เมื่อวันที่ 3 ตุลาคม 2561 นาง Kersti Kaljulaid ประธานาธิบดีเอสโตเนียได้เข้าร่วมการบรรยายระหว่างอาหารเช้า จัดโดย Los Angeles World Affairs Council ณ นครลอสแอนเจลิส โดยมีผู้เข้าร่วมประมาณ 100 คน โดยนาง Kersti Kaljulaid โดยได้ให้ข้อมูลว่า การใช้อินเตอร์เน็ตมีความเสี่ยงและไม่ปลอดภัยสูง จึงเป็นหน้าที่ของรัฐบาลที่จะต้องปกป้องประชาชน และสร้างความปลอดภัยทางไซเบอร์ (cyber hygiene) รัฐบาลเอสโตเนียจึงร่วมมือกับภาคเอกชนและผู้ประกอบการสตาร์ทอัพปฏิรูปการให้บริการประชาชนด้านดิจิทัล อาทิ [su_spacer size=”20″]
1) Digital ID ซึ่งสามารถใช้งานได้หลากหลาย และมี platform เดียวกัน ทั้งสําหรับการใช้งานของภาครัฐและภาคเอกชน อาทิ การยืนยันตัวตนในทางกายภาพและทางกฎหมาย การทําธุรกรรมทางการเงิน การลงลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์ การเสียภาษีออนไลน์ และการประกันสุขภาพ เป็นต้น [su_spacer size=”20″]
2) e-Health Records ซึ่งจะเก็บข้อมูลสุขภาพและประวัติการรักษาพยาบาลของประชาชนไว้ในฐานข้อมูลที่ปลอดภัย และได้รับความคุ้มครองตามกฎหมาย เจ้าของข้อมูลสามารถเข้าถึงข้อมูลได้ตลอดเวลา และจะได้รับการแจ้งเตือนหากมีผู้อื่นเข้ามาดูข้อมูลของตน [su_spacer size=”20″]
3) e-Residency ซึ่งเปิดโอกาสให้ชาวต่างชาติมาตั้งบริษัทหรือทําธุรกิจออนไลน์ในสังคมดิจิทัลของเอสโตเนียได้ โดยจะได้รับประโยชน์จากความทันสมัยด้าน IT ของเอสโตเนีย และเป็นช่องทางเข้าถึงตลาด EU แต่ต้องเสียภาษีให้รัฐบาลเอสโตเนีย ซึ่งมีระบบที่โปร่งใสและตรวจสอบได้ ไม่ใช่ช่องทางลัดของผู้ไม่หวังดีและ [su_spacer size=”20″]
4) Digital Nomad Visa เพื่อรองรับผู้ประกอบการรุ่นใหม่จากทั่วโลกที่ประสงค์จะเข้ามาทํางานในเอสโตเนียชั่วคราว ให้มีทางเลือกในการตรวจลงตรา นอกเหนือจากการตรวจลงตราแบบท่องเที่ยวซึ่งไม่สามารถทํางานได้ หรือแบบจ้างงานซึ่งต้องมีนายจ้างและสัญญาจ้าง [su_spacer size=”20″]
ประธานาธิบดีสรุปว่า ภาครัฐและภาคเอกชนเอสโตเนียร่วมมือกันอย่างใกล้ชิดเพื่อสร้างความปลอดภัยทางไซเบอร์ ทําให้เอสโตเนียเป็นสนามทดสอบนวัตกรรม (sandbox) ด้านดิจิทัลและ IT ระดับโลก และสามารถฟื้นตัวจากวิกฤตเศรษฐกิจที่ผ่านมาได้อย่างรวดเร็ว เนื่องจากมีสภาพแวดล้อมและโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัลที่มีความพร้อมสูง สามารถรับรองและดึงดูดการค้าการลงทุนได้ดี [su_spacer size=”20″]
สถานกงสุลใหญ่ ณ นครลอสแอนเจลิส