ในระหว่างการประชุมเรื่อง “One Size Does Not Fit All – Inclusive Design & the Modern Consumer จัดโดย Coresight Research และ Alvanon บริษัทที่ปรึกษาด้านการพัฒนาเสื้ อผ้าสําเร็จรูปของโลก เมื่อวันที่ 14 มิถุนายน 2561 ผู้บรรยายหลายรายระบุว่า อุตสาหกรรมแฟชั่นปัจจุบันไม่ได้ ตอบสนองต่อความต้องการกว่าครึ่ งหนึ่งของประชากรสหรัฐฯ [su_spacer size=”20″]
ตลาดแฟชั่นในรูปของการปรับให้ เข้ากับผู้บริโภคและการรวมผู้ บริโภคเข้าไว้ (adaptive and inclusive fashion) กําลังเป็นตลาดที่มีโอกาสสูง Coresignt Research ประมาณการมูลค่าตลาดทั่วโลกในปี 2561 ที่ 278.2 พันล้านเหรียญฯ และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 325.8 พันล้านเหรียญฯ ในปี 2565 โดยมูลค่าตลาดในสหรัฐฯ อยู่ที่ประมาณ 44.5 พันล้านเหรียญฯและ 51.6 พันล้านเหรียญฯ ตามลําดับ ตลาดแฟชั่นในรูปแบบดังกล่ าวประกอบด้วย niche market จํานวนมาก เช่น [su_spacer size=”20″]
1. กลุ่ม plus-size ซึ่งกําลังมีการเติบโตอย่ างรวดเร็ว
2. กลุ่มคนพิการ
3. ผู้บริโภคที่มีอายุเพิ่มมากขึ้ นและทหารผ่านศึกที่พิการกว่า 3 ล้านคนในสหรัฐฯ ผู้บริโภคกลุ่มนี้ต้องการสินค้ าที่เป็น adaptive, stress-free fashion [su_spacer size=”20″]
การสํารวจของ U.S. Census Bureau พบว่า เกินกว่าครึ่งหนึ่งของเพศหญิ งในสหรัฐฯ ใส่เสื้อผ้าขนาดเบอร์ 14 และสูงกว่า ในปี 2559 คนอเมริกันเกินกว่า 40 ล้านคนหรือร้อยละ 12.6 ของประชากรสหรัฐฯ เป็นคนพิการ ซึ่งต้องการเสื้อผ้าสําเร็จรู ปที่มีรูปแบบการใช้งาน (function) และขนาดที่แตกต่ างออกไปจากขนาดเสื้อผ้าทั่ วไปโดยยังคงมีความเป็นแฟชั่นอยู่ ด้วยซึ่งอุตสาหกรรมค้าปลีกเสื้ อผ้าปัจจุบัน ไม่ได้ตอบสนองต่อความต้ องการของผู้บริโภคกลุ่มนี้ สังเกตได้จาก [su_spacer size=”20″]
1. สัดส่วนของร้านค้าปลีกเสื้อผ้ าที่เป็นสําหรับกลุ่ม plus-size ต่อสตรีอเมริกัน 1,000 คนที่ใส่เสื้อผ้าขนาดเบอร์ 14 ขึ้นไปมีเพียง 0.03 (0.03 ร้านต่อสตรี 1,000คน) เมื่อเทียบกับสัดส่วนของร้านค้ าปลีกเสื้อผ้า Specialty Apparel Store ต่อสตรี 1,000 คนมีถึง 1.67 ร้าน
2. กว่าร้อยละ 50 ของสตรีอเมริกันใส่เสื้อผ้า plus size แต่พบว่ายอดขายเสื้อผ้า plus size มีเพียงร้อยละ 18 ของยอดจําหน่ายเสื้อผ้าสตรีทั้ งหมด แสดงให้เห็นถึงช่องว่างตลาดที่ ยังมีโอกาสมหาศาล [su_spacer size=”20″]
ขณะนี้มีธุรกิจค้าปลีกสหรั ฐฯหลายรายเริ่มเห็นถึ งโอกาสและจับตลาดกลุ่มนี้เพิ่ มขึ้นที่สําคัญ ได้แก่
1. Zappos ร้านค้าปลีกขายสินค้าเสื้อผ้ ารองเท้าทางออนไลน์ โดยเริ่มต้นจากกลุ่มคนพิการ Zappos ปัจจุบันนำเสนอเสื้อผ้ าและรองเท้าที่เป็น adaptive สําหรับทุกกลุ่มผู้บริโภคที่มี อาการเจ็บป่วย ภายใต้คอนเซปต์ “ Functional and Fashionable Products to Make Life Easier” เช่น Easy On/Off Shoes, Sensory Friendly Clothing, Diabetic Shoes, Pull-On Pants, Reversible Clothing, Orthotic Friendly Shoes, Adaptive Jeans, Post Surgical Wear, Treatment Wear, Magnetic Closures was AFO (Ankle-Foot Orthosis)-Friendly
2. Target’s เริ่มเสนอสินค้าเสื้อผ้าสําหรั บเด็กพิการในแบรนด์ Cat and Jack ของร้านในเดือนตุลาคม 2560 ทั้งนี้ ทั้ง Zappos และ Target เป็นผู้เล่นรายใหญ่ที่ ครองตลาดกลุ่มนี้
3. Stick Chicks แบรนด์เสื้อชุดชั้นในสําหรั บสตรีที่เข้ากับรูปร่างทุ กประเภทในลักษณะ easyto-fasten รวมถึงเสื้อชั้นในสําหรับสตรีพิ การวางจําหน่ายทางออนไลน์ที่เป็ นเว็ปไซต์ของบริษัทฯ และใน Amazon.com
4. Universal Standard บริษัทจําหน่ายเสื้อผ้าที่เน้ นเจาะตลาดผู้บริโภคขนาด 6 – 32 โดยใช้ concept Fashion Freedom โดยขนาดเสื้อผ้าจะเป็นกลุ่ มเบอร์ เช่น 6-8 (2xs) 10 -12 (xs) 14-16 (s) 18-20 (M) เพื่อให้ผู้บริโภคกลุ่มเป้ าหมายไม่รู้สึกว่าขนาดเสื้อผ้ าตนเองใหญ่จนเกินไป เนื่องจากพบว่าสตรีอเมริกันส่ วนใหญ่จะใส่เสื้อผ้าเบอร์ 16 – 18 โดยผู้ที่ใส่เสื้อผ้าขนาดเบอร์ ต่ำกว่า 10 มีไม่ถึงร้อยละ 20 [su_spacer size=”20″]
ผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาดให้ ความเห็นว่า การออกแบบเสื้อผ้าที่เป็น functional fashion ที่ปรับให้เข้ากับผู้บริ โภคเฉพาะกลุ่มต้องเน้นความสําคั ญไปที่การสร้าง prototype โดยเริ่มต้นจากการออกแบบแล้วนํ าไปสร้าง prototype ในลักษณะที่สามารถใช้งานได้จริง (design in action) ซึ่งอาจต้องใช้เวลาหลายครั้ง จนกว่าจะได้เสื้อผ้าที่ เหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมาย ส่วนช่องทางจําหน่ายที่ดีที่สุ ดสําหรับตลาดเสื้อผ้าที่เจาะกลุ่ มผู้บริโภคเหล่านี้คื อการขายทางออนไลน์ซึ่งกําลังได้ รับความสนใจจากกลุ่มห้างสรรพสิ นค้าทั้งหมายที่เพิ่มช่ องทางการจัดจําหน่ายให้ครอบคลุ มมากขึ้น [su_spacer size=”20″]
สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่ างประเทศ ณ นครลอสแอนเจลิส