กรมสัมพันธ์ต่างประเทศนครโฮจิมินห์ได้จัดกิจกรรม Consular Corps Spring Travel 2021 โดยเชิญคณะกงสุลต่างประเทศประจํานครโฮจิมินห์และนครดานัง รวมทั้งประเทศไทยเข้าร่วมการประชุม Phu Yen Partnership & Development Conference ในระหว่างวันที่ 27 – 29 เมษายน 2564 ที่ผ่านมา มีสาระสำคัญ ดังนี้
.
การประชุม Phu Yen Partnership & Development Conference มีวัตถุประสงค์เพื่อแนะนําศักยภาพด้านเศรษฐกิจของจังหวัดฟู้เอียนและร่วมกันระบุสาขาความร่วมมือที่ประเทศต่าง ๆ สามารถร่วมพัฒนากับหน่วยงานภายในจังหวัดฟู้เอียนได้ โดยการประชุมดังกล่าว นาย To Anh DZung รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศเวียดนาม เป็นประธานและมีผู้แทนระดับสูงจากกรมสัมพันธ์ต่างประเทศนครโฮจิมินห์ หน่วยงานรัฐบาลของจังหวัดฟู้เอียนและมีผู้แทนจากสถานกงสุลใหญ่ต่าง ๆ ในนครโฮจิมินห์และนครดานัง
.
โดยมีผู้เข้าร่วมประชุมทั้งหมดประมาณ 200 คน
.
โดยการประชุมในครั้งนี้ ดำเนินไปในรูปแบบของเวทีเสวนา แบ่งเป็นสามช่วง ได้แก่ (1) การให้ข้อมูลเกี่ยวกับแผนการพัฒนาเศรษฐกิจของจังหวัดฟู้เอียนโดยผู้แทนหน่วยงานเวียดนาม (ประธานคณะกรรมการประชาชนจังหวัดฟู้เอียน ผู้แทนหน่วยงานด้านการเกษตรและพัฒนาชนบท ผู้แทนหน่วยงานด้านการวางแผนและการลงทุน) ซึ่งให้ความสําคัญกับการพัฒนาศักยภาพด้านการท่องเที่ยงเชิงธรรมชาติ การประมง การเกษตร พลังงานสะอาด และการรับมือกับภัยธรรมชาติตามแนวชายฝั่ง (2) การให้ข้อมูลเกี่ยวกับความร่วมมือด้านการพัฒนาระหว่างจังหวัดฟู้เอียนและหน่วยงานต่างประเทศโดยกงสุลใหญ่ออสเตรเลีย ฮังการี สิงคโปร์ อิตาลี อินเดีย และกงสุลใหญ่กิตติมศักดิ์เม็กซิโก ประจํานครโฮจิมินห์ รับเชิญเป็นผู้เสวนา และ (3) การถาม-ตอบ แลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นระหว่างผู้เข้าร่วมการประชุม
.
รัฐบาลเวียดนามให้ความสําคัญกับการพัฒนาจังหวัดฟู้เอียนเป็นอย่างมาก โดยในปัจจุบันจังหวัดฟู้เอียนกําลังมุ่งพัฒนาในด้าน (1) โครงสร้างพื้นฐาน โดยจะยกระดับสนามบิน Tuy Hoa เป็นสนามบิน นานาชาติ อยู่ระหว่างการพัฒนาท่าเรือน้ําลึก การสร้างทางด่วนเชื่อมต่อพื้นที่ราบสูงกับตัวเมืองฟู้เอียนและการสร้างถนนตามแนวชายฝั่ง (2) ศักยภาพทางเศรษฐกิจ โดยอยู่ระหว่างการจัดทําแผนพัฒนาเศรษฐกิจของจังหวัดโดยจะเน้นสาขาการเกษตร (พัฒนาการเกษตรโดยใช้เทคโนโลยี) พลังงานหมุนเวียน และการท่องเที่ยว ซึ่งเปิดรับความช่วยเหลือและความร่วมมือจากนานาประเทศในสาขาดังกล่าว ทั้งนี้ ในปัจจุบันจังหวัดฟู้เอียนมีความร่วมมือกับนานาชาติ ได้แก่ ฮังการี (สาขาการท่องเที่ยงเชิงธรรมชาติ – บ่อน้ําพุร้อน) อิตาลี (สาขาการศึกษาด้านการออกแบบ) ออสเตรเลีย (สาขาการรักษาสิ่งแวดล้อม) และต้องการเรียนรู้ด้านการพัฒนาการท่องเที่ยวในระดับชุมชนจากลาว กัมพูชา และไทย
.
ในโอกาสเดียวกัน กงสุลใหญ่กัมพูชาได้กล่าวตอบรับในหลักการเพื่อพัฒนาความสัมพันธ์บ้านพี่เมืองน้องระหว่างจังหวัดฟู้เอียนกับจังหวัดในกัมพูชา โดยอาจเน้นความร่วมมือด้านการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน โดยเฉพาะการเชื่อมต่อระหว่างไทย กัมพูชา สปป. ลาว และเวียดนาม เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวในกลุ่มประเทศ นอกจากนี้ กงสุลใหญ่ สปป. ลาว ได้แสดงความพร้อมที่จะร่วมมือกับจังหวัดฟู้เอียนในด้านการศึกษาและการแลกเปลี่ยนเชิงวัฒนธรรม
.
สำหรับความสัมพันธ์ด้านเศรษฐกิจระหว่างไทยกับจังหวัดฟู้เอียน ปัจจุบันมีธุรกิจไทยในจังหวัดฟู้เอียนอยู่บ้าง ได้แก่ สาขาการผลิตยา การแปรรูปปลาทูน่า และสาขาพลังงานทดแทน อีกทั้งยังมีโอกาสขยายความร่วมมือด้านการท่องเที่ยวและความสัมพันธ์ระดับท้องถิ่น เนื่องจากจังหวัดฟู้เอียนเป็นเมืองที่มีศักยภาพด้านการท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติ มีสถานที่ท่องเที่ยวที่มีศักยภาพ โดยสถานที่เหล่านี้ยังไม่มีการลงทุนเชิงการท่องเที่ยวและไม่ได้รับการพัฒนาเชิงอนุรักษ์ จึงเป็นโอกาสการลงทุนสําหรับภาคเอกชนไทย และเป็นโอกาสสําหรับการขยายความร่วมมือเพื่อพัฒนาการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ระหว่างไทยกับจังหวัดปู่เอียนเพื่อส่งเสริมความสัมพันธ์ในระดับท้องถิ่น โดยเฉพาะการแบ่งปันประสบการณ์จากจังหวัดภูเก็ตซึ่งงมีความคล้ายคลึงกับจังหวัด
.
ฟู้เอียนในด้านภูมิศาสตร์และศักยภาพทางเศรษฐกิจ เช่นเดียวกับเวียดนามเองก็ได้แสดงความสนใจที่จะเรียนรู้เกี่ยวกับการจัดการท่องเที่ยวในชุมชน (Community based Tourism – COBATO) อีกด้วย
.
นอกเหนือจากการพัฒนาศักยภาพด้าน การเกษตร การประมง การท่องเที่ยว และพลังงานหมุนเวียนแล้ว สาขาการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพยังเป็นสาขาที่เมือง Tuy Hoa จังหวัดฟู้เอียนมีศักยภาพ เนื่องจากมี ทัศนียภาพและธรรมชาติที่สวยงามเหมาะกับการพักผ่อนและดูแลฟื้นฟูสภาพร่างกาย จึงอาจเป็นโอกาสให้ภาคเอกชนไทยในสาขาสุขภาพและความงามได้ศึกษาโอกาสการลงทุนต่อไป
.
สถานกงสุลใหญ่ ณ นครโฮจิมินห์
.
ขอบคุณรูปภาพจาก : https://en.tintuc1.com/news/2021-04-29/vietnamplus-phu-yen-looks-to-beef-up-cooperation-with-foreign-partners