวี โซไซตี้ ได้รับสิทธิในการเป็น “เอ็กซ์คลูซีฟ ดีลเลอร์” สำหรับรถยนต์ไฟฟ้า BYD รุ่น E6 ที่จำหน่ายให้ผู้ประกอบการและหน่วยงานอื่น ๆ [su_spacer size=”20″]
เมื่อพิจารณาอัตราการเพิ่มจำนวนการใช้งานรถยนต์ไฟฟ้าของไทยที่เป็นไปอย่างล่าช้า และปริมาณรถยนต์ไฮบริดและปลั๊กอิน-ไฮบริดในประเทศไทยที่ยังมีเพียง 85,000 คัน (จากรายงานของ Consultancy.com) บริษัท BYD จึงนับเป็นผู้มีบทบาทสำคัญที่อาจผลักดัน trend การใช้รถยนต์พลังงานไฟฟ้า ตลอดจนอุปกรณ์เพื่อการใช้พลังงานทางเลือกในประเทศไทย [su_spacer size=”20″]
บริษัท BYD ก่อตั้งเมื่อปี ๒๕๓๘ โดยนายหวัง ฉวนฝู (Wang Chuanfu) มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่เมืองเซินเจิ้น มณฑลกวางตุ้ง จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เซินเจิ้นและฮ่องกง เป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีสารสนเทศที่เกี่ยวกับแบตเตอรี่ โทรศัพท์มือถือ ชิ้นส่วนคอมพิวเตอร์ ธุรกิจยานยนต์และธุรกิจยานยนต์ที่ใช้พลังงานใหม่ รวมถึงธุรกิจพลังงานแสงอาทิตย์ สถานีเก็บพลังงาน ยานพาหนะไฟฟ้า หลอดไฟ LED รถยก และรถไฟฟ้ารางเดียว (monorail) มีพนักงานกว่า 220,000 คน ในฐานการผลิต 29 แห่งทั่วโลกพื้นที่รวมกว่า 18 ล้านตารางเมตร ปัจจุบัน บริษัท BYD เป็นหนึ่งในผู้ผลิตแบตเตอร์รี่รายใหญ่ของโลก [su_spacer size=”20″]
เมื่อปี 2560 บริษัท BYD มี (1) กำไรสุทธิ ๖๓๖ ล้านดอลลาร์สหรัฐ ลดลงจากปีก่อนหน้าร้อยละ 20
(2) รายได้รวม 16,035 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้าร้อยละ 2.44 (3) รายได้หลักมาจากสินค้ายานยนต์ (ร้อยละ 53) ส่วนประกอบอะไหล่รถยนต์ (ร้อยละ 39) และแบตเตอรี่ (ร้อยละ 8) และ (4) แหล่งรายได้ส่วนใหญ่มาจากตลาดภายในประเทศกว่าร้อยละ 87 และประเทศในเอเชียแปซิฟิกร้อยละ 8 [su_spacer size=”20″]
ปัจจุบัน นครกว่างโจวและเมืองเซินเจิ้นในมณฑลกวางตุ้งต่างมีนโยบายเร่งด่วนในการสนับสนุนการผลิต/ใช้รถยนต์พลังงานไฟฟ้า ซึ่งกำลังสร้างความเปลี่ยนแปลงภายในพื้นที่อย่างชัดเจน จึงคาดว่าจะมีบริษัทอื่นๆ จากมณฑลฯ ที่จะเข้ามามีบทบาทต่อตลาดรถยนต์พลังงานไฟฟ้าของไทยในลักษณะคล้ายคลึงกับบริษัท BYD นี้เพิ่มขึ้นอีก [su_spacer size=”20″]
สถานกงสุลใหญ่ ณ นครกว่างโจว