ในเดือนกุมภาพันธ์ UAE ได้ทำข้อตกลงความร่วมมือกับต่างประเทศอย่างต่อเนื่องเพื่อเพิ่มขีดความสามารถให้กับประเทศ โดยล่าสุด ในด้านการแพทย์มหาวิทยาลัย Khalifa University Center for Biotechnology (BTC) ของ UAE ได้ลงนามข้อตกลงความร่วมมือในโปรแกรม Biomedical Science Discovery (BISDI) กับ University of Leuven-Flanders institute (VIB) จากเบลเยียม โดยมีกษัตริย์ Philippe Leopold Louis Marie แห่งเบลเยี่ยมทรงเข้าร่วมเป็นสักขีพยาน ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อพัฒนาวิธีการรักษาโรคเบาหวานแบบใหม่ โดยใช้ระบบ AI ในการช่วยค้นหายาได้อย่างถูกเป้าหมาย รวมถึงการค้นหาวิธีรักษาแบบใหม่สําหรับภาวะแทรกซ้อนของระบบหัวใจและหลอดเลือด ในผู้ป่วยโรคเบาหวาน
.
สํานักข่าว VAM สื่อท้องถิ่นของ UAE ได้ลงนามข้อตกลงความร่วมมือด้านสื่อกับจีนอย่าง China Media Group (CMG) เพื่อเสริมสร้างความร่วมมือระหว่างกันอย่างใกล้ชิดและเปิดช่องทางให้สํานักข่าวทั้งสองแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างกัน รวมถึงให้มีการฝึกอบรมสําหรับบุคคลากรด้านการข่าวในทุกระดับเพื่อแลกเปลี่ยนประสบการณ์และฝึกฝนทักษะ นอกจากนี้ ภาคเอกชนของ UAE ยังได้มีการปรับตัว เพิ่มการเชื่อมโยงกับจีน ตั้งแต่วันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2565 เป็นต้นไป Etihad Cargo จะเปิดตัว etihadcargo.comฉบับภาษาจีนกลาง เพื่ออํานวยความสะดวกในการเข้าถึงข้อมูลสําหรับลูกค้าและพันธมิตรของ Etihad Cargo เนื่องจากมีผู้ใช้บริการสัญชาติจีนเพิ่มขึ้นสูงกว่าร้อยละ 20 อีกด้วย
.
จะเห็นได้ว่า ทั้งสถาบันการศึกษาและภาคเอกชนใน UAE ได้ปรับตัวเพื่อรุดหน้าไปอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของความทันสมัยทางด้านการแพทย์ การขยายฐานข้อมูลของสื่อ และการอำนวยความสะดวกด้านการค้าในรูปแบบออนไลน์ โดยสิ่งเหล่านี้เป็นข้อดีที่ทำให้ UAE โดดเด่นและสามารถดึงดูด FDI จากประเทศอื่น ๆ ได้มากขึ้น ด้านประเทศไทย ซึ่งมีศักยภาพในด้านต่าง ๆ ไม่แพ้ประเทศอื่น สามารถศึกษาการพัฒนาการของเศรษฐกิจของ UAE ไว้เพื่อเป็นแนวทางในการพัฒนาต่อยอดศักยภาพของประเทศในมิติต่าง ๆ เพื่อดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศในยุคหลังโควิด-19
.
สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงอาบูดาบี