ไต้หวันได้มีการพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมต่าง ๆ ควบคู่ไปกับการรักษาสิ่งแวดล้อม โดยเมื่อปี ค.ศ. 2002 ไต้หวันได้ประกาศห้ามร้านค้าทั่วไต้หวันงดให้ถุงพลาสติกแก่ลูกค้าตามนโยบายพลังงานสีเขียว (Green Policy) และจะประกาศใช้นโยบายงดใช้หลอดพลาสติกเพิ่มเติมตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม ค.ศ. 2019 เป็นต้นไป[su_spacer size=”20″]
นโยบายดังกล่าวจะห้ามผู้ประกอบการให้หลอดพลาสติกแก่ลูกค้าที่รับประทานอาหารและเครื่องดื่มภายในศูนย์อาหารตามห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า และร้านอาหาร fast food ผู้ที่ฝ่าฝืนมีโทษปรับ 1,200 – 6,000 ดอลลาร์ไต้หวัน แต่ยังคงอนุญาตให้ผู้ประกอบการให้หลอดพลาสติกแก่ลูกค้าที่ซื้อกลับบ้านได้ ทั้งนี้ มาตรการดังกล่าวจะครอบคลุมร้านค้ากว่า 8,000 แห่ง[su_spacer size=”20″]
เมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2018 ไต้หวันได้แถลงว่า จะยกระดับมาตรการจํากัดการใช้พลาสติกด้วยการงดใช้หลอดพลาสติกแบบใช้แล้วทิ้ง (single-use plastic straw) ในสถานที่ต่าง ๆ ในภาคอุตสาหกรรมด้านอาหารและเครื่องดื่ม โดยงดการเตรียมหลอดพลาสติกไว้เพื่อบริการลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการภายในร้านสะดวกซื้อ ร้านอาหารและเครื่องดื่มบางแห่ง โดยจะเริ่มมาตรการในปี ค.ศ. 2019 โดยกลุ่มเป้าหมายแรก ได้แก่ พื้นที่สาธารณะ โรงเรียน ห้างสรรพสินค้าและร้านอาหาร fast food และจะงดการให้บริการหลอด พลาสติกในร้านอาหารและเครื่องดื่มทั้งหมดในปี ค.ศ.2020 และในปี ค.ศ. 2025 จะงดการใช้หลอดพลาสติกที่ติดอยู่กับบรรจุภัณฑ์ อาทิ กล่องเครื่องดื่มต่าง ๆ โดยลูกค้าจะต้องจ่ายเงินเพิ่มหากต้องการใช้หลอดพลาสติก ทั้งนี้ ไต้หวันตั้งเป้าหมายระยะยาวไว้ว่า ภายในปี ค.ศ. 2030 ไต้หวันจะต้องปลอดจากการใช้หลอดพลาสติกในทุก ๆ สถานประกอบการ[su_spacer size=”20″]
ตามข้อมูลของทางการไต้หวัน ร้านอาหาร และร้านเครื่องดื่มหลายแห่งในไต้หวันสนับสนุนและยินดีให้ความร่วมมือกับมาตรการดังกล่าวของไต้หวันอย่างเต็มที่ อาทิ KFC, Wang Steak, Mr. Brown Coffee และ McDonald เป็นต้น นอกจากนี้ Environmental Protection Administration (EPA) ได้เปิดให้ประชาชนที่มีความเห็นเพิ่มเติมต่อมาตรการดังกล่าวสามารถยื่นเสนอข้อคิดเห็นต่อสํานักงานฯ ได้ตลอดเวลา เพื่อนําไปปรับปรุงแก้ไขให้เหมาะสมและเป็นประโยชน์มากขึ้น[su_spacer size=”20″]
สำนักงานการค้าและเศรษฐกิจไทย