เมื่อปี 2561 H.H. Sheikh Mohamed bin Zayed Al Nahyan มกุฎราชกุมารแห่งรัฐอาบูดาบี และรองผู้บัญชาการทหารสูงสุดแห่งกองทัพสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ทรงอนุมัติแผนการพัฒนาเมืองภายใต้โครงการ Ghadan 21 ซึ่งมีมูลค่ากว่า 5 หมื่นล้านดีแรมห์ (ประมาณ 4.2 แสนล้านบาท) ซึ่งจะมีแผนงานกว่า 50 โครงการระหว่างปี 2562-2564 เพื่อพัฒนาเศรษฐกิจโดยมีเป้าหมายเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของรัฐอาบูดาบีภายใต้องค์ประกอบหลัก อาทิ ขีดความสามารถด้านธุรกิจและการลงทุน การพัฒนาสังคม การส่งเสริมความรู้และนวัตกรรม การกําหนดวิถีการดําเนินชีวิตในรัฐ ซึ่งสามารถจําแนกได้ ดังนี้

[su_spacer]

1. ขีดความสามารถด้านด้านธุรกิจและการลงทุน มุ่งเน้นการลงทุนในโครงการต่าง ๆ และเพิ่มความคล่องตัวในการทําธุรกิจในรัฐอาบูดาบีโดยใช้แรงจูงใจต่าง ๆ เช่น การลดภาษี และการยกเลิกข้อบังคับที่เกี่ยวข้องกับภาครัฐ

2. การส่งเสริมความรู้และนวัตกรรม ผลักดันให้รัฐอาบูดาบีเป็นศูนย์กลางด้านนวัตกรรม และการวิจัยระดับโลก โดยกรุงอาบูดาบีได้มุ่งเน้นการพัฒนาแนวความคิดและการสร้างความรู้สําหรับเทคโนโลยีในอนาคต ซึ่งจะเป็นบทบาทสําคัญในการแก้ไขปัญหาท้าทายระดับโลก

3. การลงทุนด้านทรัพยากรมนุษย์ การลงทุนทรัพยากรมนุษย์ โดยช่วยเหลือให้ประชาชนมีความเป็นอยู่ที่ดี พัฒนาการศึกษา ตลอดจนการช่วยเหลือทางสังคมและการสร้างศูนย์บ่มเพาะทางการศึกษา อีกทั้งการลงทุนเพื่อปรับปรุงด้านโครงสร้างพื้นฐาน ด้านสุขภาพ ด้านการศึกษา ด้านวัฒนธรรม และสิ่งแวดล้อม

[su_spacer]

นอกจากนี้ เมื่อวันที่ 16 มีนาคม 2563 คณะบริหารรัฐอาบูดาบีได้เปิดตัวมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจพิเศษ ตามโครงการ Ghadan 21 เพื่อให้สอดคล้องต่อภาวะเศรษฐกิจทั่วโลกในปี 2563 ที่ประสบปัญหาจากการแพร่ระบาดของ COVID-19 โดยมีการวางแผน 16 โครงการเพื่ออํานวยความสะดวกในการทําธุรกิจและลดค่าครองชีพ ในยูเออีได้แก่

[su_spacer]

ยกเว้นค่าธรรมเนียมการลงทะเบียนรายปีสําหรับยานพาหนะเชิงพาณิชย์ – ยกเว้นการเก็บค่าธรรมเนียมค่าผ่านทาง (Tolt gate) ยานพาหนะที่เข้าอาบูดาบีทุกประเภท
ยกเว้นค่าธรรมเนียมการจดทะเบียนอสังหาริมทรัพย์ส่วนบุคคลและเชิงพาณิชย์สําหรับ เชิงพาณิชย์และอุตสาหกรรม
ยกเว้นค่าธรรมเนียม Tawtheeq (การเช่าอสังหาริมทรัพย์) ในด้านประชากร ธุรกิจขนาดย่อม และธุรกิจประเภท Startup
จัดเงินช่วยเหลือจํานวน 5 พันล้านดีแรห์ม (ประมาณ 4.2 หมื่นล้านบาท) สําหรับค่าธรรมเนียม สาธารณูปโภคด้านการประปาและการไฟฟ้าสําหรับภาคประชาชน ธุรกิจและอุตสาหกรรม
ยกเว้นค่าธรรมเนียมสําหรับผู้ที่ติดตั้งการเชื่อมต่อไฟฟ้าสําหรับ Startups ในปีนี้
ส่งเสริมนโยบายในการค้ําประกันสินเชื่อ SME ด้วยวงเงิน 3 พันล้านดีแรห์ม (ประมาณ 2.5 หมื่นล้านบาท)
เพื่อให้สะดวกแก่ธุรกิจ Startup รัฐอาบูดาบีจะจัด งปม. 50 ล้านดีแรห์ม (ประมาณ 420 ล้านบาท) สําหรับการอํานวยควาสะดวกในการลงทุน
ตั้งคณะกรรมการใหม่เพื่อพิจารณาการปล่อยสินเชื่อเพื่อช่วยและสนับสนุนบริษัทในประเทศ – ระงับการใช้หนังสือค้ําประกันการยื่นซองประกวดราคา (Bid Bond)
ลดค่าธรรมเนียมร้อยละ 25 ในการเช่าที่ดินเพื่อทําอุตสาหกรรมสําหรับผู้ที่ทําสัญญาใหม่
ยกเว้นค่าปรับสําหรับอุตสาหกรรมและพาณิชย์
การชําระใบแจ้งหนี้ของรัฐบาลที่จะใช้เวลาทําการที่รวดเร็วขึ้น โดยจะใช้เวลาภายใน 15 วัน
มอบส่วนลดร้อยละ 20 สําหรับค่าเช่าประเภทธุรกิจร้านอาหาร การท่องเที่ยวและสถานบันเทิง
ยกเว้นการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมท่องเที่ยวและท้องถิ่นและสถานบันเทิงสําหรับนักท่องเที่ยว
จัดตั้งกองทุน 1 พันล้านดีแรห์ม (ประมาณ 8.5 พันล้านบาท) เพื่อยกระดับสภาพคล่อง และช่วยให้เกิดความสมดุลระหว่าง Supply และ Demand ของคลังสินค้า

[su_spacer]

ทั้งนี้ ทางรัฐอาบูดาบีพยายามเปลี่ยนแปลงภาพลักษณ์ของรัฐจากเมืองหลวงที่มีแต่หน่วยงานราชการ ให้มีความทันสมัยและดึงดูดนักลงทุนต่างประเทศมากขึ้น (ซึ่งมีนโยบายลักษณะเดียวกับรัฐดูไบ) นอกจากนี้ มกุฎราชกุมารแห่งรัฐอาบูดาบีฯ ทรงเห็นในศักยภาพของรัฐอาบูดาบีและพยายามเชิญชวนให้นักลงทุนต่างประเทศแสวงหาลู่ทางต่าง ๆ นอกเหนือจากธุรกิจพลังงาน ซึ่งรัฐอาบูดาบียังมีศักยภาพในด้านการท่องเที่ยว การขนส่งสินค้า รวมทั้งมีแหล่งสถานที่ท่องเที่ยว และสถานที่ทางวัฒนธรรมอีกด้วย

[su_spacer]