ผู้ค้าปลีกและร้านอาหารต้องการบริหารจัดการด้านการเงินให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น จึงพยายามลดการครอบครองเงินสดในมือ
[su_spacer size=”20″]
จากการสํารวจในปี 2560 ของธนาคารซานฟรานซิสโกพบว่า ชาวอเมริกันจับจ่ายซื้อสินค้าด้วยเงินสดเพียงร้อยละ 30 ของการทําธุรกรรมทั้งหมด โดยส่วนใหญ่ใช้เงินสดเพื่อซื้อสินค้าที่มีราคาต่ำกว่า 10 เหรียญสหรัฐ และการใช้จ่ายเงินสดส่วนใหญ่ นั้นพบได้ในกลุ่มผู้บริโภคมีรายได้ต่ำกว่า 25,000 เหรียญสหรัฐ/ปี[su_spacer size=”20″]
อย่างไรก็ตาม เมืองและรัฐต่าง ๆ พยายามเริ่มดําเนินการจัดการกับร้านค้าปลอดเงินสดดังกล่าว โดยการออกกฎหมายห้ามมิให้ร้านค้าปฏิเสธการรับเงินสด โดยมีรัฐฟิลาเดลเฟียและรัฐนิวเจอร์ซีได้เริ่มนําร่องไปแล้ว ส่วนนครนิวยอร์ก รัฐวอชิงตัน และเมืองซานฟรานซิสโก ก็กําลังพิจารณาร่างกฎหมายที่คล้ายคลึงออกมา อย่างไรก็ตาม รัฐบาลกลางไม่ได้บังคับให้ร้านค้าต้องรับเงินสด[su_spacer size=”20″]
อนึ่ง สมาชิกวุฒิสภา Nellie Pou จากรัฐนิวเจอร์ซี มีความเห็นว่าการจ่ายชําระด้วยบัตร อาจจะสะดวกกับบางธุรกิจ แต่อาจเป็นการเลือกปฏิบัติกับชุมชนที่ยากจนที่ไม่มีบัญชีธนาคารหรือสินเชื่อ[su_spacer size=”20″]
อย่างไรก็ตาม ผู้ค้าปลีกและร้านอาหารรายสําคัญอย่าง บริษัท Amazon: ร้านค้า grocery จําหน่ายภายใต้ชื่อ Amazon Go, บริษัท sweetgreen: ร้าน จําหน่ายสลัดแบบ chain store จําหน่ายภายใต้ชื่อ sweetgreen, บริษัท Dig Inn: ร้านอาหารแบบ chain restaurant เน้นใช้วัตถุดิบจากฟาร์มท้องถิ่นจําหน่ายภายใต้ชื่อ Dig Inn, และบริษัท Dos Toros: ร้านอาหารแบบ chain restaurant ให้บริการอาหารเม็กซิกันสไตล์แคลิฟอร์เนียตอนเหนือ จําหน่ายภายใต้ชื่อ Dos Toros รวมทั้งร้านท้องถิ่นรายอื่นๆ ในเมืองชั้นนําได้เริ่มลดการถือครองเงินสดแล้ว[su_spacer size=”20″]
บริษัท sweetgreen ได้ยกเลิกระบบเงินสดในปี 2560 โดยกล่าวว่าระบบปลอดเงินสดดังกล่าวมีความปลอดภัย และทําให้พนักงานสามารถบริหารจัดการด้านการเงินได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวดเร็วและถูกต้อง นอกจากนี้บริษัทเสริมว่า ธุรกิจแอร์ไลน์ส่วนใหญ่และบางประเทศ เช่น สวีเดน ก็ได้ลดการรับเงินสดและผันตัวเข้าสู่ระบบปลอดเงินสดแล้วเช่นกัน[su_spacer size=”20″]
นอกจากนี้ นาง Michelle Gauther ผู้ก่อตั้งร้านอาหาร Mulberry & Vine ร้านอาหารสไตล์สบายๆ ที่มีสาขาอยู่ เป็นจํานวนมากในนครนิวยอร์ก กล่าวว่าทางร้านได้ยกเลิกระบบเงินสดในปี 2559 ทําให้การบริหารจัดการทางด้านการเงิน และการดําเนินงานของพนักงานมีประสิทธิภาพอย่างมาก[su_spacer size=”20″]
เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา Mercedes Benz Stadium ซึ่งเป็นสนามกีฬาหลักของทีม Atlanta Falcon (NFL) และ Atlanta United (MLS) เป็นผู้นําร่องสนามกีฬาปลอดเงินสด ทําให้ทางสนามกีฬาสามารถลดระยะเวลาในการรอคอย ตลอดจนสามารถกําหนดกลยุทธ์ทางการตลาดและการลดราคาต่างๆ ที่เหมาะสมกับลูกค้าได้เป็นอย่างดี ทางสนามกีฬาได้ ติดตั้งระบบ Kiosk จํานวน 10 จุดทั่วสนามเพื่ออํานวยความสะดวกให้กับแฟนกีฬาในการใช้บัตรจ่ายชําระค่าอาหารและ สินค้าที่ระลึกต่างๆ[su_spacer size=”20″]
ในปี 2560 บริษัทบัตรเครดิตหลายรายที่เก็บค่าธรรมเนียมจากธุรกิจเมื่อลูกค้าทําธุรกรรมการซื้อ ได้เสนอร้านค้า และร้านอาหารต่างๆ ให้เข้าสู่สังคมไร้เงินสด ภายใต้โครงการ “Visa Cashless Challenge” โดยร้านอาหารจะได้รับเงิน มูลค่า 10,000 เหรียญสหรัฐ เมื่อร้านค้าและร้านอาหารเหล่านั้นหยุดรับเงินสด[su_spacer size=”20″]
ในทางตรงข้าม จากข้อมูลปี 2560 ระบุว่าประมาณ 8.4 ล้านครัวเรือนสหรัฐฯ หรือคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 6.5 ของ ประเทศนั้นไม่มีบัญชีธนาคาร และตามข้อมูลล่าสุดของ Federal Deposit Insurance Corporation (FDIC) ระบุว่า 24.2 ล้านครัวเรือนสหรัฐฯ หรือประมาณร้อยละ 19 ของประเทศมีบัญชีธนาคาร แต่ยังใช้บริการด้านการเงินอื่น ๆ เช่น ธนาณัติ (money order) เช็คเงินสด และเงินกู้[su_spacer size=”20″]
แม้ว่าจํานวนของชนกลุ่มน้อย (minorities) และครัวเรือนที่มีอายุน้อย (young household) ที่ไม่มีบัญชีธนาคาร ได้มีการปรับตัวลดลงในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เนื่องจากสภาพเศรษฐกิจดีขึ้น ตามข้อมูลของ FDIC ปี 2560 ระบุว่าครัวเรือนชาวผิวสีเกือบร้อยละ 17 และครัวเรือนชาวฮิสแปนิกร้อยละ 14 ยังไม่มีบัญชีธนาคาร[su_spacer size=”20″]
สาเหตุหลายประการที่ทําให้ชาวอเมริกันไม่มีบัญชีธนาคารเพราะไม่มีเงินเพียงพอที่จะเก็บไว้ในบัญชี นอกจากนี้ หนึ่งในสามของครัวเรือนที่ไม่มีธนาคารกล่าวว่าพวกเขาไม่เชื่อถือธนาคาร เนื่องจากความกังวลเรื่องความเป็นส่วนตัวและค่าธรรมเนียมบัญชีธนาคารที่สูงเกินไป[su_spacer size=”20″]
อย่างไรก็ดี เมืองต่างๆ ได้พยายามสร้างสมดุลโดยการนําเทคโนโลยีใหม่ ๆ มาใช้ ในขณะเดียวกันก็สนับสนุน ประชาชนที่ด้อยโอกาสด้วย ในเมืองฟิลาเดลเฟียอัตราความยากจนอยู่ที่ประมาณร้อยละ 26 ดังนั้นเมืองฟิลาเดลเฟียจึงได้ออกกฎหมายห้ามมิให้ร้านค้าปฏิเสธการรับเงินสด โดยกฎหมายของฟิลาเดลเฟียจะมีผลบังคับใช้ในเดือนกรกฎาคมนี้ ทั้งนี้ กฎหมายดังกล่าวไม่รวมถึงผู้ขายสินค้าออนไลน์ ที่รับจอดรถ ร้านค้าส่ง และร้านค้าปลีกที่จําหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคแบบ exclusively เฉพาะลูกค้าที่เป็นสมาชิก[su_spacer size=”20″]
อย่างไรก็ดี ผู้สนับสนุนธุรกิจรวมถึง Pennsylvania Restaurant & Lodging Association กังวลว่ากฎหมายดังกล่าวอาจส่งผลให้ธุรกิจทำการถอนออกจากพื้นที่ ในขณะที่สมาชิกของสภาเมืองฟิลาเดลเฟียมองว่ากฎหมายนี้ควรมีผลบังคับใช้โดยเร็วก่อนที่หลายๆ ธุรกิจจะกลายเป็นร้านปลอดเงินสดและกฎหมายจะต้องทำให้ธุรกิจกลับมารับเงินสด กฎหมายนี้ไม่ได้ทำให้ร้านค้าต้องทำอะไรที่แตกต่างไปจากเดิม แต่เป็นการขอให้ร้านค้าทำเหมือนอย่างที่เคยทำ เนื่องจากการใช้จ่ายด้วยเงินสดยังคงเป็นช่องทางการค้าโดยปกติ[su_spacer size=”20″]
ศูนย์ข้อมูลเพื่อธุรกิจไทยในสหรัฐฯ