ยูเออีอยู่ในอันดับ 19 ของโลกในการลงทุนโดยตรง (FDI) ของทั่วโลกในการจัดอันดับความมั่นใจในการลงทุนตามดัชนี Kearney’s Foreign Direct Investment Confidence Index 2020 ซึ่งขึ้นไป 2 อันดับจากการจัดอันดับเมื่อปี 2017 โดยเป็นการลงทุนทางตรงในยูเออีมูลค่า 13.78 พันล้านดอร์ลาร์สหรัฐ ตุรกี 8.43 พันล้านดอร์ลาร์สหรัฐ ซาอุดิอาระเบีย 4.56 พันล้านดอร์ลาร์สหรัฐ โอมาน 3.12 พันล้านดอร์ลาร์สหรัฐ เลบานอน 2.13 พันล้านดอร์ลาร์สหรัฐ ประเทศอันดับต้นของลิสท์ได้แก่ สหรัฐอเมริกา แคนาดา เยอรมนี ญี่ปุ่น ฝรั่งเศส อังกฤษ ออสเตรเลีย จีน อิตาลี สวิตเซอร์แลนด์ ปัจจัยที่ส่งผลให้นักลงทุนมั่นใจในการลงทุนในยูเออี ได้แก่ 1) ความสามารถลงทุนได้ 100% ใน 13 สาขา 2) นโยบายเศรษฐกิจของรัฐบาลที่เน้นการลงทุนทางเศรษฐกิจในสาขาที่หลากหลาย 3) ความสามารถในการทําให้การทําธุรกิจ/จัดตั้งบริษัทเป็นไปได้อย่างง่ายดาย 4) มีโครงสร้างพื้นฐานในระดับที่ดี 5) การมี Startups ในดูไบจํานวนมากที่ถูก takeover โดยบริษัทยักษ์ เช่น Uber ลงทุน 3.1 พันล้านดอร์ลาร์สหรัฐซื้อ บ. Careem ของยูเออี และ Amazon ซื้อ Souq.com 6) มีปัจจัยแวดล้อมในการทําธุรกิจเป็นบวก 7) ยูเออีได้เข้าสู่ AfCFTA ทําข้อตกลงการค้าเสรีกับประเทศใน แอฟริกา
[su_spacer]
อนึ่ง ยูเออีเป็นประเทศเดียวในตะวันกลางและแอฟริกาที่มีดัชนีเหนือประเทศอื่นๆ และอยู่ในระดับเดียวกับประเทศที่พัฒนาแล้ว เช่น เดนมาร์ก โปรตุเกส บราซิล ฟินแลนด์ นอร์เวย์ และไต้หวัน ปัจจัยที่สําคัญอีกส่วนหนึ่งมาจากยูเออี มีปัจจัยทางเศรษฐกิจอยู่ในระดับดี โดยมีการเติบโตทางเศรษฐกิจ 2.4% ในปี 2019 สูงจาก 1.7% ในปี 2018 ซึ่ง นาย Rudolph Lohmeyer หุ้นส่วนของ บ. Kearney Middle East กล่าวว่า นักลงทุนยังมั่นใจในปัจจัยพื้นฐานที่ดีของยูเออี และการรับสถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด-19 ได้ดี ซึ่งจะทําให้ยูเออีเติบโตได้อย่างแข็งแกร่งในอนาคต ขณะที่นาย Anish Mehta ประธานประธานสถาบันนักการบัญชีของอินเดียในดูไบ (ICAI – Dubai Chapter) กล่าวว่า ยูเออีได้ดําเนินการอย่างถูกขั้นตอนและสามารถที่จะกลับมารุ่งเรืองทางเศรษฐกิจ ได้ในอนาคตได้ในทุกสาขา จากการที่สามารถเข้าถึงแรงงานต่างๆ ในประเทศเพื่อนบ้านและเข้าถึงแหล่งเงินทุน และราคาต้นทุนพลังงานก็ต่ำด้วย
[su_spacer]
UNCTAD ได้รายงานว่า เงินทุนไหลเข้าของยูเออี โตขึ้น 34% ถึงระดับประมาณ 14 พันล้านดอร์ลาร์สหรัฐ ในปี 2019 ซึ่งอยู่เหนือตุรกี ซึ่งสูงที่สุดในตะวันออกกลาง ดูไบ/ยูเออี เพียงประเทศเดียวก็นับเป็นครึ่งหนึ่งของ FDI ที่ลงทุนในตะวันออกกลางแล้ว อย่างไรก็ตาม บ. Kearney เน้นว่าการที่น้ํามันในตลาดโลกมีราคาตกต่ําก็เป็นปัจจัยเสี่ยงที่สําคัญต่อเศรษฐกิจ และการลงทุนโดยตรงที่จะดําเนินต่อไปได้ดีอย่างไร แต่ปัจจัยสําคัญมาจากการที่ยูเออีมีการปกครองที่ดีและมีความโปร่งใส มีนวัตกรรม มีโครงสร้างพื้นฐานดี และปัจจัยสิ่งแวดล้อมในการทําธุรกิจที่ดี ก็ยังจะเป็นปัจจัย ที่จะดึงดูด FDI จากต่างประเทศได้ดีต่อไป โดยเฉพาะการตอบสนองต่อการระบาดของไวรัสโควิด-19 ได้อย่างดี ทันการณ์ และสมเหตุสมผล ก็จะทําให้ยูเออีพ้นจากวิกฤตการณ์นี้ได้อย่างรวดเร็วกว่าประเทศอื่นๆ โดยเฉพาะการที่ยูเออีเป็นสมาชิกข้อตกลงการค้าเสรีกับแอฟริกา (Africa Continental Free Trade Area – AfcFTA) ก็จะทําให้เพิ่มโอกาสทางการค้ากับประเทศแอฟริกาได้อีกมาก และการจัดงาน Expo 2020 หลังจากการระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่ดูไบ ก็จะเป็นแต้มต่อทางเศรษฐกิจให้ยูเออีเช่นกัน อนึ่ง นาย Saad Maniar หุ้นส่วน บ. Crowe ได้กล่าวว่า ความมั่นใจในการรับมือไวรัส โควิด-19 ของ รัฐบาลยูเออี ทําให้ตลาดเชื่อมั่นในการลงทุนในยูเออี ภายใต้การนําของผู้นําประเทศที่มีวิสัยทัศน์ก็จะทําให้ระดับ FDI น่าจะสูงขึ้นอีกในปี 2021 นอกจากนี้ นาย Anish Mehta ประธานสถาบันนักการบัญชีของอินเดียในดูไบ กล่าวว่า ยูเออีมีนโยบายในการพึ่งพาการนําเข้าลดลงและการอนุญาตให้ต่างขาดลงทุนได้ 100% ในกิจกรรมทางเศรษฐกิจ 122 กิจกรรมใน 13 สาขา เช่น การผลิต การเกษตรกรรม การใช้พลังงานหมุนเวียน ด้านโรงแรมและบริการด้าน อาหาร ด้านสาธารณสุข ขนส่งและการจัดเก็บสินค้า โดยเฉพาะการที่ยูเออีสามารถนําเข้าแรงงานจากประเทศเพื่อนบ้านได้อย่างเต็มที่ รวมทั้งเงินทุนและยังมีราคาพลังงานต่ำ ล้วนเป็นปัจจัยเสริมต่อความมั่นใจของ FDI จากต่างประเทศ
[su_spacer]