หลายท่านคงรู้สึกได้ว่า การพัฒนาทางเทคโนโลยีที่ก้าวหน้าในยุคปัจจุบันได้เชื่อมโยงโลกทั้งใบให้ใกล้ชิดกัน ร่นระยะทางระหว่างประเทศหนึ่งสู่อีกประเทศหนึ่งให้ใกล้กันเพียงปลายนิ้วสัมผัสก็ติดต่อสื่อสารกันได้ และลดช่องว่างแห่ง “โอกาส” ที่ทำให้บางคนมีโอกาสมากกว่าบางคนในทุกมิติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านเศรษฐกิจ ซึ่งความเชื่อมโยงดังกล่าวได้ขยายโอกาสให้ภาคธุรกิจขยายตลาดและเติบโตมากยิ่งขึ้น ผ่านการก้าวออกไปสู่ต่างประเทศ ไม่ว่าภาคธุรกิจนั้นจะเป็นธุรกิจขนาดใหญ่หรือ SME ก็ตาม[su_spacer size=”20″]
ถ้าท่านเป็นผู้ประกอบการไทยที่อยากจะก้าวไปสู่ต่างประเทศ เพราะอยากจะมีตลาดที่ใหญ่กว่าเดิม อยากจะมีรายได้เพิ่มมากขึ้น หรือแม้แต่อยากจะสร้างแบรนด์ไทยให้ดังไปทั่วโลก แต่กลับดึงขาตัวเองกลับ เพียงเพราะมีคำถามว่า “จะไปประเทศไหนดี” “ไปแล้วจะต้องทำอย่างไร” “กฎระเบียบของประเทศนั้น ๆ ยุ่งยากมากไหม” “ไปแล้วเจอปัญหาจะทำอย่างไร” “ธุรกิจฉันเล็กไปหรือไม่ที่จะก้าวไปต่างประเทศ” หากท่านเป็นคนหนึ่งที่มีคำถามเหล่านี้อยู่ในหัว เรา “กระทรวงการต่างประเทศ” จะเป็นผู้จับมือท่านเผชิญหน้ากับคำถามเหล่านั้น และเคียงข้างท่านเพื่อก้าวไกลไปทั่วโลกด้วยกัน[su_spacer size=”20″]
กระทรวงการต่างประเทศถือเป็นหน่วยงานหนึ่งของรัฐบาลไทยในการส่งเสริมขีดความสามารถของภาคธุรกิจไทยให้สามารถแข่งขันกับนานาประเทศผ่านบทบาท “การทูตเชิงเศรษฐกิจ” ที่มุ่งมั่นจะ “ชี้ช่องทาง สร้างโอกาส และเตือนภัย” ให้กับภาคธุรกิจไทยที่ประสงค์จะก้าวไกลไปในต่างประเทศ โดยใช้จุดแข็งของการที่กระทรวงการต่างประเทศมีสถานเอกอัครราชทูตและสถานกงสุลใหญ่ตั้งอยู่ในทุกมุมของโลก ซึ่งสามารถเข้าถึงข้อมูล เข้าใจสภาพแวดล้อมและวัฒนธรรมทางธุรกิจ และมีความเชื่อมโยงกับหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนของประเทศต่าง ๆ อันนำมาซึ่งข้อมูลเจาะลึกที่จำเป็นต่อการส่งเสริมให้ภาคเอกชนไทยเข้าไปดำเนินธุรกิจในต่างประเทศ ซึ่งในช่วงปี ๒๕๖๐ ที่ผ่านมา กระทรวงการต่างประเทศได้ดำเนินบทบาทดังกล่าวอย่างแข็งขันเพื่อให้ภาคธุรกิจไทยและเศรษฐกิจของประเทศไทยขยายตัวอย่างต่อเนื่อง[su_spacer size=”20″]
ในด้านการ “ชี้ช่องทาง” กระทรวงการต่างประเทศไม่หยุดยั้งที่จะหาตลาดใหม่สำหรับผู้ประกอบการไทย โดยเผยแพร่ข่าวสารผ่านสื่อต่าง ๆ เช่น เมื่อไม่นานมานี้ สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงออสโล ประเทศนอร์เวย์ ได้ให้คำแนะนำแก่ SME ของไทยให้สามารถส่งสินค้ากางเกงมวยไปขายในนอร์เวย์ ผ่านการแนะนำให้ใช้ค่ายมวยไทยในนอร์เวย์เป็นจุดประชาสัมพันธ์และขายสินค้า และยังให้คำแนะนำเกี่ยวกับขั้นตอนการส่งออกสินค้า ทำให้ผู้ประกอบการรายย่อยของไทยสามารถขยายตลาดไปยังต่างประเทศได้[su_spacer size=”20″]
หรือกรณีสถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงมาดริด ประเทศสเปน ที่ได้ช่วยเป็นกระบอกเสียงดึงดูดการค้าการลงทุนจากต่างประเทศเข้าสู่ไทยอีกด้วย โดยได้เชิญทีมงานรายการ “โลก 360 องศา” ไปถ่ายสารคดีเกี่ยวกับสเปนในประเด็นอุตสาหกรรมอาหาร อุตสาหกรรม 4.0 Smart City และอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ซึ่งช่วยส่งเสริมความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจระหว่างกันได้เป็นอย่างดี[su_spacer size=”20″]
เมื่อช่องทางธุรกิจในโลกมีมากมาย กระทรวงการต่างประเทศจึงต่อยอดให้ช่องทางเหล่านั้นเป็นการ “สร้างโอกาส” โดยสร้างสัมพันธ์ระหว่างหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนไทยให้จับมือกัน เพื่อให้เกิดความร่วมมือกันอย่างต่อเนื่อง ดังเช่นสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงบูดาเปสต์ ประเทศฮังการี ได้นำคณะภาคเอกชนและสื่อมวลชนฮังการีมาเยือนไทย จนนำไปสู่ความร่วมมือระหว่างร้านอาหารไทยในฮังการีกับมหาวิทยาลัยของไทยในการรับนักศึกษาด้านคหกรรมศาสตร์ไปเป็นผู้ประกอบอาหารที่ฮังการี หรือกรณีที่สถานกงสุลใหญ่ ณ นครโฮจิมินห์ ได้เข้าพบหารือระหว่างสภาหอการค้าและอุตสาหกรรมเวียดนามเพื่อเสริมสร้างโอกาสทางธุรกิจ SME สินค้าไทยที่ให้เป็นที่นิยมในเวียดนาม[su_spacer size=”20″]
ในขณะที่สถานกงสุลใหญ่ ณ นครเฉิงตู ได้สนับสนุนให้ผู้ประกอบการธุรกิจการบินของไทยประสบความสำเร็จในการเปิดเส้นทางบินตรงระหว่าง นครฉงชิ่งของจีนกับเกาะสมุยของไทย ซึ่งนำรายได้เข้าสู่ประเทศอย่างมหาศาล และกระจายรายได้ไปสู่ผู้ประกอบการรายย่อยในพื้นที่เป็นอย่างมาก รวมถึงการที่กระทรวงการต่างประเทศร่วมกับสถานเอกอัครราชทูตในทวีปแอฟริกานำคณะภาคเอกชนไทยเดินทางเยือนเอธิโอเปียและโมซัมบิก ซึ่งถือเป็นตลาดเกิดใหม่ในภูมิภาคแอฟริกา จนนำไปสู่การลงนามความร่วมมือระหว่างโรงพยาบาลเอกชนไทยกับเอธิโอเปีย และความร่วมมือด้านการประมงระหว่างภาคเอกชนไทยกับภาคเอกชนของโมซัมบิก[su_spacer size=”20″]
นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรมที่เป็นไฮไลท์ของการสร้างโอกาสทางธุรกิจให้แก่ผู้ประกอบการไทย คือ งานเทศกาลไทย (Thai Festival) ซึ่งจัดโดยสถานเอกอัครราชทูตและสถานกงสุลใหญ่ รวมกว่า ๔๐ งานเป็นประจำทุกปีทั่วโลก ถือเป็นงานใหญ่ประจำปีที่ได้รับความสนใจจากต่างประเทศ เป็นโอกาสให้แก่ผู้ประกอบการไทย โดยเฉพาะผู้ประกอบการ SME ในสาขาต่าง ๆ สามารถนำสินค้าและบริการที่โดดเด่นของตนเข้าร่วมงาน ช่วยให้สามารถเข้าถึงตลาดในต่างประเทศได้ดีอีกทางหนึ่งด้วย[su_spacer size=”20″]
อย่างไรก็ดี แม้ช่องทางต่าง ๆ จะสร้างโอกาสให้ภาคธุรกิจไทยก้าวไกลไปยังต่างประเทศได้ แต่ด้วยกฎระเบียบ สภาพแวดล้อม และวัฒนธรรมที่แตกต่างกันในแต่ละประเทศ ส่งผลให้เกิดความท้าทาย อันนำมาสู่ ปัญหาและอุปสรรคทางธุรกิจ ซึ่งกระทรวงการต่างประเทศพร้อมให้ความช่วยเหลือ แนะนำ และแก้ไข รวมถึงให้ข้อมูล “เตือนภัย” ไม่ว่าปัญหานั้นจะเป็นปัญหาระดับใด อาทิ บริษัทของไทยที่เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำในฟิลิปปินส์ประสบปัญหาการนำเข้าพ่อพันธุ์แม่พันธุ์กุ้งขาวจากไทย เนื่องจากกรมประมงฟิลิปปินส์อ้างสาเหตุโรค Early Mortality Syndrome (EMS) ซึ่งเคยระบาดในประเทศไทย แต่ปัจจุบัน ไทยได้ปรับปรุงสายพันธุ์กุ้งให้ปลอดจากโรคนี้แล้ว สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงมะนิลา จึงได้เชิญรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรฟิลิปปินส์มาเยือนไทยเพื่อเยี่ยมชมการเพาะกุ้งขาวของไทย ส่งผลให้มีการยกเลิกการจำกัดการนำเข้ากุ้งขาวจากไทยในเวลาต่อมา[su_spacer size=”20″]
กรณีนักลงทุนไทยในอินเดียในธุรกิจโรงเลี้ยงไก่ในรัฐเบงกอลตะวันตกประสบปัญหากลุ่มอิทธิพลท้องถิ่นก่อกวน จนทำให้บริษัทต้องระงับการลงทุนไว้ชั่วคราว ซึ่งเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงนิวเดลี ได้เข้าพบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง อุตสาหกรรมและพาณิชย์ของรัฐเบงกอลตะวันตก จนนำไปสู่การสั่งการให้แก้ไขปัญหาดังกล่าวโดยเร่งด่วน ซึ่งนับเป็นกรณีแรกที่มุขมนตรีของรัฐได้สั่งการให้ความช่วยเหลือแก่บริษัทเอกชนต่างชาติด้วยตนเองโดยตรง นอกจากนี้ สถานกงสุลใหญ่ ณ นครลอสแอนเจลิส สหรัฐอเมริกา ยังได้ช่วยเหลือผู้ประกอบการรายย่อยที่ดำเนินธุรกิจนวดและสปาไทยในสหรัฐอเมริกาอีกด้วย โดยได้จัดงานสัมมนา “ทำอย่างไรเมื่อเจ้าหน้าที่รัฐฯ เข้าตรวจร้านนวด” เพื่อให้ผู้ประกอบการและพนักงานนวดไทยได้ทราบถึงกฎระเบียบต่าง ๆ ที่สามารถป้องกันปัญหาการถูกปรับหรือดำเนินคดีโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์[su_spacer size=”20″]
ที่กล่าวมาข้าวต้นเป็นเพียงตัวอย่างส่วนหนึ่งในจำนวน ๑,๓๖๓ กรณี ซึ่งสถานเอกอัครราชทูตและสถานกงสุลใหญ่ไทยทั่วโลกจำนวน ๘๔ แห่ง ได้ดำเนินการไปแล้วในปี ๒๕๖๐ โดยได้ช่วยเหลือและส่งเสริมบริษัทต่าง ๆ เป็นจำนวนมากถึง ๖,๕๔๗ ราย ให้สามารถเข้าถึงโอกาสด้านการค้าและการลงทุน รวมทั้งเสริมสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันของไทยในเวทีโลกให้เพิ่มขึ้นได้เป็นอย่างดี ซึ่งในท้ายที่สุด ผลประโยชน์ทางด้านเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นก็ย่อมตกอยู่กับคนไทยทุกคนต่อไป[su_spacer size=”20″]
ไม่ว่าท่านจะเป็นใคร มีธุรกิจระดับใหญ่หรือเล็ก กระทรวงการต่างประเทศจะยังคงยึดมั่นในการดำเนิน “การทูตเชิงเศรษฐกิจ” จับมือท่านเพื่อก้าวไกลไปในต่างประเทศ ให้สามารถยืนหยัดขยายกิจการ และสามารถแข่งขันบนเวทีการค้าและการลงทุนระหว่างประเทศได้อย่างยั่งยืน[su_spacer size=”20″]
ศูนย์ธุรกิจสัมพันธ์ กรมเศรษฐกิจระหว่างประเทศ
กระทรวงการต่างประเทศ