สมาคมผู้ผลิตสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มเวียดนามระบุว่า อุตสาหกรรมสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มในประเทศคาดว่า จะช่วยให้ภาคการส่งออกเติบโตอย่างต่อเนื่องในช่วงหลายเดือนข้างหน้า[su_spacer size=”20″]
นายเจือง วัน เริ่ม รองประธานสมาคมฯ ชี้ว่า บริษัทสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มหลายรายได้ลงนามในสัญญาจ้างผลิตสินค้าเพื่อการส่งออกในช่วงไตรมาสที่ 3 ของปี 2561[su_spacer size=”20″]
ในปี 2561 บริษัทเสื้อผ้าในเวียดนามจํานวนมากยังคงรักษาอัตราเติบโตได้ดีในตลาดดั้งเดิม ได้แก่ สหรัฐอเมริกา เกาหลีใต้ สหภาพยุโรป และประเทศสมาชิกข้อตกลงความครอบคลุมและก้าวหน้าเพื่อหุ้นส่วนภาคพื้นแปซิฟิก (Comprehensive and Progressive Agreement for Trans-Pacific Partnership – CPTPP) ซึ่งนายเรือง วัน เริ่ม ระบุว่า ข้อตกลงการค้าเสรีที่เพิ่งลงนามเมื่อเร็ว ๆ นี้ จะช่วยกระตุ้นอุตสาหกรรมสิ่งทอด้วย[su_spacer size=”20″]
ตั้งแต่ปี 2544 เวียดนามได้ลงนามความตกลงการค้าทวิภาคีกับสหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น จีน และเกาหลีใต้ รวมทั้ง ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ และอินเดีย และเข้าร่วมองค์การการค้าโลก อย่างไรก็ตาม ความต้องการสิ่งทอทั่วโลกเพิ่มขึ้นเพียงร้อยละ 1-2 ต่อปี ส่งผลให้เกิดการแข่งขันที่รุนแรง[su_spacer size=”20″]
ข้อตกลงการค้าเสรีส่วนใหญ่มีกฎว่าด้วยแหล่งกําเนิดสินค้า (rules of origin) สําหรับเส้นใยและผ้า ขณะที่เวียดนามนําเข้าวัตถุดิบประกอบการผลิตถึงร้อยละ 80[su_spacer size=”20″]
ในทางกลับกัน บังกลาเทศได้ลดอัตราภาษีเงินได้นิติบุคคลเหลือร้อยละ 20 จากร้อยละ 35 ภาษีนําเข้า สําหรับผ้าลินิน (linen) และผ้าสแปนเด็กซ์ (spandex) จากร้อยละ 10 เหลือร้อยละ 5 และผลิตภัณฑ์เคมีและสีย้อมจากร้อยละ 25 เป็นร้อยละ 15
ขณะที่ปากีสถานได้ยกเว้นภาษีค่าวัสดุ พลังงาน อุปกรณ์ เครื่องจักรและภาษีสําหรับการผลิตเพื่อการส่งออกเครื่องนุ่งห่ม และอินเดียได้ลดภาษีนําเข้าเส้นใยเป็นร้อยละ 2.5 จากร้อยละ 5[su_spacer size=”20″]
สหภาพยุโรปได้ยื่นข้อเสนอภาษีร้อยละ 0 ให้แก่เครื่องนุ่งห่มจากกัมพูชาและเมียนมา ขณะที่สหรัฐอเมริกางดเว้นภาษีสําหรับสินค้าจากกัมพูขาหลายรายการ อย่างไรก็ตาม เครื่องนุ่งห่มของเวียดนามยังคงต้องเสียภาษีร้อยละ 17.7 และร้อยละ 9.6 เมื่อส่งออกไปยังสหรัฐอเมริกาและสหภาพยุโรป ตามลําดับ[su_spacer size=”20″]
สมาคมฯ ได้เรียกร้องให้รัฐบาลเวียดนามริเริ่มวางแผนและให้ใบอนุญาตพื้นที่อุตสาหกรรมสิ่งทอที่สําคัญ เพื่อดึงดูดการลงทุน การผลิต การทอผ้า และการย้อมสี นอกจากนี้ รัฐควรสนับสนุนการบําบัดน้ำเสียในเขตอุตสาหกรรม และมาตรการเพื่อกีดกันบริษัทต่างชาติจากการลงทุนในการผลิตเส้นใยและการเย็บผ้า[su_spacer size=”20″]
สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงฮานอย