Sunday, May 25, 2025
  • Login
  • Register
  • Home
  • เกี่ยวกับเรา
  • ทันโลก
    • เศรษฐกิจ I การเงิน
    • ธุรกิจ I การค้า I การลงทุน
    • การท่องเที่ยว I การบริการ
    • อาหาร I การเกษตร
    • คมนาคม I โลจิสติกส์
    • การแพทย์ I สุขภาพ
    • พลังงาน I สิ่งแวดล้อม I ความยั่งยืน
    • เทคโนโลยี I นวัตกรรม
    • E-commerce
    • กฎ I ระเบียบ I นโยบาย
    • อื่นๆ
    • INFOGRAPHICS
  • Glob Issue
  • ชี้ช่องจากทีมทูต
  • โอกาสใหม่ในต่างแดน
    • โอกาสใหม่ในต่างแดน
    • Thai Festival
  • รู้กฎก่อนรุก
    • ความตกลงว่าด้วยการลงทุนระหว่างประเทศ
  • Glob Insight
  • INTER ECON
  • เครือข่ายของเรา
    • GT Network
    • ลิงค์ที่น่าสนใจ
  • ติดต่อเรา
No Result
View All Result
Glob Thailand
  • Home
  • เกี่ยวกับเรา
  • ทันโลก
    • เศรษฐกิจ I การเงิน
    • ธุรกิจ I การค้า I การลงทุน
    • การท่องเที่ยว I การบริการ
    • อาหาร I การเกษตร
    • คมนาคม I โลจิสติกส์
    • การแพทย์ I สุขภาพ
    • พลังงาน I สิ่งแวดล้อม I ความยั่งยืน
    • เทคโนโลยี I นวัตกรรม
    • E-commerce
    • กฎ I ระเบียบ I นโยบาย
    • อื่นๆ
    • INFOGRAPHICS
  • Glob Issue
  • ชี้ช่องจากทีมทูต
  • โอกาสใหม่ในต่างแดน
    • โอกาสใหม่ในต่างแดน
    • Thai Festival
  • รู้กฎก่อนรุก
    • ความตกลงว่าด้วยการลงทุนระหว่างประเทศ
  • Glob Insight
  • INTER ECON
  • เครือข่ายของเรา
    • GT Network
    • ลิงค์ที่น่าสนใจ
  • ติดต่อเรา
No Result
View All Result
No Result
View All Result
Home ชี้ช่องจากทีมทูต

ธุรกิจกาแฟในนครโฮจิมินห์ : โอกาสที่ไม่ควรมองข้าม

19/04/2018
in ชี้ช่องจากทีมทูต
0
ธุรกิจกาแฟในนครโฮจิมินห์ : โอกาสที่ไม่ควรมองข้าม
1
SHARES
1.3k
VIEWS
Share on FacebookShare on TwitterShare on Line

                   ถ้าพูดถึงเวียดนาม คงเป็นไปไม่ได้ที่จะไม่พูดถึง “กาแฟ” เครื่องดื่มที่มีความสำคัญกับชาวเวียดนามตั้งแต่พระอาทิตย์ขึ้นถึงหัวค่ำ ซึ่งได้รับการขนานนามว่าเป็นดั่งราชาแห่งเครื่องดื่มของเวียดนาม ในบทความนี้ ศูนย์ข้อมูลธุรกิจไทยในโฮจิมินห์ จะขอพาคุณผู้อ่านทุกท่านไปรู้จักภาพรวมของอุตสาหกรรมกาแฟ พฤติกรรมที่เปลี่ยนไปของผู้บริโภค และโอกาสในการลงทุนธุรกิจกาแฟในนครโฮจิมินห์กันครับ[su_spacer size=”20″]

ความเป็นมาของกาแฟในเวียดนาม

                  ในช่วงศตวรรษที่ 19 ฝรั่งเศสได้เริ่มนำกาแฟเข้ามาในเวียดนาม ด้วยรสชาติที่แปลกใหม่และถูกปากชาวเวียดนาม จึงทำให้ชาวเวียดนามมีความสนใจในวัฒนธรรมการดื่มกาแฟและเริ่มที่จะเรียนรู้การปลูกกาแฟ ส่งผลให้ในปัจจุบัน เวียดนามกลายเป็นแหล่งปลูกและเพาะพันธุ์กาแฟที่สำคัญของโลก ตลอดจนมีการส่งออกกาแฟกว่า 1.4 ล้านเมตริกตัน มากที่สุดเป็นอันดับ 2 รองจากบราซิล (2.5 ล้านเมตริกตัน) เพราะเวียดนามสามารถปลูกกาแฟได้หลากหลายประเภท ได้แก่ Arabica Robusta และอื่นๆ ซึ่งแหล่งปลูกที่สำคัญอยู่ที่บริเวณที่ราบสูงภาคกลางของประเทศ[su_spacer size=”20″]

[su_spacer size=”20″]

                  จุดเด่นของกาแฟเวียดนาม คือ เวียดนามเป็นประเทศที่ปลูกกาแฟประเภท Robusta เป็นอันดับหนึ่ง ซึ่งกาแฟประเภทดังกล่าว มีคุณสมบัติปลูกถ่ายบทพื้นที่ราบไม่สูงมาก (500-1,000 เมตร) และนิยมใช้สำหรับการนำไปทำกาแฟสำเร็จรูป เนื่องจากมีราคาถูกและมีคาเฟอีนสูง โดยในปี 2536 โดยรัฐบาลสนับสนุนการผลิตกาแฟ Robusta ให้ได้ปริมาณมาก จึงทำให้การปลูกกาแฟ Arabica นั้นลดน้อยลง เนื่องจากปลูกแล้วได้ผลผลิตช้าและปริมาณน้อยกว่า Robusta ส่งผลให้ร้อยละ 99 ของการปลูกกาแฟในปัจจุบันส่วนใหญ่จึงเป็นกาแฟชนิด Robusta[su_spacer size=”20″]

                  คนเวียดนามนิยมดื่มกาแฟวันละหลายแก้ว ในทุกๆ โอกาสของวัน ก่อนไปทำงาน พักกลางวัน แม้กระทั่งในช่วงหัวค่ำ ร้านกาแฟริมทางจะแน่นขนัดไปด้วยผู้คน ซึ่งรสชาติของกาแฟที่คนเวียดนามนิยมจะมีรสชาติเข้มข้น หวานมันและบางครั้งอาจจะแต่งกลิ่นหรือนำวัตถุดิบอื่น ๆ มาผสมด้วย เช่น กาแฟคั่วใส่คาราเมล น้ำผึ้ง  มีการคาดการณ์ว่า ในปี 2561 มูลค่าตลาดกาแฟในเวียดนามจะเพิ่มขึ้นร้อยละ 8.2 ต่อปี โดยมีการบริโภคกาแฟเฉลี่ยต่อหัวสูงขึ้นถึง 1.5 กิโลกรัม/ปี[su_spacer size=”20″]

                  นอกจากการเป็นแหล่งเพาะปลูกและส่งออกกาแฟที่สำคัญของโลกแล้ว พฤติกรรมการดื่มกาแฟของชาวเวียดนามสมัยใหม่คือปัจจัยหนึ่งที่ทำให้ธุรกิจกาแฟสมัยใหม่ของเวียดนามเติบโต ซึ่งปัจจุบัน การเพิ่มขึ้นของจำนวนชนชั้นกลาง กอปรกับวัฒนธรรมของชาติตะวันตกที่ขยายเข้ามาในเวียดนาม ส่งผลเชิงบวกต่อการขยายตัวของธุรกิจ ร้านกาแฟในเวียดนามโดยเฉพาะในเมืองใหญ่ๆ อาทิ นครโฮจิมินห์ และนครดานัง ซึ่งผู้บริโภคมีแนวโน้มที่จะใช้บริการร้านกาแฟระดับหรูหรามากขึ้นจากที่เคยนิยมนั่งดื่มกาแฟตามร้านค้าริมถนน ร้านกาแฟสมัยใหม่ส่วนใหญ่จะมีเมล็ดกาแฟคั่วตั้งโชว์อยู่หน้าร้าน โดยจะบดและชงกาแฟต่อหน้าลูกค้า ซึ่งจะทำให้ลูกค้ามั่นใจในเรื่องการใช้เมล็ดกาแฟแท้และการบริโภคกาแฟที่สด สะอาด มีมาตรฐานในทุกๆ แก้ว[su_spacer size=”20″]

กาแฟในเวียดนามมีหลายประเภท ได้แก่ [su_spacer size=”20″]

                  กาแฟฟิน (Café Phin) คือการนำกาแฟบดใส่ในถ้วยกรอกสังกะสี ซึ่งมีเอกลักษณ์เฉพาะของเวียดนามที่อยู่ด้านบนของถ้วย หลังจากนั้นเทน้ำร้อนลงไปและรอให้น้ำกาแฟดริปไหลลงในถ้วย กาแฟดริปจะมีกลิ่นหอมและเข้มข้นมากกว่ากาแฟชนิดอื่น ๆ[su_spacer size=”20″]

                  กาเฟเสือด๊า (Café Sua Da)เป็นกาแฟเวียดนามรูปแบบหนึ่งที่ใช้วิธีชงโดยการหยดน้ำผ่านฟินลงไปในถ้วยกาแฟและผสมกับนมข้นหวาน ทำให้ได้กาแฟที่มีความเข้มข้นสูง หวาน มัน อร่อยได้ทั้งร้อนและเย็น[su_spacer size=”20″]

                  กาแฟจึ๊ง (Café Trung) คือ กาแฟร้อนใส่ไข่แดงลวก ซึ่งเป็นสูตรของชาวฮานอยที่คิดค้นขึ้นมา กาแฟจะมีลักษณะเป็นฟองครีมข้นอยู่ด้านบน ไม่มีกลิ่นคาวเลยและดื่มง่าย รสชาติที่ได้จะออกหวานหอม มีกลิ่นไข่เล็กน้อย ฟองครีมจะข้นและหนักกว่าครีมฟองนมทั่วไป[su_spacer size=”20″]

                  กาแฟสมูตตี้ (Café Smoothies) เป็นการนำผงกาแฟไปปั่นรวมกับผลไม้ชนิดต่าง ๆ อาทิ มะพร้าว เม็ดมะม่วงหิมพานต์และเนยถั่ว การผสมผลไม้ในกาแฟเป็นการเพิ่มความหวาน มัน นอกจากนี้กาแฟสมูตตี้ยังเพิ่มความสดชื่นให้คนดื่มและเป็นที่นิยมในหมู่วัยรุ่น[su_spacer size=”20″]

 

พฤติกรรมการบริโภคกาแฟของคนเวียดนามที่เปลี่ยนไปในนครโฮจิมินห์   [su_spacer size=”20″]

 

                  ชาวนครโฮจิมินห์จะดื่มกาแฟเป็นประจำทุกวัน เราจะสังเกตได้ว่า ร้านกาแฟทั่วๆ ไปริมถนนจะสามารถดึงดูดลูกค้าได้เป็นจำนวนมาก และส่วนใหญ่สามารถนั่งกินกาแฟกันริมถนนหันหน้าออกมองผู้คนที่ผ่านไปมาตามแบบฉบับฝรั่งเศส โดยมีเก้าอี้ตัวเล็ก ๆ บ้างก็นั่งหันหน้าเข้าหากัน ต่างคนก็ต่างกินกาแฟของตัวเอง หรือพูดคุยกัน แต่เมื่อวันเวลาผ่านไปนครโฮจิมินห์และเวียดนาม มีการพัฒนาด้านเศรษฐกิจที่มากขึ้นและมีนักท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก ทำให้พฤติกรรมการบริโภคกาแฟแบบดั้งเดิมเปลี่ยนไป

                  พฤติกรรมการดื่มกาแฟที่เปลี่ยนไปของชาวเวียดนาม กอปรกับความเจริญเติบโตของเศรษฐกิจ ส่งผลให้ร้านกาแฟกลายเป็นธุรกิจสมัยใหม่ที่ได้รับความนิยม มีแฟรนส์ไชส์ และร้านคาเฟ่อินดี้เปิดสาขาอย่างรวดเร็วในหลายๆ พื้นที่ในนครโฮจิมินห์ อาทิ ร้าน Trung Nguyen ร้าน Highland ร้าน Starbuck ร้าน Café Thuc และร้าน Cong Caphe[su_spacer size=”5″]

 

                 ร้านกาแฟ/คาเฟ่ต่างๆ ที่ได้รับความนิยมในนครโฮจิมินห์มักจะมีการตกแต่งที่ทันสมัยหรือมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว มีบริการ Wifi และเครื่องปรับอากาศ โดยผู้บริโภคหลายรายจะใช้เวลาอยู่ในร้านมากกว่า 1 – 2 ชั่วโมง หรืออาจจะใช้เป็นสถานที่นัดประชุมทางธุรกิจ เป็นที่ทำงานหรืออ่านหนังสือ หรือใช้เป็นที่พบปะสังสรรค์สำหรับกลุ่มวัยรุ่นที่นิยมเข้ามา Check-in และถ่ายรูปลงในเครือข่ายสังคมออนไลน์ การนั่งร้านกาแฟจึงเป็นศูนย์รวมสำหรับกิจรรมทางสังคมต่าง ๆ (สภากาแฟ) มากกว่ามานั่งดื่มกาแฟเพียงอย่างเดียว หลายร้านมีเมนูเครื่องดื่มที่แปลกใหม่และมีอาหารว่าง/ขนม เช่น แซนวิช เค้ก โท้ส หรือสลัด ซึ่งได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในกลุ่มวัยรุ่นที่ต้องการทดลองและค้นหาประสบการณ์ใหม่ๆ แต่อย่างไรก็ตาม ยังมีผู้คนอื่นไม่น้อยที่ยังชื่นชอบร้านกาแฟแบบดั้งเดิม โดยเฉพาะในหมู่ผู้บริโภครุ่นเก่า และพบได้ทั่วไปในเขตนอกตัวเมืองนครโฮจิมินห์[su_spacer size=”20″]

[su_spacer size=”20″]

                 นอกจากนั้น กระแส Specialty Coffee กำลังค่อยๆ ก่อตัวขึ้นในหมู่ผู้รักการดื่มกาแฟรุ่นใหม่ ซึ่งปัจจุบันมีมากกว่า 20 แห่ง กระจายอยู่ในเขตตัวเมืองของนครโฮจิมินห์ โดยร้าน Specialty Coffee ต่างๆ จะมีวิธีการคัดเลือกเมล็ดกาแฟคุณภาพดี มีวิธีการคั่วและทำกาแฟที่ใส่ใจในรายละเอียดทุก ๆ ขั้นตอน ไม่ว่าจะเป็นกรรมวิธีแบบ Syphon แบบ Aeropress แบบ Drip หรือแบบ French Press ซึ่งมีราคาสูงกว่าร้านกาแฟทั่วไปประมาณ 80 – 200 บาท เท่านั้น[su_spacer size=”20″]

                 การดื่มกาแฟของชาวเวียดนามยังมีลักษณะที่แตกต่างกันออกไปโดยแบ่งเป็นภาคเหนือและภาคใต้ โดยคนภาคเหนือจะมีวัฒนธรรมการดื่มค่อนข้างช้า มีแบบแผนและในระหว่างการดื่มจะมีการพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน แต่คนภาคใต้จะมีวัฒนธรรมการดื่มกาแฟที่รวดเร็ว และนิยมซื้อกลับบ้านมากกว่า หรือหากเป็นการดื่มที่ร้านก็จะใช้เวลาน้อยกว่าคนในภาคเหนือ เนื่องจากปัจจุบัน นครโฮจิมินห์กลายเป็นสังคมเร่งรีบ เป็นแหล่งการค้าและการลงทุนที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ มีการผสมผสานของวัฒนธรรมต่างชาติจากนักท่องเที่ยวและพนักงานชาวต่างชาติที่หลั่งไหลเข้ามาในนครแห่งนี้ และหลายคนหันมาดื่มกาแฟสำเร็จรูปขึ้นเรื่อยๆ[su_spacer size=”20″]

                 สถานที่รวบรวมร้านกาแฟสุดฮิตที่ไม่ว่าใครมาเที่ยวในนครโฮจิมินห์ก็ไม่ควรพลาดอาคาร Café Apartment ในบริเวณถนนคนเดิน Nguyen Hue เขต 1 [su_spacer size=”20″]

 

