กระทรวงอุตสาหกรรมและการค้าเวียดนามอยู่ระหว่างขอรับความเห็นต่อการนำร่องความตกลงซื้อขายไฟฟ้าโดยตรง (Direct Power Purchase Agreement – DPPA) ระหว่างผู้ผลิตพลังงานทดแทนกับผู้ซื้อไฟฟ้า โดยร่างความตกลง DPPA ระบุว่า ผู้ซื้อไฟฟ้าในภาคอุตสาหกรรมที่ใช้ไฟฟ้าตั้งแต่ 22 กิโลโวลต์ สามารถเจรจาซื้อไฟฟ้าจากผู้ผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์และพลังงานลมได้โดยไม่ต้องผ่านการไฟฟ้าเวียดนาม (Electricity of Vietnam – EVN) นอกจากนี้ ผู้ซื้อต้องสัญญาที่จะใช้ไฟฟ้าจากพลังงานทดแทน และต้องซื้อไฟฟ้าอย่างต่ำร้อยละ 80 จากที่ระบุในสัญญาซื้อขายในช่วง 3 ปีแรก
.
โครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์และพลังงานลมขนาด 30 เมกะโวลต์ สามารถเข้าร่วมในสัญญาซื้อขายไฟฟ้าโดยตรงนี้ได้ โดยต้องเริ่มผลิตไฟฟ้าเพื่อการพาณิชย์ภายใน 9 เดือนหลังจากเข้าร่วมโครงการ และต้องมีเอกสารรับรองการสนับสนุนทางการเงินจากสถาบันทางการเงินด้วย
.
กระทรวงอุตสาหกรรมและการค้าเวียดนามคาดว่า จะนำร่องการปรับใช้ความตกลงซื้อขายไฟฟ้าโดยตรงในปี 2564 – 2566 หลังจากนั้น กรมไฟฟ้าจะประเมินการดำเนินการและรายงานการดำเนินการต่อหน่วยงานที่มีอำนาจพิจารณาขยายการปรับใช้ในจำนวนที่สูงขึ้นต่อไป
.
อย่างไรก็ดี การนำร่องของเวียดนามนับเป็นโอกาสที่ดีต่อบริษัทผู้ผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์และพลังงานลมของประเทศไทย เนื่องจากความได้เปรียบในเชิงภูมิศาสตร์ที่ทั้งสองประเทศมีที่ตั้งติดกัน ทำให้สะดวกต่อการทำความตกลงในการซื้อขายพลังงาน หรือในอนาคตอาจต่อยอดไปถึงการพัฒนาสภาพแวดล้อมทางการค้าในด้านพลังงานและด้านอื่นๆ อีกด้วย ทั้งนี้ ผู้ประกอบไทยควรศึกษาและติดตามระเบียบ ข้อกำหนดต่าง ๆ ในการทำสัญญาให้ถี่ถ้วนเพื่อลดความเสี่ยงในการดำเนินธุรกิจและลดข้อพิพาทที่อาจเกิดจากการลงทุน
.
สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงฮานอย
.
ที่มา:
– Sai Gon Times ฉบับที่ 20’21 (1545) วันที่ 15 พฤษภาคม 2564
– https://thaibiz-vietnam.com/energy-technology/%e0%b9%80%e0%b8%a7%e0%b8%b5%e0%b8%a2%e0%b8%94%e0%b8%99%e0%b8%b2%e0%b8%a1%e0%b9%80%e0%b8%94%e0%b8%b4%e0%b8%99%e0%b8%ab%e0%b8%99%e0%b9%89%e0%b8%b2%e0%b8%99%e0%b8%b3%e0%b8%a3%e0%b9%88%e0%b8%ad%e0%b8%87/