โมซัมบิกเป็นประเทศที่ตั้งอยู่ในภูมิภาคแอฟริกาตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งกำลังได้รับความสนใจจากนักลงทุนจากต่างประเทศ เนื่องจากเป็นประเทศที่มีพื้นที่ขนาดใหญ่ มีชายฝั่งยาวหลายร้อยกิโลเมตรและมีทรัพยากรธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ทั้งทางบกและทางทะเล โดยที่ผ่านมา ไทยได้เข้าไปมีความร่วมมือกับโมซัมบิกอย่างเป็นทางการผ่านโครงการต่าง ๆ หลายรูปแบบ เช่น การลงทุนของ บริษัท อิตัลไทยในด้านการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐาน การลงทุนของบริษัท ปตท. สผ. ในด้านพลังงาน และการลงทุนของเครือ Minor Group ในด้านโรงแรม นอกจากนี้ รัฐบาลไทยโดยกรมความร่วมมือระหว่างประเทศ กระทรวงการต่างประเทศ ยังได้ร่วมกับหน่วยงานภาครัฐของโมซัมบิกดำเนินโครงการเพื่อการพัฒนาในสาขาต่าง ๆ อาทิ การเกษตรทฤษฎีใหม่ และการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ โดยดำเนินงานในจังหวัดต่าง ๆ เช่น กรุงมาปูโต จังหวัดนัมปูลา และจังหวัดเพมบา อย่างไรก็ดี โมซัมบิกยังมีพื้นที่อีกหลายแห่งที่น่าสนใจ หนึ่งในนั้นก็คือ จ.อินยัมบาน (Inharmbane) ที่มีผู้ประกอบการไทยเข้าไปลงทุนแล้ว[su_spacer size=”20″]
จ.อินยัมบาน ตั้งอยู่ทางภาคกลางตอนล่างของโมซัมบิก มีชายฝั่งยาวประมาณ 700 กม. เป็นที่ราบลุ่มมีแม่น้ำไหลผ่าน 3 สาย และมีทะเลสาบจำนวนมาก มีประชากรประมาณ 1.5 ล้านคน โดย จ. มีศักยภาพในการพัฒนาทางเศรษฐกิจ ทั้งในด้านการเกษตรและความมั่นคงทางอาหาร การประมงและการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ การป่าไม้ พลังงาน การท่องเที่ยว การโรงแรม และการบริการ รวมทั้งอุตสาหกรรมการแปรรูปอาหาร[su_spacer size=”20″]
ปัจจุบัน จ.อินยัมบาน มีภาคเอกชนเข้ามาลงทุนแล้วจำนวนมาก จากทั้ง แอฟริกา เวียดนาม ฟินแลนด์ อินเดีย และโปรตุเกส แต่จังหวัดก็ยังคงต้องการการลงทุนจากต่างประเทศอีกจำนวนมาก เนื่องจากยังคงมีพื้นที่ว่างเปล่าที่พร้อมรองรับการลงทุนประมาณ 1.78 ล้านเฮกเตอร์ และมีพื้นที่ศักยภาพในการทำชลประทาน เพื่อรองรับภาคอุตสาหกรรมทั้งสิ้น 95,338.7 ล้านเฮกเตอร์ โดยกลุ่มอุตสาหกรรมน่าสนใจที่ทางจังหวัดเปิดรับการลงทุนจากต่างประเทศมีหลากหลายด้าน ดังนี้[su_spacer size=”20″]
- ด้านการทำประมง จ.อินยัมบาน มีศักยภาพอย่างมากในด้านการทำประมงน้ำจืด และ ด้านการประมงทางทะเล ตลอดจนการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ โดยสัตว์น้ำที่พบได้มากในทะเล ได้แก่ ปลาแดง ปลาเก๋า ปลาสากใหญ่ และปลาทูน่า แต่ทางจังหวัดยังคงต้องการเทคโนโลยีด้านการประมงและการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ รวมทั้งต้องการการฝึกอบรมองค์ความรู้จากต่างประเทศแก่ชาวประมงท้องถิ่น โดยคาดว่าในอนาคต จ.อินยัมบานจะสามารถกลายเป็นศูนย์กลางด้านการศึกษาด้านการประมงและการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำในอนาคตของโมซัมบิก และจะทำให้ จ.อินยัมบาน สามารถพัฒนาเศรษฐกิจของจังหวัดได้อย่างรวดเร็วและยั่งยืน
- ด้านการเกษตร ใน จ.อินยัมบาน มีการทำการเกษตรที่หลากหลาย อาทิ การปลูกข้าวโพด
มันสำปะหลัง เมล็ดมะม่วงหิมพานต์ มะพร้าว มะม่วง สับปะรด มะนาว และกล้วย ทำให้เป็นหนึ่งในพื้นที่ ที่สามารถรองรับธุรกิจการค้าและการลงทุนด้านเกษตรกรรมและอุตสาหกรรมที่ต่อเนื่อง นอกจากนี้ใน อ.มาซิเซ ยังได้กำหนดยุทธศาสตร์ Inhambane’s Business Capital City ด้านการเพาะปลูกผัก ผลไม้ และอุตสาหกรรมการแปรรูปผลิตภัณฑ์จากมะพร้าว รวมทั้งด้านการเพาะเลี้ยงไก่และปลานิลด้วย
ทั้งนี้ ถือว่าใน จ.อินยัมบาน ยังคงมีความต้องการด้านเครื่องจักรกลการเกษตรขนาดเล็ก เครื่องสูบน้ำเพื่อการเกษตร รวมทั้งยังต้องการการอบรมด้านการเกษตรและการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ เพื่อไปใช้ต่อยอดในด้านการพัฒนาการเกษตรของจังหวัดในอนาคต
- ด้านการท่องเที่ยว ใน จ.อินยัมบาน มีรายได้จากการท่องเที่ยวมากที่สุดในโมซัมบิก คิดเป็น ร้อยละ 60 ของรายได้จากอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของทั้งประเทศ มีจำนวนนักท่องเที่ยวเฉลี่ยปีละ 230,000 คน โดยมีกิจกรรมด้านการท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยม ได้แก่ การท่องเที่ยวทางทะเล กิจกรรมและกีฬาทางน้ำ การท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ การท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม และการท่องเที่ยวเชิงเกษตร ปัจจุบัน จังหวัดมีแผนการลงทุนด้านการท่องเที่ยวรวมทั้งสิ้น 15 พื้นที่ โดยเฉพาะการลงทุนในเมืองวิลันคูลู (Vilankulo) และ เมืองอินงาซารู (Inhassoro) ซึ่งเป็นเมืองชายทะเล[su_spacer size=”20″]
จะเห็นได้ว่า ภาคอุตสาหกรรมที่กล่าวมาข้างต้น เป็นประเด็นที่ภาคเอกชนไทยมีความเชี่ยวชาญทั้งสิ้น จึงถือเป็นโอกาสอันดีที่ในอนาคตอาจจะมีภาคธุรกิจของไทยเดินทางมาเยือน จ.อินยัมบาน เพื่อสำรวจโอกาสในด้านการค้าและการลงทุน ซึ่งนอกจากประเด็นด้านธุรกิจแล้ว อาจพิจารณาดำเนินการควบคู่ไปกับการสร้างความร่วมมือ การฝึกอบรมบุคลากรท้องถิ่น เพื่อยกระดับบุคลากรท้องถิ่น และการสร้างอาชีพให้ประชาชนโมซัมบิก ซึ่งถือว่าสอดคล้องกับนโยบายการพัฒนาแรงงานของโมซัมบิกด้วย[su_spacer size=”20″]
ศูนย์ธุรกิจสัมพันธ์
กรมเศรษฐกิจระหว่างประเทศ กระทรวงการต่างประเทศ
สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงมาปูโต