Sunday, June 8, 2025
  • Login
  • Register
  • Home
  • เกี่ยวกับเรา
  • ทันโลก
    • เศรษฐกิจ I การเงิน
    • ธุรกิจ I การค้า I การลงทุน
    • การท่องเที่ยว I การบริการ
    • อาหาร I การเกษตร
    • คมนาคม I โลจิสติกส์
    • การแพทย์ I สุขภาพ
    • พลังงาน I สิ่งแวดล้อม I ความยั่งยืน
    • เทคโนโลยี I นวัตกรรม
    • E-commerce
    • กฎ I ระเบียบ I นโยบาย
    • อื่นๆ
    • INFOGRAPHICS
  • Glob Issue
  • ชี้ช่องจากทีมทูต
  • โอกาสใหม่ในต่างแดน
    • โอกาสใหม่ในต่างแดน
    • Thai Festival
  • รู้กฎก่อนรุก
    • ความตกลงว่าด้วยการลงทุนระหว่างประเทศ
  • Glob Insight
  • INTER ECON
  • เครือข่ายของเรา
    • GT Network
    • ลิงค์ที่น่าสนใจ
  • ติดต่อเรา
No Result
View All Result
Glob Thailand
  • Home
  • เกี่ยวกับเรา
  • ทันโลก
    • เศรษฐกิจ I การเงิน
    • ธุรกิจ I การค้า I การลงทุน
    • การท่องเที่ยว I การบริการ
    • อาหาร I การเกษตร
    • คมนาคม I โลจิสติกส์
    • การแพทย์ I สุขภาพ
    • พลังงาน I สิ่งแวดล้อม I ความยั่งยืน
    • เทคโนโลยี I นวัตกรรม
    • E-commerce
    • กฎ I ระเบียบ I นโยบาย
    • อื่นๆ
    • INFOGRAPHICS
  • Glob Issue
  • ชี้ช่องจากทีมทูต
  • โอกาสใหม่ในต่างแดน
    • โอกาสใหม่ในต่างแดน
    • Thai Festival
  • รู้กฎก่อนรุก
    • ความตกลงว่าด้วยการลงทุนระหว่างประเทศ
  • Glob Insight
  • INTER ECON
  • เครือข่ายของเรา
    • GT Network
    • ลิงค์ที่น่าสนใจ
  • ติดต่อเรา
No Result
View All Result
No Result
View All Result
Home ทันโลก

โอกาสทางธุรกิจที่ไม่ควรมองข้าม: เวียดนามกับกฎหมายเภสัชกรรมฉบับใหม่

28/02/2019
in ทันโลก, เอเชีย
0
กุ้ยหยางร่วมมือ Tencent พัฒนา “เมืองแห่งเศรษฐกิจดิจิทัลอัจฉริยะ”
3
SHARES
89
VIEWS
Share on FacebookShare on TwitterShare on Line

             เมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน 2561 รัฐบาลเวียดนามได้ออกกฤษฎีกาหมายเลข 115/2018/ND-CP แก้ไขเพิ่มเติมข้อกฎหมายภายใต้กฤษฎีกาหมายเลข 54/2017/ND-CP ซึ่งเกี่ยวข้องกับการดําเนินธุรกิจด้านเภสัชกรรมในเวียดนาม ส่งผลให้บรรยากาศการแข่งขันทางธุรกิจในด้านดังกล่าวเปิดกว้างมากขึ้น โดยการแก้ไขกฎหมายดังกล่าวจะเปิดโอกาสให้ภาคเอกชนเวียดนามและภาคเอกชนของต่างชาติรวมถึงไทยสามารถแข่งขันกับบริษัทผลิตเวชภัณฑ์ยาที่เป็นรัฐวิสาหกิจได้มากขึ้น ทั้งในด้านการค้าและการลงทุนโดยเฉพาะการขยายตลาดด้านผลิตภัณฑ์เวชสําอางซึ่งมียาเป็นส่วนประกอบสําคัญ [su_spacer size=”20″]

             สาระสําคัญของกฤษฎีกาหมายเลข 115/2018/ND-CP โดยสรุปได้ลดขั้นตอนและจํานวนเอกสารสําหรับการนําเข้ายาและเวชภัณฑ์จากต่างประเทศ อาทิ (1) ผู้นําเข้าได้รับการยกเว้นการยื่นใบประกาศ Good Manufacturing Practice (GMP) หากสถานที่ที่ผลิตสินค้าได้รับการรับรอง GMP แล้ว ต่างจากเดิมที่กําหนดให้ยื่น GMP ของแหล่งผลิตทุกแห่ง (2) ได้รับการยกเว้น clinical records สําหรับการนําเข้ายาที่เคยได้รับใบอนุญาตการนําเข้าผ่านการนําเข้าด้วยวิธีเดียวกันแล้ว (3) การผ่อนปรนข้อจํากัดด้านปริมาณการนําเข้ายาให้เป็นไปตามความต้องการของผู้นําเข้ามากขึ้นบนพื้นฐานของปริมาณความต้องการใช้ยาและความรุนแรงของโรคระบาดในประเทศเวียดนาม  (4) การย่นระยะเวลาสําหรับการประเมินและรับรองเอกสารในการขึ้น ทะเบียนเวชภัณฑ์ยาจากเดิม 60 และ 30 วัน เหลือเพียง 40 และ 20 วัน ตามลําดับ และ (5) การกําหนดให้การขอขึ้นทะเบียนยานําเข้าสามารถใช้รายละเอียดฉลาก (label model) และคําอธิบายผลิตภัณฑ์เป็นไปตามประเทศผู้ผลิตหรือประเทศผู้ส่งออกยาก็ได้กรณีที่ไม่มีเอกสารใบอนุญาตผลิตภัณฑ์เภสัชกรรม Certificate of pharmaceutical product : CPP) เป็นต้น [su_spacer size=”20″]

             การแก้ไขกฤษฎีกาในครั้งนี้จึงน่าจะส่งผลให้บริษัทเวียดนามและบริษัทต่างชาติสามารถนําเข้าเวชภัณฑ์ยามายังเวียดนามได้เพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะยาเพื่อรักษาโรคที่ไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs) ซึ่งมีความต้องการสูงและเป็นสาเหตุลําดับต้นกว่าร้อยละ 70 ของการเสียชีวิตของผู้ป่วยในเวียดนาม อย่างไรก็ดีกฤษฎีกาดังกล่าวมิได้มีการกล่าวถึงสิทธิการเช่าพื้นที่/คลังสินค้า และการกระจายสินค้าเวชภัณฑ์ยาในประเทศเวียดนาม ซึ่งตามกฎหมายฉบับเดิมกําหนดให้บริษัทที่มีการลงทุนของต่างชาติและผู้นําเข้าต่างชาติต้องใช้ผู้กระจายสินค้าและคลังสินค้าท้องถิ่นตามที่กระทรวงสาธารณสุขเวียดนามกําหนด [su_spacer size=”20″]

             จากรายงานของบริษัทที่ปรึกษาด้านธุรกิจ BMI พบว่าตลาดด้านยาและเวชภัณฑ์ในเวียดนามเติบโตเฉลี่ยกว่าร้อยละ 10 ต่อปี โดยในปี 2560 มีมูลค่าสูงถึง 4.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ และคาดว่าจะเติบโตสูงถึง 6.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐภายในปี 2564 ซึ่งสอดคล้องกับการคาดการณ์ด้านประชากรสูงวัย (อายุมากกว่า 65 ปี) ที่จะเพิ่มสูงขึ้นถึง 18 ล้านคน ทั้งนี้ ปัจจุบันรัฐบาลเวียดนามมีนโยบายส่งเสริมการผลิตยาในประเทศมากขึ้น โดยให้สิทธิประโยชน์ด้านการลดหย่อนภาษีนิติบุคคล ภาษีการนําเข้าปัจจัยการผลิต และการใช้ที่ดิน เป็นต้น โดยเฉพาะการผลิตยาสามัญทั่วไปเพื่อทดแทนการนําเข้า รวมถึงส่งเสริมการวิจัยและผลิตยาแผนโบราณ ตลอดจนส่งเสริมการลงทุนด้านสิ่งอํานวยความสะดวกด้านสุขภาพและโรงพยาบาล ในส่วนของนครโฮจิมินห์มีนโยบายส่งเสริมการใช้การบริการทางการแพทย์และการรักษาพยาบาลด้วยเทคโนโลยีขั้นสูง รวมถึงการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพโดยเฉพาะด้านทันตกรรม [su_spacer size=”20″]

             ผู้ค้าและนักลงทุนที่สนใจจะขยายตลาดด้านเวชภัณฑ์ยาในเวียดนามควรศึกษากฎหมายและกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องโดยใช้บริการบริษัทที่ปรึกษาทางกฎหมายที่เชื่อถือได้ ในส่วนของภาครัฐของไทยในประเทศเวียดนาม สถานกงสุลใหญ่ ณ นครโฮจิมินห์ สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงฮานอย ตลอดจนสํานักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศของไทยในเวียดนามพร้อมสนับสนุนและช่วยเหลือการดําเนินธุรกิจของภาคเอกชนไทยในเวียดนาม [su_spacer size=”20″]

สถานกงสุลใหญ่ ณ นครโฮจิมินห์

Previous Post

กุ้ยหยางร่วมมือ Tencent พัฒนา “เมืองแห่งเศรษฐกิจดิจิทัลอัจฉริยะ”

Next Post

มองเศรษฐกิจยุโรปจากงาน Euro Financial Week ครั้งที่ 21 ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นกับการนำเข้าส่งออกสินค้าไทย

Tanakorn

Tanakorn

Glob Thailand Administrator

Next Post
มองเศรษฐกิจยุโรปจากงาน Euro Financial Week ครั้งที่ 21 ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นกับการนำเข้าส่งออกสินค้าไทย

มองเศรษฐกิจยุโรปจากงาน Euro Financial Week ครั้งที่ 21 ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นกับการนำเข้าส่งออกสินค้าไทย

Post Views: 394

NEW EVENT

Current Month

RECENTNEWS

สวีเดนหนุนเวียดนามสู่การเป็นศูนย์กลางสิ่งทอรีไซเคิลของโลก

สวีเดนหนุนเวียดนามสู่การเป็นศูนย์กลางสิ่งทอรีไซเคิลของโลก

07/06/2025
จับตาตลาดกุ้งเครย์ฟิชจีน ช่องทางใหม่ของผู้ส่งออกไทย

จับตาตลาดกุ้งเครย์ฟิชจีน ช่องทางใหม่ของผู้ส่งออกไทย

06/06/2025
การซื้อขายคาร์บอนเครดิตระหว่างไทย-สิงคโปร์: โอกาสใหม่ในการลดก๊าสเรือนกระจกอย่างยั่งยืน

การซื้อขายคาร์บอนเครดิตระหว่างไทย-สิงคโปร์: โอกาสใหม่ในการลดก๊าสเรือนกระจกอย่างยั่งยืน

05/06/2025
นักวิจัยค้นพบ “เชื้อราทะเล” (Marine Fungi) ย่อยสลายพลาสติกในมหาสมุทรได้

นักวิจัยค้นพบ “เชื้อราทะเล” (Marine Fungi) ย่อยสลายพลาสติกในมหาสมุทรได้

05/06/2025
นครหนานหนิงเร่งสร้าง “ศูนย์นวัตกรรมความร่วมมือด้าน AI จีน-อาเซียน”

นครหนานหนิงเร่งสร้าง “ศูนย์นวัตกรรมความร่วมมือด้าน AI จีน-อาเซียน”

05/06/2025
ชวนศึกษาแผนพัฒนาประเทศบรูไน ฉบับที่ 12 (ปี ค.ศ. 2024 – 2029)

ชวนศึกษาแผนพัฒนาประเทศบรูไน ฉบับที่ 12 (ปี ค.ศ. 2024 – 2029)

06/06/2025

FOLLOW US

ศูนย์ธุรกิจสัมพันธ์ กรมเศรษฐกิจระหว่างประเทศ
กระทรวงการต่างประเทศ
443 ถนนศรีอยุธยา แขวงทุ่งพญาไท เขตราชเทวี
กรุงเทพมหานคร 10400

OFFICE HOURS

วันทำการ : จันทร์ – ศุกร์ เวลา 08.30 – 16.30 น.
(ยกเว้นวันหยุดนักขัตฤกษ์)
TEL : 02-203-5000 ต่อ 14239 – 14245
EMAIL : IN**@**********ND.COM

FOLLOW US

© 2016-2022 Globthailand.com Business Information Centers (BICs) Ministry of Foreign Affairs, Kingdom of Thailand. All rights reserved.

No Result
View All Result
  • Home
  • เกี่ยวกับเรา
  • ทันโลก
    • เศรษฐกิจ I การเงิน
    • ธุรกิจ I การค้า I การลงทุน
    • การท่องเที่ยว I การบริการ
    • อาหาร I การเกษตร
    • คมนาคม I โลจิสติกส์
    • การแพทย์ I สุขภาพ
    • พลังงาน I สิ่งแวดล้อม I ความยั่งยืน
    • เทคโนโลยี I นวัตกรรม
    • E-commerce
    • กฎ I ระเบียบ I นโยบาย
    • อื่นๆ
    • INFOGRAPHICS
  • Glob Issue
  • ชี้ช่องจากทีมทูต
  • โอกาสใหม่ในต่างแดน
    • โอกาสใหม่ในต่างแดน
    • Thai Festival
  • รู้กฎก่อนรุก
    • ความตกลงว่าด้วยการลงทุนระหว่างประเทศ
  • Glob Insight
  • INTER ECON
  • เครือข่ายของเรา
    • GT Network
    • ลิงค์ที่น่าสนใจ
  • ติดต่อเรา

© 2016-2022 Globthailand.com Business Information Centers (BICs) Ministry of Foreign Affairs, Kingdom of Thailand. All rights reserved.

Welcome Back!

Sign In with Facebook
Sign In with Google
OR

Login to your account below

Forgotten Password? Sign Up

Create New Account!

Sign Up with Facebook
Sign Up with Google
OR

Fill the forms below to register

All fields are required. Log In

Retrieve your password

Please enter your username or email address to reset your password.

Log In
X
X