“The Cafe Apartment” ดังชื่อ เป็นเสมือนการรวม Apartment เข้ากับร้านกาแฟแบรนด์ท้องถิ่นของนครโฮจิมินห์ และร้านเสื้อผ้า ร้านเครื่องประดับ ร้านเสริมสวยไว้ที่เดียวกัน แต่เมื่อรวมกันแล้วมันคือความลงตัวของเทรนด์สมัยใหม่ผนวกกับวิถีชีวิตเดิมของชาวนครโฮจิมินห์ได้อย่างสมบูรณ์แบบ สามารถติดตามคลิปพาเยี่ยมชม The Cafe Apartment ได้ที่ Facebook : Royal Thai Consular-General, HoChi Minh City, Vietnam

 

[su_spacer size=”20″]

โอกาสของธุรกิจกาแฟในนครโฮจิมินห์
[su_spacer size=”20″]

[su_spacer size=”20″]

1.โอกาสในการบุกตลาดที่มีประชากรคลั่งไคล้ในการดื่มกาแฟ[su_spacer size=”20″]

                 ปัจุบัน ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าในภูมิภาคอาเซียน เวียดนามโดยเฉพาะบริเวณภาคใต้ของประเทศมีการพัฒนาด้านเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้จำนวนชนชั้นกลางเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดยวัฒนธรรมของชาวนครโฮจิมินห์ไม่ได้มองว่ากาแฟเป็นของฟุ่มเฟือยในชีวิต จึงสามารถดื่มได้ทุกวันจนกลายเป็นส่วนหนึ่งของวิถีชีวิตของทุกช่วงอายุคน และมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางมาเยือนนครโฮจิมินห์กว่า 6 ล้านคน จึงเป็นโอกาสสำหรับธุรกิจกาแฟที่แปลกใหม่ อาทิ ธุรกิจแฟรนไซส์ด้านเครื่องดื่มกาแฟของไทย อาทิ กาแฟโบราณ ชาไทย ยังมีโอกาสในการลงทุนขยายตลาดในโฮจิมินห์อีกมาก[su_spacer size=”20″]

2.กระแส “กาแฟแคปซูล” ในเอเชีย [su_spacer size=”20″]

                 จากประเด็นความเร่งรีบในสังคมเมือง สิ่งที่ผู้คนในนครโฮจิมินห์ต้องการคือความรวดเร็วในบริการต่างๆและความสะดวกสบายในชีวิตสูง กลุ่มคนรุ่นใหม่ที่เป็นคนท้องถิ่นจึงมองหากาแฟที่ไม่ยุ่งยาก จากบทวิเคราะห์ต่างๆ กาแฟแคปซูลมีการขยายตัวในภูมิภาคต่าง ๆ รวมถึงนครโฮจิมินห์ อัตราการเจริญเติบโตของกาแฟแคปซูลทั่วโลกจากปี 2554 ถึงปัจจุบัน มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 11 และกำลังตีตลาดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อาทิ มาเลเซีย ร้อยละ 4 สิงคโปร์และอินโดนีเซียร้อยละ 3 และร้อยละ 2 ในเวียดนาม ถือเป็นโอกาสสำหรับแบรนด์กาแฟแคปซูลจากต่างประเทศที่ยังไม่แพร่หลายในเวียดนามมากนัก[su_spacer size=”20″]

3.โอกาสในการนำกาแฟสำเร็จรูปไปขายในไทย [su_spacer size=”20″]

                 ผู้อ่านหลายท่านคงจะเคยลิ้มลองกาแฟ G7 (จีเซเว่น) ที่มีขายอยู่ในห้างสรรพสินค้าชั้นนำหลายแห่งในประเทศไทย และนักท่องเที่ยวชาวไทยนิยมซื้อกลับไปเป็นของฝากเป็นจำนวนมาก ซึ่งเป็นสิ่งยืนยันได้ถึงคุณภาพระดับสากลของกาแฟเวียดนามที่ประสบความสำเร็จในการบุกตลาดต่างประเทศ จึงเป็นโอกาสของนักลงทุนไทยที่สนใจจะนำเข้ากาแฟแบรนด์อื่นๆ ที่มีคุณภาพไม่แพ้กันให้คอกาแฟไทยได้ดื่มกัน[su_spacer size=”20″]

4.ตลาดแฟรนไซส์กาแฟในเวียดนามที่กำลังขยายตัว [su_spacer size=”20″]

                 ร้านกาแฟในเวียดนามมีเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ ไม่ว่าเป็นร้านกาแฟริมถนนหรือร้านกาแฟแบบไฮคลาส ที่เพียบพร้อมไปด้วยสินค้าและบริการที่มีคุณภาพ อาทิ การตกแต่งร้าน การให้บริหารอินเตอร์เน็ต มีการขายสินค้าชนิดต่าง ๆ นอกจากกาแฟ จึงสามารถดึงคนเข้าร้านได้มาก เนื่องจากผู้บริโภคในปัจจุบันมักใช้ร้านกาแฟเป็นที่พักผ่อน สังสรรค์และทำงานแบบสบาย ๆ และสามารถตอบสนองความต้องการของวัยรุ่นชาวเวียดนามได้เป็นอย่างดี ในปัจจุบันมีร้านกาแฟที่ได้รับความนิยมอยู่มาก อาทิ Trung Nguyen Coffee, Coffee Bean and Tea Leaf และ Starbucks ซึ่ง 3 แบรนด์นี้มีสาขากระจายไปทั่วนครโฮจิมินห์ ดังนั้นการลงทุนในตลาดแฟรนไซส์กาแฟในเวียดนามกำลังเป็นที่น่าสนใจ เนื่องจากมีขยายตัวเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ทั้งในด้านในประชากรที่เพิ่มขึ้น รายได้ที่เพิ่มขึ้น และนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวในนครโฮจิมินห์ก็มีจำนวนเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ[su_spacer size=”20″]

5.โอกาสของอุตสาหกรรมสนับสนุน/ธุรกิจต่อยอดที่เกี่ยวกับกาแฟ [su_spacer size=”20″]

                 เนื่องจากกาแฟมีรสชาติและกลิ่นที่เป็นเอกลักษณ์ทำให้หลายบริษัทมีแนวคิดที่จะนำกาแฟไปผสมกับผลิตภัณฑ์ต่างๆ อาทิ บริษัท โคคา-โคล่า ได้นำกาแฟไปผสมกับโค้ก ซึ่งเป็นที่นิยมในนครโฮจิมินห์ และยังมีผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้าและร่างกาย อาทิ ผลิตภัณฑ์มาร์กหน้า/ครีมบำรุงผิวหน้าและผิวหาย ซึ่งผลิตภัณฑ์ต่างๆ ที่ใช้กาแฟควบคู่ได้สร้างช่องทางใหม่ที่นักลงทุนต่างชาติสามารถขยายตลาดในเวียดนามได้ นอกจากนี้ การขยายตลาดในสินค้าที่เกี่ยวข้องกับการดื่มกาแฟ หรือโหนกระแสความนิยมกาแฟ เช่น กาแฟลดน้ำหนักที่เป็นที่นิยมในไทยแต่ยังไม่มีจำหน่ายในนครโฮจิมินห์มากนัก หรือผลิตภัณฑ์ที่ใช้ชงกาแฟในรูปแบบต่างๆ เช่น น้ำเชื่อมแต่งกลิ่น นมข้นหวาน   ที่ยังมีเฉพาะยี่ห้อท้องถิ่นเท่านั้น ทำให้ยังมีช่องว่างในการเจาะตลาดสินค้าประเภทดังกล่าวจากนักลงทุนจากประเทศต่างๆ รวมถึงไทย[su_spacer size=”20″]

ศูนย์ข้อมูลธุรกิจไทยในนครโฮจิมินห์

Previous Post

ฮ่องกงจัดสัมมนา Marketing Pulse 2018 แนะนักการตลาดใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่เข้าถึงผู้บริโภคชาวจีน

Next Post

อิหร่านเพิ่มค่าแรงขั้นต่ำสูงสุดตั้งแต่ปี 2545

mackeyrisen

mackeyrisen

Next Post
อิหร่านเพิ่มค่าแรงขั้นต่ำสูงสุดตั้งแต่ปี 2545

อิหร่านเพิ่มค่าแรงขั้นต่ำสูงสุดตั้งแต่ปี 2545

Post Views: 2,964

NEW EVENT

Current Month

RECENTNEWS

กว่างซีจ้วงเร่งเครื่องเศรษฐกิจสีน้ำเงิน โอกาสใหม่ของไทยในยุทธศาสตร์ทะเลจีน

กว่างซีจ้วงเร่งเครื่องเศรษฐกิจสีน้ำเงิน โอกาสใหม่ของไทยในยุทธศาสตร์ทะเลจีน

23/05/2025
เขต YRD ทะยานสู่ผู้นำโลกหุ่นยนต์เสมือนมนุษย์ และโอกาสความร่วมมือกับไทย ตอนที่ 3

เขต YRD ทะยานสู่ผู้นำโลกหุ่นยนต์เสมือนมนุษย์ และโอกาสความร่วมมือกับไทย ตอนที่ 3

22/05/2025
เจาะตัวเลขการค้าหูหนาน ไตรมาสแรก 2568

เจาะตัวเลขการค้าหูหนาน ไตรมาสแรก 2568

22/05/2025
ทิศทางความเคลื่อนไหวด้านพลังงานนิวเคลียร์ของไต้หวัน

ทิศทางความเคลื่อนไหวด้านพลังงานนิวเคลียร์ของไต้หวัน

22/05/2025
“โปรตีนทางเลือก” โอกาสสำหรับธุรกิจอาหารเพื่อความยั่งยืนในสิงคโปร์

“โปรตีนทางเลือก” โอกาสสำหรับธุรกิจอาหารเพื่อความยั่งยืนในสิงคโปร์

22/05/2025
สรุปข่าวเศรษฐกิจที่สำคัญของรัฐบาเดิน-เวือรืทเทิมแบร์ค

สรุปข่าวเศรษฐกิจที่สำคัญของรัฐบาเดิน-เวือรืทเทิมแบร์ค

22/05/2025

FOLLOW US

ศูนย์ธุรกิจสัมพันธ์ กรมเศรษฐกิจระหว่างประเทศ
กระทรวงการต่างประเทศ
443 ถนนศรีอยุธยา แขวงทุ่งพญาไท เขตราชเทวี
กรุงเทพมหานคร 10400

OFFICE HOURS

วันทำการ : จันทร์ – ศุกร์ เวลา 08.30 – 16.30 น.
(ยกเว้นวันหยุดนักขัตฤกษ์)
TEL : 02-203-5000 ต่อ 14239 – 14245
EMAIL : IN**@**********ND.COM

FOLLOW US

© 2016-2022 Globthailand.com Business Information Centers (BICs) Ministry of Foreign Affairs, Kingdom of Thailand. All rights reserved.

No Result
View All Result
  • Home
  • เกี่ยวกับเรา
  • ทันโลก
    • เศรษฐกิจ I การเงิน
    • ธุรกิจ I การค้า I การลงทุน
    • การท่องเที่ยว I การบริการ
    • อาหาร I การเกษตร
    • คมนาคม I โลจิสติกส์
    • การแพทย์ I สุขภาพ
    • พลังงาน I สิ่งแวดล้อม I ความยั่งยืน
    • เทคโนโลยี I นวัตกรรม
    • E-commerce
    • กฎ I ระเบียบ I นโยบาย
    • อื่นๆ
    • INFOGRAPHICS
  • Glob Issue
  • ชี้ช่องจากทีมทูต
  • โอกาสใหม่ในต่างแดน
    • โอกาสใหม่ในต่างแดน
    • Thai Festival
  • รู้กฎก่อนรุก
    • ความตกลงว่าด้วยการลงทุนระหว่างประเทศ
  • Glob Insight
  • INTER ECON
  • เครือข่ายของเรา
    • GT Network
    • ลิงค์ที่น่าสนใจ
  • ติดต่อเรา

© 2016-2022 Globthailand.com Business Information Centers (BICs) Ministry of Foreign Affairs, Kingdom of Thailand. All rights reserved.

Welcome Back!

Sign In with Facebook
Sign In with Google
OR

Login to your account below

Forgotten Password? Sign Up

Create New Account!

Sign Up with Facebook
Sign Up with Google
OR

Fill the forms below to register

All fields are required. Log In

Retrieve your password

Please enter your username or email address to reset your password.

Log In
X
X