ไทยเปิดศาลาไทยที่งานสัปดาห์สีเขียวนานาชาติ หรือ International Green Week พร้อมจัดแสดงผลิตภัณฑ์นวัตกรรมอาหารของไทยให้ต่างชาติได้ลิ้มลอง ยืนยันศักยภาพของไทยในการเป็น “ครัวโลก” ภายใต้โครงการ “การทูตเชิงเศรษฐกิจเพื่อเพิ่มพูนศักยภาพในการแข่งขันของภาคอุตสาหกรรมเกษตรและอาหารของไทย” ระหว่างวันที่ 19 – 28 มกราคม 2561 ณ กรุงเบอร์ลิน สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี[su_spacer size=”20″]
เมื่อวันที่ 19 มกราคม 2561 สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเบอร์ลิน ได้เปิดศาลาไทยในงาน International Green Week ซึ่งในปีนี้ได้นำเสนอในหัวข้อ “ประเทศไทย: หมู่บ้านสีเขียวสำหรับเศรษฐกิจที่มีนวัตกรรมและการพัฒนาอย่างยั่งยืน” โดยนาย Thomas Silberhorn รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงความร่วมมือระหว่างประเทศและการพัฒนาของเยอรมนีร่วมเป็นแขกเกียรติยศกล่าวเปิดงานและตัดริบบิ้นร่วมกับนายธีรวัฒน์ ภูมิจิตร เอกอัครราชทูต ณ กรุงเบอร์ลิน[su_spacer size=”20″]
การเข้าร่วมงานในปีนี้ กรมเศรษฐกิจระหว่างประเทศ กระทรวงการต่างประเทศ ได้ร่วมคัดเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีความโดดเด่นสะท้อนความอุดมสมบูรณ์ทางการเกษตรของไทยที่ได้พัฒนาผลิตภัณฑ์ด้วยนวัตกรรมอาหารเข้าร่วมจัดแสดง เพื่อสร้างความรับรู้สินค้าเกษตรของไทย อาทิ ข้าวหุงสุกออร์แกนิค ซีเรียลไรซ์เบอร์รี่ น้ำพริกผลไม้ น้ำมะนาวคั้นสด ชุดผัดไทยพร้อมปรุงรับประทาน วาฟเฟิลกลูเตนฟรีโปรตีนสูง แยมผลไม้ และจานกาบหมาก รวมทั้งยังได้นำเกษตรกรต้นแบบที่ผลิตข้าวที่มีปริมาณน้ำตาลต่ำเหมาะสำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวาน นอกจากเหนือจากมูลนิธิชัยพัฒนา โครงการตามพระราชดำริต่าง ๆ องค์การตลาดเพื่อเกษตรกร (อตก.) และผู้ส่งออกสินค้าออร์แกนิคและอาหารแปรรูป ที่ได้เข้าร่วมออกร้านในงานอีกด้วย[su_spacer size=”20″]
ในช่วงระยะเวลาการจัดงาน 10 วัน คาดว่า มีเข้าชมศาลาไทยทั้งหมด 4 แสนคน ทั้งนี้ สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเบอร์ลิน ได้เข้าร่วมงานตั้งแต่ปี 2557 เพื่อส่งเสริมภาพลักษณ์สินค้าเกษตรและอาหารของไทยที่มีคุณภาพอย่างต่อเนื่อง[su_spacer size=”20″]
ทำไมเยอรมนีจึงจัดเทศกาลสัปดาห์สีเขียวนานาชาติ
เยอรมนีให้ความสำคัญกับเศรษฐกิจสีเขียว และเป็นผู้ส่งออกอาหารมากที่สุดเป็นอันดับ 3 ของโลก ส่วนไทยเป็นผู้ส่งออกอันดับที่ 13 โดยเยอรมนีเป็นตลาดส่งออกสินค้าเกษตรและอาหารอันดับ 1 ของไทยในสหภาพยุโรป สินค้าด้านเกษตรและอาหารที่เยอรมนีส่งออกเป็นหลัก ได้แก่ เนื้อสัตว์ ผลิตภัณฑ์จากนม ขนมปัง ผลิตภัณฑ์เบเกอรี่ และขนมหวาน[su_spacer size=”20″]
สินค้าอาหารของเยอรมนี นอกจากจะต้องสด อร่อย ปลอดภัย และมีคุณค่าทางสารอาหารแล้วสิ่งที่ชาวเยอรมันให้ความสำคัญมากที่สุด คือ การมีสินค้าที่มีคุณภาพ ได้มาตรฐาน และไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม เยอรมนีจึงมิได้เป็นเพียงผู้ผลิตอาหารเท่านั้น แต่เป็นผู้ให้บริการการผลิตอาหารที่ “ครบวงจร” โดยใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมนำการผลิตเพื่อตอบโจทย์ข้างต้น ตั้งแต่วัตถุดิบการเกษตร กระบวนการปลูก การใช้เครื่องจักรกลการเกษตร กระบวนการจัดเก็บที่ดี การคิดค้นนวัตกรรมบรรจุภัณฑ์เพื่อยืดอายุผลิตภัณฑ์ และมีหน่วยงานรับรองมาตรฐานผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร อาหาร และเครื่องจักรกล ซึ่งเป็นที่ยอมรับระดับโลก[su_spacer size=”20″]
ในตอนหน้าเราจะมาดูว่าโอกาสของสินค้าอาหารและเกษตรของไทย มีโอกาสมากน้อยแค่ไหนในการเข้าไปทำตลาดในเยอรมนี และภายในงาน International Green Week ในครั้งนี้มีกลุ่มสินค้าอาหารและเกษตร กลุ่มผลิตภัณฑ์ใดบ้างที่ได้รับความสนใจภายในงาน[su_spacer size=”20″]
กรมเศรษฐกิจระหว่างประเทศ
กระทรวงการต่างประเทศ