Vietjet Air สายการบินใหญ่ที่สุดของเวี ยดนามได้พัฒนาสู่การเป็ นสายการบินที่มีมูลค่าหุ้ นตามราคาตลาดหลักทรัพย์ (Market capitalization) สูงสุดอันดับ 2 ของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยมูลค่าปัจจุบันอยู่ที่ 71.492 ล้านล้านเวียดนามด่ง หรือประมาณ 3,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ แซงหน้าสายการบิน AirAsia ซึ่งมีมูลค่าหุ้นตามราคาตลาดหลั กทรัพย์ประมาณ 2,100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และตามหลังเพียง Singapore Airlines ซึ่งมีมูลค่าหุ้นตามราคาตลาดหลั กทรัพย์ประมาณ 8,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ [su_spacer size=”20″]
ในปัจจุบัน ญี่ปุ่นนับเป็นศูนย์กลางทางยุ ทธศาสตร์ของสายการบิน Vietjet Air ซึ่งในเร็ว ๆ นี้ทางสายการบินจะเปิดเที่ยวบิ นตรงสำหรับเส้นทางกรุงฮานอย – นครโอซาก้า ตามด้วยนครโฮจิมินห์ – นครโอซาก้า และกรุงฮานอย – นาริตะ นอกจากนี้ ยังมีแผนที่จะเชื่อมโยงเวี ยดนามถึงจุดหมายปลายทางอื่น ๆ ในญี่ปุ่น เช่น ฮาเนดะ นาโกยา และฟุกุโอกะ [su_spacer size=”20″]
นางเหงวียน ถิ เฟือง ถาว ประธานกรรมการบริหารสายการบิน Vietjet Air กล่าวว่า สายการบินกําลังตอบรับความต้ องการของนักท่องเที่ยวชาวเวี ยดนามที่ต้องการเดินทางไปญี่ปุ่ นที่เพิ่มขึ้น โดยราคาบัตรโดยสารของเส้ นทางในญี่ปุ่นของสายการบิน Vietjet Air มีราคาอยู่ที่ประมาณ 300 ดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งคิดเป็นเพียง 1/3 ของราคาบัตรโดยสารสายการบิน Vietnam Airlines และเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา Vietjet Air ได้ร่วมมือกับสายการบิน Japan Airlines ในการทํา code-sharing สําหรับเที่ยวบินภายในประเทศเวี ยดนาม ซึ่งเริ่มมีผลตั้งแต่เดือนตุ ลาคม 2561 [su_spacer size=”20″]
ปัจจุบัน Vietjet Air มีเที่ยวบินระหว่างประเทศเชื่ อมโยงเวียดนามเข้ากั บประเทศและเขตการปกครอง 9 แห่ง และกําลังพิจารณาเพิ่มเที่ยวบิ นไปยังอินเดีย รัสเซีย และออสเตรเลีย นอกจากนี้ Vietjet Air อยู่ระหว่างการพิจารณาความร่ วมมือกับสายการบินต่าง ๆ ในยุโรป ทั้งนี้ คู่แข่งทางตลาดภายในประเทศเวี ยดนามของ Vietjet Air มีเพียง 2 ราย คือ Vietnam Airlines และ Jetstar Pacific ซึ่งในปี 2560 Vietjet Air ได้แซงหน้า Vietnam Airlines ขึ้นเป็นสายการบินภายในประเทศที่ ใหญ่ที่สุดของเวียดนาม โดยมีรายได้เติบโตเฉลี่ยร้อยละ 160 ต่อปี ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา [su_spacer size=”20″]
สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงฮานอย