สหรัฐฯ ได้ต่ออายุการให้สิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากร (GSP) กับประเทศคู่ค้าอีก 3 ประเทศเมื่อวันท่ี่ 1 มกราคม 2561 และจะสิ้นสุดลงในวันที่ 31 ธันวาคม 2563 ภายใต้กฎหมายงบประมาณประจําปี 2561 (Omnibus Spending Bill) นั้น มีพัฒนาการดังนี้
[su_spacer]
ภาคเอกชนสหรัฐฯ เรียกร้องให้สภาคองเกรสต่ออายุกฎหมาย GSP โดยเร็ว เมื่อวันท่ี่ 16 มิถุนายน 2563 บริษัทและสมาคมการค้า 222 แห่ง ได้ร่วมกันส่งหนังสือคำร้องถึงประธานาธิบดี และรองประธานาธิบดี คณะกรรมาธิการพิจารณาวิธีการจัดหารายได้ของสภาผู้แทนราษฎร (House Ways and Means Committee) และคณะกรรมาธิการด้านการเงินของวุฒิสภาสหรัฐฯ (House Financial Services Committee) ขอให้เร่งผ่านกฎหมายเพื่อต่ออายุสิทธิ GSP โดยเร็ว ให้เกิดความต่อเนื่องในเดือนมกราคม 2564 เนื่องจากหลายบริษัทได้รับผลกระทบอย่างมากจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธ์ุใหม่ 2019 (COVID-19) และเศรษฐกิจที่แย่ลง
[su_spacer]
สมาคมการค้าสําคัญที่ร่วมลงนาม ได้แก่ หอการค้าสหรัฐฯ American Apparel and Footwear Association (AAFA) / Outdoor Industry Association (OIA) / Coalition for GSP / National Fisheries Institute (NFI) และ National Retail Federation (NRF)
[su_spacer]
เนื้อความในหนังสือได้กล่าวถึงการตัดสิทธิ GSP บางส่วนของไทยเมื่อเดือนเมษายน 2563 ว่า จะเพิ่มภาระภาษีนําเข้าให้กับเอกชนสหรัฐฯ หลายล้านดอลลาร์สหรัฐต่อเดือน ด้วยการคืนสิทธิ GSP ที่สูญเสียไป (รวมถึงสิทธิ GSP ที่ให้กับอินเดีย ตุรกี ตลอดจนสิทธิ GSP รายสินคาหลายรายการ ที่ The Office of the United States Trade Representative (USTR) หรือสำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐอเมริกา ปฏิเสธคําขอในการให้สิทธิในการทบทวนรอบปัจจุบัน) จะสร้างประโยชน์อย่างมากให้กับบริษัทและคนงานสหรัฐฯ
[su_spacer]
ในขณะที่ ท่าทีของ USTR เมื่อวันที่ 17 มิถุนายน 2563 นาย Robert Lighthizer ผู้แทนการคาสหรัฐฯ ได้เข้าให้ข้อมูลและตอบข้อซักถาม (hearing) ต่อคณะกรรมาธิการด้านการเงินของวุฒิสภาสหรัฐฯ เรื่อง The President’s 2020 Trade Policy Agenda ซึ่งในช่วงหนึ่ง ได้ตอบคําถามว่า รัฐบาลสหรัฐฯ ยังไม่มีท่าทีอยางเป็นทางการในเรื่องการต่ออายุสิทธิ GSP โดยตนมองว่า GSP เป็นประโยชน์ แต่ต้องมีการปรับเปลี่ยน และตนจะไปดูรายละเอียดของกฎหมาย ตนรู้สึกรําคาญใจ เนื่องจากในขณะที่สหรัฐฯ ให้สิทธิ GSP แบบให้เปล่ากับประเทศคู่ค้า แต่ประเทศเหล่านี้กลับทําความตกลงที่ให้สิทธิประโยชน์ที่ดีกว่า (ที่ให้กับสหรัฐฯ) กับประเทศอื่น ๆ อาทิ ประเทศในยุโรป
[su_spacer]
สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงวอชิงตัน