นายกรัฐมนตรี Boris Johnson ได้หารือกับผู้แทนบริษัทและองค์กรชั้นนําของภาคอุตสาหกรรมยานยนต์ทั้งในระดับประเทศและระดับโลก เช่น บริษัท Nissan Stellantis BMW Ford Toyota JLR และ BP เพื่อยืนยันความมุ่งมั่นของรัฐบาลสหราชอาณาจักรที่จะจํากัดการขายรถยนต์ที่ใช้น้ํามันเชื้อเพลิงภายในปี 2030 และเน้นการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าและเพิ่มจุดชาร์จไฟฟ้าทั่วสหราชอาณาจักรเพื่อบรรลุเป้าหมาย net zero ภายในปี 2050 โดยมุ่งหวังให้เกิดการลงทุนของภาคเอกชนในด้านดังกล่าวควบคู่กันไป ในโอกาสนี้รัฐบาลสหราชอาณาจักร ได้ประกาศการสนับสนุนงบประมาณเพิ่มเติมภายใต้แผน Net Zero Strategy เพื่อสร้างความเชื่อมั่นในภาคเอกชน มูลค่าประมาณ 1 พันล้านปอนด์ เช่น การให้เงินเพิ่มจํานวน 350 ล้านปอนด์เพื่อสนับสนุนผู้ประกอบการภาคขนส่งใช้พลังงานไฟฟ้าในยานพาหนะรวมถึงบริษัทในระบบห่วงโซ่อุปทานที่เกี่ยวข้อง และการให้เงินทุนช่วยเหลือเพื่อส่งเสริมการลงทุนเกี่ยวกับการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าและระบบโครงสร้างพื้นฐานโดยเฉพาะจุดชาร์จไฟฟ้าบนถนนในย่านที่พักอาศัย
.
โอกาสผู้ประกอบการไทย
.
ปัจจุบันเทรนด์พลังงานสะอาดเเละเศรษฐกิจสีเขียวกลายเป็นปัจจัยสำคัญประกอบการตัดสินใจของนักลงทุนเเละลูกค้าต่างชาติ รวมถึงประเทศไทยเริ่มดำเนินการสนับสนุนการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าหรือรถยนต์พลังงานสะอาดเพื่อตอบโจทย์ carbon neutrality ภายในปี 2050 ผู้ประกอบการไทย เช่น อุตสาหกรรมผลิตรถยนต์อาจใช้โอกาสนี้ในการศึกษาเเลกเปลี่ยนความรู้ นวัตกรรมในการปรับตัวให้เข้ากับความต้องการของลูกค้าโดยเน้นการเปลี่ยนผ่านสู่เศรษฐกิจสีเขียวหรือการดำเนินธุรกิจที่เป็นมิตรต่อสิ่งเเวดล้อม เช่น การ retrain หรือ reskill พนักงานเพื่อรองรับการผลิตรถยนต์พลังงานสะอาดรวมถึงการเตรียมจัดตั้งโครงสร้างพื้นฐานที่สนับสนุนการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าให้พร้อมเพื่อเพิ่มโอกาสในการดึงดูดการลงทุนต่างชาติเเละความยั่งยืนของธุรกิจไทยต่อไป
.
สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงลอนดอน