สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงฮานอย ได้รายงานข่าวเรื่องความร่วมมือระหว่างกัมพูชา สปป. ลาว และเวียดนาม สรุปสาระสำคัญ ดังนี้
ปัจจุบันเวียดนามได้ลงทุนใน Cambodia – Laos – Vietnam Development Triangle Area (CLV DTA) มูลค่ารวม 3.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ รวม 113 โครงการ โดยเป็นการลงทุนในกัมพูชา 48 โครงการ รวม 1.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ และเป็นการลงทุนใน สปป. ลาว รวม 165 โครงการ มูลค่าเกือบ 2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
ด้านการค้าทวิภาคีในช่วง 11 เดือนแรกของปี 2560 การค้าระหว่างเวียดนามกับ สปป. ลาว เพิ่มขึ้นสูงร้อยละ 9.87 มูลค่ารวม 808 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในขณะที่การค้าระหว่างเวียดนามและกัมพูชาเพิ่มขึ้นสูงร้อยละ 31 มูลค่ารวม 3.43 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
ในการประชุมคณะกรรมการประสานงานร่วม Cambodia – Laos – Vietnam Development Triangle Area (CLV DTA) ที่ จ. บิ่นห์เฟื๊อก เวียดนาม ซึ่งมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการวางแผนและการลงทุน เวียดนาม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการค้า กัมพูชา และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการวางแผนและการลงทุนของ สปป. ลาว เป็นประธานร่วมทั้งสามประเทศได้หารือถึงแนวทางการพัฒนาร่วมในกัมพูชาและ สปป. ลาว รวมถึงหาแนวทางแก้ไขสถานการณ์การค้าการลงทุนใน สปป. ลาว และกัมพูชา โดยทั้งสามฝ่ายได้หารือกันในประเด็นต่าง ๆ ดังนี้
1) รัฐมนตรีทั้งสามประเทศได้รับรองแนวทางการดำเนินงานตามแผนแม่บทการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมในภูมิภาคฉบับปรับปรุง ระหว่างปี ค.ศ. 2010 – 2020 และรับรองบันทึกความเข้าใจเรื่องการให้สิทธิประโยชน์พิเศษ เพื่อสร้างแรงจูงใจในการพัฒนาพื้นที่ นอกจากนี้ ทั้งสามประเทศเห็นพ้องว่าควรมีความร่วมมือกับหุ้นส่วนการพัฒนา เพื่อสนับสนุนการดำเนินการตามโครงการสำคัญ 15 โครงการ
2) ด้านการเกษตร กระทรวงเกษตรและการพัฒนาชนบทเวียดนามจะร่วมมือกับกัมพูชา สปป. ลาว ในการดำเนินงานตามแผนการพัฒนาอุตสาหกรรมยาง
3) ด้านความเชื่อมโยง คณะทำงานของทั้งสามประเทศจะหารือและสรุปร่างแผนปฏิบัติการด้านความเชื่อมโยงทางเศรษฐกิจระหว่าง CLV ปี ค.ศ. 2030 ให้แล้วเสร็จ เพื่อเสนอให้ผู้นำรับรองและลงนามในการประชุม CLV Summit ที่เวียดนาม ในปี ค.ศ. 2018 ด้วย
4) ในด้านการค้า ฝ่ายกัมพูชา ยังคงต้องดำเนินการภายในก่อนที่จะมีการบังคับใช้ความตกลงว่าด้วยการส่งเสริมและอำนวยความสะดวกทางการค้า CLV DTA
5) ด้านการท่องเที่ยว เวียดนามจะมีผู้นำในการผลักดันการร่างแผนพัฒนาด้านการท่องเที่ยวของ CLV DTA ต่อไป
ทั้งนี้ สถานเอกอัครราชทูตฯ ได้ให้ข้อสังเกตว่า การดำเนินการตาม CLV DTA น่าจะทำให้เวียดนามมีบทบาทในการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมในกัมพูชา และ สปป. ลาว เพิ่มมากขึ้นในอนาคต ซึ่งจะส่งเสริมเวียดนามในการวางบทบาทของตนเป็นผู้นำในภูมิภาคอินโดจีน [su_spacer size=”20″]