เมื่อวันที่ 14 ก.พ. 2562 สภามลรัฐอิลลินอยส์ได้มีมติอนุมัติให้ปรับขึ้นอัตราค่าจ้างขั้นต่ำในมลรัฐอิลลินอยส์เป็นชั่วโมงละ 15 ดอลลาร์สหรัฐภายในปี 2568 ด้วยคะแนน 69 ต่อ 47 โดยการปรับขึ้นอัตราค่าจ้างดังกล่าวมาจากการเสนอของนาย J.B. Pritzker ผู้ว่าการรัฐอิลลินอยส์ที่ได้รับเลือกตั้งเมื่อปลายปีที่ผ่านมา โดยใช้นโยบายการปรับขึ้นอัตราค่าจ้างขั้นต่ำเป็นประเด็นหลักในการหาเสียง ทั้งนี้ การปรับอัตราค่าจ้างขั้นต่ำจะทยอยปรับตามลําดับ ดังนี้ [su_spacer size=”20″]
อัตราค่าจ้างขั้นต่ำ ณ ปัจจุบัน อยู่ที่ 8.25 ดอลลาร์สหรัฐ/ชั่วโมง [su_spacer size=”20″]
– 1 ม.ค. 2563 ปรับขึ้นเป็น 9.25 ดอลลาร์สหรัฐ/ชั่วโมง
– 1 ก.ค. 2563 ปรับขึ้นเป็น 10 ดอลลาร์สหรัฐ/ชั่วโมง
– 1 ม.ค. 2564 ปรับขึ้นเป็น 11 ดอลลาร์สหรัฐ/ชั่วโมง
– ปี 2565 ปรับขึ้นเป็น 12 ดอลลาร์สหรัฐ/ชั่วโมง
– ปี 2566 ปรับขึ้นเป็น 13 ดอลลาร์สหรัฐ/ชั่วโมง
– ปี 2567 ปรับขึ้นเป็น 14 ดอลลาร์สหรัฐ/ชั่วโมง
– ปี 2568 ปรับขึ้นเป็น 15 ดอลลาร์สหรัฐ/ชั่วโมง [su_spacer size=”20″]
อัตราค่าจ้างขั้นต่ำของมลรัฐอิลลินอยส์อยู่ที่ 8.25 ดอลลาร์สหรัฐ/ชั่วโมง มาตั้งแต่ปี 2553 ในขณะที่มีการปรับอัตราค่าจ้างขั้นต่ำในนครชิคาโก และ Cook County ขึ้นมาถึง 12 ดอลลาร์สหรัฐ/ชั่วโมง และ 11 ดอลลาร์สหรัฐ/ชั่วโมง ตามลําดับ ปัจจุบันกลุ่มผู้สนับสนุนนโยบายดังกล่าวเห็นว่า การปรับอัตราค่าจ้างขั้นต่ำจะส่งผลให้ประชาชนชาวอิลลินอยส์หลายพันคนหลุดพ้นจากภาวะความยากจน และยังเพิ่มกําลังซื้อให้กับประชาชนชาวอิลลินอยส์อีก 1,400,000 คน ทั้งนี้ อัตราค่าจ้างขั้นต่ำของมลรัฐอิลลินอยส์ในปัจจุบันเมื่อคำนวณเป็นรายได้เฉลี่ยต่อปีแล้วยังต่ำกว่า federal poverty level สําหรับครอบครัวที่มีสมาชิกในครัวเรือนตั้งแต่ 3 คนขึ้นไป [su_spacer size=”20″]
อย่างไรก็ตาม สส. พรรครีพับลิกันและผู้ประกอบการบางส่วนแสดงความห่วงกังวลว่านโยบายดังกล่าวจะส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการ และอาจส่งผลให้มีการปรับลดการจ้างงาน ลดสวัสดิการของลูกจ้าง และลดเวลาการจ้างงานลง โดยเสียงสะท้อนดังกล่าวยังรวมถึงภาระงบประมาณของภาครัฐที่จะต้องเพิ่มขึ้นจากการปรับอัตราค่าจ้างขั้นต่ำนี้ ในขณะที่รัฐกําลังประสบปัญหาการขาดดุลงบประมาณและหนี้สาธารณะ อย่างไรก็ตาม นาย Pritzker เห็นว่า นโยบายดังกล่าวจะช่วยกลุ่มผู้ประกอบการร้านอาหารในเรื่อง tip-credit ที่ผู้ประกอบการสามารถจ่ายค่าจ้างน้อยกว่าค่าแรงขั้นต่ำหากมีค่าทิปสมทบเพิ่มรวมให้เท่ากับอัตราค่าแรงขั้นต่ำ รวมทั้งยังช่วยเหลือผู้ประกอบการที่มีการจ้างงานน้อยกว่า 50 คน ในประเด็นด้านการคืนภาษี โดยผู้ประกอบการสามารถทําเรื่องคืนภาษีร้อยละ 25 ของค่าใช้จ่ายทั้งหมดเพื่อทดแทนภาระค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้น และช่วยเหลือผู้ประกอบการในการจ้างแรงงานอายุต่ำกว่า 18 ปีอย่างถูกต้องตามกฎหมาย (ค่าจ้างขั้นต่ำในปัจจุบันคือ 7.75 ดอลลาร์สหรัฐ ชั่วโมง และจะปรับเพิ่มเป็น 13 ดอลลาร์สหรัฐ/ชั่วโมงภายในปี 2558 โดยที่ชั่วโมงการทํางานต้องน้อยกว่า 650 ชั่วโมง/ปี) [su_spacer size=”20″]
ทั้งนี้ การปรับขึ้นอัตราค่าจ้างดังกล่าวจะทําให้มลรัฐอิลลินอยส์เป็นหนึ่งในไม่กี่มลรัฐที่ปรับขึ้นอัตราค่าจ้างเป็น 15 ดอลลาร์สหรัฐ/ชั่วโมง (ภายในปี 2568) นอกเหนือจากมลรัฐแคลิฟอร์เนีย (ภายในปี 2565) มลรัฐแมสซาชูเซตส์ (ภายในปี 2566) มลรัฐนิวเจอร์ซีย์ (ภายในปี 2567) และนครนิวยอร์ก (ภายในปีนี้) [su_spacer size=”20″]
ทั้งนี้มีข้อสังเกตว่า ปัจจุบันพรรคเดโมแครตเป็นผู้กุมอํานาจฝ่ายนิติบัญญัติทั้งในระดับมลรัฐและระดับท้องถิ่น จึงมีแนวโน้มที่นโยบายต่างๆ ของนาย Pritzker จะถูกผลักดันผ่านสภาได้อย่างราบรื่น ทั้งนี้ สถานการณ์การขาดดุลงบประมาณของรัฐเป็นปัญหาที่สําคัญอยู่ในขณะนี้ พรรคเดโมแครตได้กล่าวโจมตีสาเหตุของปัญหานี้ว่าเป็นผลมาจากการบริหารงานของนาย Bruce Rauner อดีตผู้ว่าการรัฐอิลลินอยส์จากพรรครีพับลิกัน และยังคาดการณ์ว่าในปี 2563 ภาครัฐจะประสบปัญหาขาดดุลงบประมาณมากกว่า 3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่าร้อยละ 16 เมื่อเทียบจากการบริหารงานของนาย Rauner ทําให้กลุ่มคนส่วนหนึ่งแสดงความห่วงกังวลว่าการปรับขึ้นอัตราค่าจ้างนี้จะทําให้เกิดปัญหาขาดดุลงบประมาณมากขึ้น และอาจส่งผลกระทบต่อสวัสดิการต่าง ๆ จากภาครัฐ [su_spacer size=”20″]
นอกจากนี้ ผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อมยังแสดงความกังวลว่าธุรกิจของตนอาจต้องเพิ่มราคาสินค้าและบริการ หรือหากไม่สามารถทําได้ก็อาจต้องปรับลดการจ้างงานหรือมีแผนย้ายถิ่นฐานไปประกอบธุรกิจยังมลรัฐอื่นเพื่อให้ธุรกิจสามารถดําเนินต่อไป รวมถึงนโยบายดังกล่าวอาจส่งผลให้มีการใช้แรงงานเด็กและแรงงานผิดกฎหมายเพิ่มมากขึ้นด้วยเช่นกัน [su_spacer size=”20″]
สถานกงสุลใหญ่ ณ นครชิคาโก