เมื่อวันที่ 15 มีนาคม 2561 หอการค้ายุโรปได้ตีพิมพ์ White Book ครั้งที่ 10 ด้วยหัวข้อ “ปัญหาทางการค้า การลงทุน และข้อเสนอแนะ โดยใน White Book ปี 2561 ได้ระบุว่า สหภาพยุโรปเป็นตลาดต่างประเทศรายใหญ่อันดับ 2 ของเวียดนาม ซึ่งรองรับสินค้าส่งออกจากเวียดนามร้อยละ 18 และมูลค่าการค้าระหว่างเวียดนามกับสหภาพยุโรปอยู่ที่ 50,300 ล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2560 นอกจากนี้สหภาพยุโรปยังเป็นคู่ค้ารายใหญ่อันดับ 3 ของเวียดนาม โดยปัจจุบัน เวียดนามได้ดุลการค้ากับสหภาพยุโรป 31,800 ล้านดอลลาร์สหรัฐ[su_spacer size=”20″]
จากการสํารวจของหอการค้ายุโรปพบว่า มีภาคธุรกิจจากสหภาพยุโรปร้อยละ 62.3 ประเมินให้สถานการณ์ การลงทุนในเวียดนามอยู่ในระดับดีเยี่ยมและดี ภาคธุรกิจร้อยละ 70 เห็นว่าสถานการณ์การลงทุนที่เวียดนามจะมีทิศทางที่ดีในอนาคต ภาคธุรกิจจากสหภาพยุโรปส่วนใหญ่เชื่อมั่นว่า เศรษฐกิจมหภาคของเวียดนามจะยังทรงตัว โดยร้อยละ 90 ยืนยันจะลงทุนและขยายการลงทุนในเวียดนามในปี 2561[su_spacer size=”20″]
นายเวือง ดิง เฮวะ รองนายกรัฐมนตรีเวียดนามยืนยันว่า เวียดนามได้รับประโยชน์อย่างมากจากหอการค้ายุโรป ในด้านการพัฒนาของ GDP การสร้างงานจํานวนผู้บริหารงานที่ได้รับการฝึกอบรม ฯลฯ โดยเฉพาะการสร้าง สภาพแวดล้อมและนโยบายที่ใกล้กับมาตรฐานสากลมากยิ่งขึ้น[su_spacer size=”20″]
ทั้งนี้ หนึ่งทศตวรรษของ EuroCharm White Book ในเวียดนาม อาจมีข้อเสนอแนะเกี่ยวกับสภาพการลงทุน การประกอบธุรกิจที่จําเป็นต้องพิจารณาเพิ่มเติม ซึ่งรัฐบาลเวียดนามก็พร้อมรับฟัง และพร้อมดําเนินหากมีการร้องขอ[su_spacer size=”20″]
สําหรับ White Book ปี 2561 รองนายกรัฐมนตรีเวียดนามประเมินว่า มีข้อเสนอแนะหลายข้อได้พิจารณาถึงการเจรจาความตกลงการค้าเสรีระหว่างสหภาพยุโรปกับเวียดนาม (EVFTA) พร้อมกับมีปัญหาทางเทคนิคบางประการที่จําเป็นต้องหารือเพิ่มเติมก่อนความตกลงดังกล่าวจะครบถ้วน[su_spacer size=”20″]
นายเวือง ดิง เฮวะ รองนายกรัฐมนตรีเวียดนามยืนยันว่า ปัญหาทุกประการจะแก้ไขให้เสร็จสิ้น เพื่อให้สามารถเตรียมความพร้อมต่อการลงนามความตกลง และเริ่มดําเนินการอนุวัติความตกลงภายในปี 2561[su_spacer size=”20″]
สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงฮานอย