สื่อมวลชนท้องถิ่นยูเออีรายงานว่ า รัฐบาลยูเออีจะเปิดโอกาสให้ชาวต่ างชาติที่เป็นนักลงทุน หรือผู้ที่มีความเชี่ยวชาญในสาข าด้านการแพทย์ วิศวกร วิทยาศาสตร์ และนักวิจัย สามารถยื่นขอรับการตรวจลงตราเพื่ อพํานักอาศัยในยูเออีได้มากสุ ดเป็นระยะเวลา 10 ปี โดยมาตรการดังกล่าวจะครอบคลุมถึ งครอบครัวของชาวต่างชาติที่พํานั กอาศัยในยูเออีด้วย นอกจากนี้ นักศึกษาในระดับมหาวิทยาลัยยังส ามารถยื่นขอรับการตรวจลงตราเพื่ อพํานักอาศัยและศึกษาในยูเออี แบบระยะยาวได้ 5 ปี และหากเป็นนักศึกษาที่มีผลการศึ กษาดีเด่นก็สามารถยื่นขอรับการข ยายเวลาการตรวจลงตราเพื่อพํานั กอาศัยในยูเออีได้สูงสุด 10 ปี โดยคาดว่ารัฐบาลยูเออีจะเริ่มใช้ มาตรการดังกล่าวภายในช่วงสิ้นปี 2561 นี้[su_spacer size=”20″]
นอกจากนี้ คณะรัฐมนตรียูเออีได้อนุมัติให้ นักลงทุนชาวต่างชาติสามารถถือหุ้นในบริษัทที่ลงทุนในยูเออีได้เต็ มจํานวน โดยก่อนหน้านี้ นักลงทุนต่างชาติที่ประสงค์จะทํ าธุรกิจหรือจัดตั้งบริษัทในยูเอ อี จะต้องมีหุ้นส่วนชาวยูเออีถือหุ้นในบริษัทไม่ต่ำกว่าร้อยละ 51 โดยการเปลี่ยนแปลงข้อกฎหมายดังก ล่าวส่งผลให้ชาวต่างชาติสามารถซื้ อขายที่ดินและสิ่งปลูกสร้างในยู เออีได้ อย่างไรก็ดี รัฐบาลยูเออียังไม่มีรายละเอียด เกี่ยวกับแนวทางการเปลี่ยนแปลงผู้ ถือหุ้นดังกล่าว[su_spacer size=”20″]
ทั้งนี้ His Highness Sheikh Mohammed bin Rashid Al Maktoum รองประธานาธิบดียูเออี และเจ้าผู้ครองรัฐดูไบ ทรงให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนว่า ยูเออีต้องการส่งเสริมให้ชาวต่า งชาติที่มีความสามารถเข้ามาลงทุ นและพํานักอาศัยในยูเออี และทรงกล่าวว่ายูเออีถือเป็นประ เทศที่มีความเหมาะสมในด้านสภาพแ วดล้อม ความหลากหลายในด้านวัฒนธรรม และมีสิ่งอํานวยความสะดวกให้กับ ชาวต่างชาติทุกคนที่จะเข้ามาพํา นักอาศัย[su_spacer size=”20″]
สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงอาบูดาบี