ไต้หวันมุ่งมั่นที่จะผลักดันนโยบายมุ่งใต้ใหม่ (New Southbound) อย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุด ได้จัดการสัมมนาเพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลต่าง ๆ ที่น่าสนใจเกี่ยวกับประเทศอาเซียนและประเทศแถบเอเชียแปซิฟิก เพื่อหวังว่าผู้ประกอบการไต้หวันจะก้าวออกไปลงทุนในประเทศเป้าหมายตามนโยบายมุ่งใต้ใหม่มากยิ่งขึ้น[su_spacer size=”20″]
Taiwan External Trade Development Council หรือ TAITRA ได้จัดการสัมมนา “เปิดภาพรวมตลาดในประเทศเป้าหมายตามนโยบายมุ่งใต้ใหม่ ปี 2018″ ณ Taipei International Convention Center เมื่อวันที่ 31 ม.ค. 2561 ที่ผ่านมา เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลและองค์ความรู้เกี่ยวกับการเติบโตของตลาดประเทศในอาเซียนและประเทศแถบเอเชียแปซิฟิกตามนโยบายมุ่งใต้ใหม่ของไต้หวัน โดยประธาน TAITRA ได้กล่าวว่า ตลาดในอาเซียนและประเทศแถบเอเชียแปซิฟิกกำลังเป็นที่จับตามองของหลายประเทศ อาทิ จีน ญี่ปุ่นหรือสหรัฐอเมริกา ซึ่งปัจจุบันไต้หวันเองได้ตั้งเป้าหมายที่จะเข้าไปลงทุนในตลาดอาเซียนและในประเทศแถบเอเชียแปซิฟิกมากยิ่งขึ้นเช่นกัน และการมีความร่วมมือทางการค้าได้ส่งผลให้ตัวเลขการค้าของไต้หวันเพิ่มขึ้น โดยสองปีที่ผ่านมา ไต้หวันได้ผลักดันนโยบายมุ่งใต้ใหม่ (New Southbound) อย่างจริงจัง[su_spacer size=”20″]
ผู้ประกอบการไต้หวันได้ไปลงทุนในประเทศต่าง ๆ ในอาเซียนเป็นจำนวนมาก ซึ่งการผลักดันนวัตกรรมและเทคโนโลยีของไต้หวันเข้าสู่ตลาดอาเซียน เป็นวิธีที่น่าสนใจเป็นอย่างมาก ส่งผลให้เมื่อปีที่ผ่านมา TAITRA ได้จัดงานนิทรรศการ Taiwan Expo ใน 4 ประเทศ ได้แก่ อินโดนีเซีย มาเลเซีย เวียดนามและฟิลิปปินส์ โดยในงานนิทรรศการฯ TAITRA ได้เชิญผู้ประกอบการไต้หวันไปแสดงผลิตภัณฑ์ที่โดดเด่นของไต้หวันในประเทศดังกล่าว[su_spacer size=”20″]
ในปี 2561 นี้ TAITRA จะจัดงานนิทรรศการ Taiwan Expo 2018 ใน 5 ประเทศอาเซียน ได้แก่ อินโดนีเซีย อินเดีย เวียดนาม ไทยและมาเลเซีย เพื่อเรียนรู้และทำความเข้าใจเกี่ยวกับวัฒนธรรมในด้านต่าง ๆ ของประเทศเป้าหมาย โดยจะผลักดันผลิตภัณฑ์ที่เป็นที่จับตามองและได้เปรียบของไต้หวัน อาทิ การอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม เทคโนโลยีและนวัตกรรม ดิจิทัล หรือ IOT เป็นต้น เพื่อผลักดันให้ไต้หวันได้ก้าวเข้าสู่ ตลาดโลกต่อไป[su_spacer size=”20″]
อนึ่ง นักวิเคราะห์มองว่า ไต้หวันเริ่มดำเนินนโยบายมุ่งใต้ใหม่ (New Southbound) อย่างจริงจังเนื่องจาก 3 เหตุผลสำคัญ ได้แก่[su_spacer size=”20″]
1) การเติบโตทางเศรษฐกิจของอาเซียนที่สูง อาทิ ไทยร้อยละ 3.8 / เวียดนามร้อยละ 6.7 / สิงคโปร์ร้อยละ 3.2 / ฟิลิปปินส์ 6.7 / มาเลเซียร้อยละ 5.8 / อินโดนีเซียร้อยละ 5.1
2) การเปิดเสรีแก่ชาวต่างชาติเพื่อมาลงทุน โดย Taiwan Asean Studies Center รายงานว่า เวียดนามเป็นประเทศที่ไต้หวันได้มีการลงทุนมากที่สุดเป็นจำนวนเงินกว่า 50,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
3) อาเซียนเป็นตลาดผู้บริโภคและตลาดแรงงานขนาดใหญ่[su_spacer size=”20″]
สำนักงานการค้าและเศรษฐกิจไทย