เมื่อวันที่ 25 เม.ย. 2561 นาย Arkadi Dvorkovish ประธานคณะกรรมการจัดการแข่งขันฟุตบอลโลกฯ และนาย Aleksei Sorkin ผู้อำนวยการคณะกรรมการฯ พร้อมกับผู้แทนเมืองซามาราและเมืองซารานสก์ ได้แถลงข่าวเกี่ยวกับการเตรียมการจัดการแข่งขันฟุตบอลโลกของรัสเซียว่า หลังจากทราบผลการคัดเลือกเมื่อปี ค.ศ. 2013 รัฐบาลรัสเซียได้เร่งพัฒนาโครงสร้างหลัก สาธารณูปโภค ระบบการจัดการของเสียที่ไม่เป็นภัยต่อสภาวะแวดล้อม สนามฟุตบอลที่มีมาตรฐานสากลเพิ่มขึ้น 7 แห่ง (จากสนามแข่งขันทั้งหมด 9 แห่ง) สถานพยาบาลแห่งใหม่ ระบบรักษาความปลอดภัย รวมทั้งการพัฒนาบุคลากรที่จะอํานวยความสะดวกในด้านต่าง ๆ มาอย่างต่อเนื่อง โดยรัฐบาลรัสเซียมีความภาคภูมิใจเป็นอย่างยิ่งที่การจัดการแข่งขันฟุตบอลโลกสามารถกระตุ้นสภาพเศรษฐกิจและสังคมในแคว้นต่าง ๆ ของรัสเซียได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่เมืองคาลินิน กราดและเมืองซารานสก์ ที่คณะกรรมการฯ ได้พัฒนาพื้นที่ว่างเปล่าให้กลายเป็นสนามกีฬาที่ทันสมัยและมีระบบสาธารณูโภคและการคมนาคมที่สะดวก ซึ่งมีส่วนสำคัญในการทําให้เศรษฐกิจของเมืองเติบโตกว่า 15% ภายในเวลา 5 ปี[su_spacer size=”20″]
นอกจากนี้ การที่เมืองต่าง ๆ ได้เป็นสถานที่แข่งขันฟุตบอลในรอบคัดเลือกทําให้มีนักท่องเที่ยวสนใจเดินทางมาเยี่ยมชม เกิดการลงทุนด้านอุตสาหกรรม และการท่องเที่ยว ซึ่งถือเป็นต้นทุนสําคัญในการพัฒนาเมืองต่าง ๆ ให้เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวของรัสเซียในอนาคตได้[su_spacer size=”20″]
สถาบัน Mckinsey ออกมาเผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวไปในทิศทางเดียวกันว่า ตั้งแต่ปี ค.ศ. 2013-2018 การเป็นเจ้าภาพการแข่งขันฟุตบอลโลกได้ทําให้ GDP ของรัสเซียเพิ่มขึ้นอย่างน้อย 1% ต่อปี หรือคิดเป็น 820 พันล้านรูเบิล ตลอด 5 ปี และจะมีนักท่องเที่ยวที่นํารายได้เข้าสู่รัสเซียอย่างน้อย 80 – 110 พันล้านรูเบิล และมีการลงทุนในการพัฒนาโครงสร้างหลัก สาธารณูปโภค การคมนาคมและการสวัสดิการเพิ่มมากขึ้นประมาณ 120 – 180 พันล้านรูเบิล และในระหว่างการแข่งขันฟุตบอลฯ ภาคโรงแรมจะมีรายได้เพิ่มมากขึ้นเกือบ 40% นอกจากนี้ ในระหว่างการเตรียมการแข่งขันฯ จะมีการสร้างงานในภูมิภาคต่างๆ ประมาณ 140,000-200,000 ตําแหน่ง และรัฐบาลจะมีรายได้จากภาษีเพิ่มขึ้น 100 – 150 พันล้านรูเบิล[su_spacer size=”20″]
สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงมอสโก