Monday, June 9, 2025
  • Login
  • Register
  • Home
  • เกี่ยวกับเรา
  • ทันโลก
    • เศรษฐกิจ I การเงิน
    • ธุรกิจ I การค้า I การลงทุน
    • การท่องเที่ยว I การบริการ
    • อาหาร I การเกษตร
    • คมนาคม I โลจิสติกส์
    • การแพทย์ I สุขภาพ
    • พลังงาน I สิ่งแวดล้อม I ความยั่งยืน
    • เทคโนโลยี I นวัตกรรม
    • E-commerce
    • กฎ I ระเบียบ I นโยบาย
    • อื่นๆ
    • INFOGRAPHICS
  • Glob Issue
  • ชี้ช่องจากทีมทูต
  • โอกาสใหม่ในต่างแดน
    • โอกาสใหม่ในต่างแดน
    • Thai Festival
  • รู้กฎก่อนรุก
    • ความตกลงว่าด้วยการลงทุนระหว่างประเทศ
  • Glob Insight
  • INTER ECON
  • เครือข่ายของเรา
    • GT Network
    • ลิงค์ที่น่าสนใจ
  • ติดต่อเรา
No Result
View All Result
Glob Thailand
  • Home
  • เกี่ยวกับเรา
  • ทันโลก
    • เศรษฐกิจ I การเงิน
    • ธุรกิจ I การค้า I การลงทุน
    • การท่องเที่ยว I การบริการ
    • อาหาร I การเกษตร
    • คมนาคม I โลจิสติกส์
    • การแพทย์ I สุขภาพ
    • พลังงาน I สิ่งแวดล้อม I ความยั่งยืน
    • เทคโนโลยี I นวัตกรรม
    • E-commerce
    • กฎ I ระเบียบ I นโยบาย
    • อื่นๆ
    • INFOGRAPHICS
  • Glob Issue
  • ชี้ช่องจากทีมทูต
  • โอกาสใหม่ในต่างแดน
    • โอกาสใหม่ในต่างแดน
    • Thai Festival
  • รู้กฎก่อนรุก
    • ความตกลงว่าด้วยการลงทุนระหว่างประเทศ
  • Glob Insight
  • INTER ECON
  • เครือข่ายของเรา
    • GT Network
    • ลิงค์ที่น่าสนใจ
  • ติดต่อเรา
No Result
View All Result
No Result
View All Result
Home ชี้ช่องจากทีมทูต

มะม่วงไทย: ผลไม้ทางเลือกสำหรับส่งออกไปยังอินโดนีเซีย

02/04/2018
in ชี้ช่องจากทีมทูต
0
มะม่วงไทย: ผลไม้ทางเลือกสำหรับส่งออกไปยังอินโดนีเซีย
1
SHARES
510
VIEWS
Share on FacebookShare on TwitterShare on Line

           อินโดนีเซียเป็นประเทศที่นำเข้าผลไม้จากไทยหลายชนิด โดยเฉพาะทุเรียน ลำไย และมะขามซึ่งในส่วนของลำไยนั้น อินโดนีเซียมีความต้องการนำเข้าผลไม้ชนิดนี้มากถึง 77,000 ตันต่อปี (ข้อมูลปี 2560) โดยสถานการณ์การนำเข้าลำไยจากไทยในปี 2560 มีแนวโน้มดีขึ้น เนื่องจากเมื่อเดือนพฤษภาคม 2560 อินโดนีเซียได้เริ่มออกใบอนุญาตนำเข้า (import permit) ให้แก่ผู้นำเข้าผลไม้หลายราย ส่งผลให้ในปีที่ผ่านมา ไทยเป็นประเทศแหล่งนำเข้าลำไยอันดับหนึ่งของอินโดนีเซีย โดยมีสัดส่วนกว่าร้อยละ 90 ของปริมาณการนำเข้าทั้งหมด[su_spacer size=”20″]

           อย่างไรก็ตาม ในปี 2561 นี้ รัฐบาลอินโดนีเซียได้ออกนโยบายรักษาสมดุลอุปสงค์และอุปทานลำไยภายในประเทศ โดยจำกัดการนำเข้าลำไยจากต่างประเทศในช่วงเดือนกรกฎาคมถึงเดือนสิงหาคมในปีนี้ เพื่อปกป้องตลาดลำไยภายในประเทศ ซึ่งมีกำหนดเก็บเกี่ยวในช่วงเดียวกันของปี โดยกระทรวงเกษตรของอินโดนีเซียคาดการณ์ว่า ผลผลิตลำไยภายในประเทศน่าจะเพียงพอต่อความต้องการในช่วงดังกล่าว[su_spacer size=”20″]

           เกี่ยวกับเรื่องนี้ สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงจาการ์ตา มิได้นิ่งนอนใจ เร่งเข้าพบกับผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงเกษตรอินโดนีเซียเมื่อเดือนมกราคมและเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ขอให้กระทรวงเกษตรของอินโดนีเซียพิจารณาทบทวนมาตรการดังกล่าว ซึ่งกระทรวงเกษตรของอินโดนีเซียแจ้งว่า แม้จะมีความเชื่อมั่นว่า ผลผลิตลำไยซึ่งส่วนมากผลิตจากจังหวัดชวากลาง น่าจะมีปริมาณเพียงพอต่อความต้องการบริโภคในช่วงเดือนกรกฎาคมถึงเดือนสิงหาคมของปีนี้ แต่หากพบว่าปริมาณลำไยขาดตลาด กระทรวงเกษตรของอินโดนีเซียก็พร้อมที่จะหารือกับกรมการค้าของอินโดนีเซียในการทบทวนนโยบายการนำเข้าลำไยดังกล่าว เพื่อให้ปริมาณลำไยมีเพียงพอกับความต้องการในประเทศ ซึ่งฝ่ายไทยจะได้ติดตามเรื่องนี้ต่อไป[su_spacer size=”20″]

           เป็นที่น่าสังเกตด้วยว่า ลำไยมิใช่ผลไม้ชนิดแรกที่อินโดนีเซียกำหนดมาตรการจำกัดช่วงเวลาการนำเข้า ด้วยเหตุผลเพื่อปกป้องผลผลิตภายในประเทศ แต่ก่อนหน้านี้ อินโดนีเซียก็ได้เคยออกมาตรการในลักษณะนี้กับการนำเข้าทุเรียนของไทยมาแล้วเช่นกัน จึงทำให้คาดการณ์ได้ว่า ในอนาคต อินโดนีเซียน่าจะดำเนินการในลักษณะนี้กับผลไม้ชนิดอื่น ๆ อีก ซึ่งทำให้ผู้ประกอบการของไทยต้องปรับตัวให้มากขึ้น ทั้งการกระจายความเสี่ยงโดยการหาช่องทางการส่งออกไปยังตลาดอื่น ๆ นอกเหนือจากอินโดนีเซีย รวมทั้งการหาวิธีแปรรูปและเพิ่มมูลค่าของสินค้าเพื่อรักษาตลาดดั้งเดิมเอาไว้[su_spacer size=”20″]

           นอกจากเรื่องลำไยที่นับเป็นข่าวที่ไม่สู้จะดีนักสำหรับเกษตรกรไทยแล้ว ก็นับว่ายังมีข่าวดีอยู่บ้าง โดยในปีนี้ ถือเป็นปีแรกที่อินโดนีเซียจะนำเข้ามะม่วงไทยในช่วงเดือนพฤษภาคมถึงเดือนกรกฎาคม ซึ่งจะเป็นโอกาสอันดีของเกษตรกรที่เพาะปลูกมะม่วง และผู้ส่งออกของไทย เนื่องจากช่วงดังกล่าวเป็นช่วงเวลาที่มะม่วงของไทยออกผลพอดี ทั้งนี้ เกษตรกรและผู้ประกอบการที่ประสงค์ส่งออกผลไม้สด จะต้องปฏิบัติตามกฎระเบียบการนำเข้าพืชสวนของอินโดนีเซียอย่างเคร่งครัด โดยการส่งออกผลไม้ไปยังอินโดนีเซียต้องมีหลักฐานหรือใบรับรองผลการตรวจสอบที่ออกโดยห้องปฏิบัติการที่มีอำนาจ และได้รับการรับรองจากทางการอินโดนีเซีย ว่ามีความปลอดภัยต่อผู้บริโภค มีบรรจุภัณฑ์ที่ได้มาตรฐาน ไม่ใช้ยาฆ่าแมลงที่ห้ามในอินโดนีเซีย และไม่มีเชื้อโรคทางพืชและแมลงตามที่รัฐบาลกำหนด[su_spacer size=”20″]

           อนึ่ง เกษตรกรและผู้ประกอบการที่ดำเนินธุรกิจนำเข้าส่งออกผลไม้สดต้องส่งออกมะม่วงผ่านผู้นำเข้าผลไม้ของอินโดนีเซียที่มีใบรับรองการดำเนินธุรกิจ Recommendation of Horticultural Products (RIPH) จากรัฐบาลเท่านั้น ซึ่งเกษตรกรและผู้ประกอบการสามารถสืบค้นข้อมูลเพิ่มเติมได้จากประกาศของกระทรวงเกษตรของอินโดนีเซียทางเว็บไซต์ www.pertanian.go.id[su_spacer size=”20″]

ศูนย์ธุรกิจสัมพันธ์

กรมเศรษฐกิจระหว่างประเทศ กระทรวงการต่างประเทศ

สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงจาการ์ตา

Previous Post

ส่องนโยบายเศรษฐกิจเวียดนามและอุตสาหกรรมมาแรงปี2561

Next Post

จับตาทิศทางการรวมตัวทางเศรษฐกิจของ SAARC – สมาคมความร่วมมือแห่งภูมิภาคเอเชียใต้

mackeyrisen

mackeyrisen

Next Post
จับตาทิศทางการรวมตัวทางเศรษฐกิจของ SAARC –  สมาคมความร่วมมือแห่งภูมิภาคเอเชียใต้

จับตาทิศทางการรวมตัวทางเศรษฐกิจของ SAARC - สมาคมความร่วมมือแห่งภูมิภาคเอเชียใต้

Post Views: 1,774

NEW EVENT

Current Month

RECENTNEWS

Update! สถานการณ์เศรษฐกิจเขตบริหารพิเศษฮ่องกง

Update! สถานการณ์เศรษฐกิจเขตบริหารพิเศษฮ่องกง

09/06/2025
สวีเดนหนุนเวียดนามสู่การเป็นศูนย์กลางสิ่งทอรีไซเคิลของโลก

สวีเดนหนุนเวียดนามสู่การเป็นศูนย์กลางสิ่งทอรีไซเคิลของโลก

07/06/2025
จับตาตลาดกุ้งเครย์ฟิชจีน ช่องทางใหม่ของผู้ส่งออกไทย

จับตาตลาดกุ้งเครย์ฟิชจีน ช่องทางใหม่ของผู้ส่งออกไทย

06/06/2025
การซื้อขายคาร์บอนเครดิตระหว่างไทย-สิงคโปร์: โอกาสใหม่ในการลดก๊าสเรือนกระจกอย่างยั่งยืน

การซื้อขายคาร์บอนเครดิตระหว่างไทย-สิงคโปร์: โอกาสใหม่ในการลดก๊าสเรือนกระจกอย่างยั่งยืน

05/06/2025
นักวิจัยค้นพบ “เชื้อราทะเล” (Marine Fungi) ย่อยสลายพลาสติกในมหาสมุทรได้

นักวิจัยค้นพบ “เชื้อราทะเล” (Marine Fungi) ย่อยสลายพลาสติกในมหาสมุทรได้

05/06/2025
นครหนานหนิงเร่งสร้าง “ศูนย์นวัตกรรมความร่วมมือด้าน AI จีน-อาเซียน”

นครหนานหนิงเร่งสร้าง “ศูนย์นวัตกรรมความร่วมมือด้าน AI จีน-อาเซียน”

05/06/2025

FOLLOW US

ศูนย์ธุรกิจสัมพันธ์ กรมเศรษฐกิจระหว่างประเทศ
กระทรวงการต่างประเทศ
443 ถนนศรีอยุธยา แขวงทุ่งพญาไท เขตราชเทวี
กรุงเทพมหานคร 10400

OFFICE HOURS

วันทำการ : จันทร์ – ศุกร์ เวลา 08.30 – 16.30 น.
(ยกเว้นวันหยุดนักขัตฤกษ์)
TEL : 02-203-5000 ต่อ 14239 – 14245
EMAIL : IN**@**********ND.COM

FOLLOW US

© 2016-2022 Globthailand.com Business Information Centers (BICs) Ministry of Foreign Affairs, Kingdom of Thailand. All rights reserved.

No Result
View All Result
  • Home
  • เกี่ยวกับเรา
  • ทันโลก
    • เศรษฐกิจ I การเงิน
    • ธุรกิจ I การค้า I การลงทุน
    • การท่องเที่ยว I การบริการ
    • อาหาร I การเกษตร
    • คมนาคม I โลจิสติกส์
    • การแพทย์ I สุขภาพ
    • พลังงาน I สิ่งแวดล้อม I ความยั่งยืน
    • เทคโนโลยี I นวัตกรรม
    • E-commerce
    • กฎ I ระเบียบ I นโยบาย
    • อื่นๆ
    • INFOGRAPHICS
  • Glob Issue
  • ชี้ช่องจากทีมทูต
  • โอกาสใหม่ในต่างแดน
    • โอกาสใหม่ในต่างแดน
    • Thai Festival
  • รู้กฎก่อนรุก
    • ความตกลงว่าด้วยการลงทุนระหว่างประเทศ
  • Glob Insight
  • INTER ECON
  • เครือข่ายของเรา
    • GT Network
    • ลิงค์ที่น่าสนใจ
  • ติดต่อเรา

© 2016-2022 Globthailand.com Business Information Centers (BICs) Ministry of Foreign Affairs, Kingdom of Thailand. All rights reserved.

Welcome Back!

Sign In with Facebook
Sign In with Google
OR

Login to your account below

Forgotten Password? Sign Up

Create New Account!

Sign Up with Facebook
Sign Up with Google
OR

Fill the forms below to register

All fields are required. Log In

Retrieve your password

Please enter your username or email address to reset your password.

Log In
X
X