Thursday, May 29, 2025
  • Login
  • Register
  • Home
  • เกี่ยวกับเรา
  • ทันโลก
    • เศรษฐกิจ I การเงิน
    • ธุรกิจ I การค้า I การลงทุน
    • การท่องเที่ยว I การบริการ
    • อาหาร I การเกษตร
    • คมนาคม I โลจิสติกส์
    • การแพทย์ I สุขภาพ
    • พลังงาน I สิ่งแวดล้อม I ความยั่งยืน
    • เทคโนโลยี I นวัตกรรม
    • E-commerce
    • กฎ I ระเบียบ I นโยบาย
    • อื่นๆ
    • INFOGRAPHICS
  • Glob Issue
  • ชี้ช่องจากทีมทูต
  • โอกาสใหม่ในต่างแดน
    • โอกาสใหม่ในต่างแดน
    • Thai Festival
  • รู้กฎก่อนรุก
    • ความตกลงว่าด้วยการลงทุนระหว่างประเทศ
  • Glob Insight
  • INTER ECON
  • เครือข่ายของเรา
    • GT Network
    • ลิงค์ที่น่าสนใจ
  • ติดต่อเรา
No Result
View All Result
Glob Thailand
  • Home
  • เกี่ยวกับเรา
  • ทันโลก
    • เศรษฐกิจ I การเงิน
    • ธุรกิจ I การค้า I การลงทุน
    • การท่องเที่ยว I การบริการ
    • อาหาร I การเกษตร
    • คมนาคม I โลจิสติกส์
    • การแพทย์ I สุขภาพ
    • พลังงาน I สิ่งแวดล้อม I ความยั่งยืน
    • เทคโนโลยี I นวัตกรรม
    • E-commerce
    • กฎ I ระเบียบ I นโยบาย
    • อื่นๆ
    • INFOGRAPHICS
  • Glob Issue
  • ชี้ช่องจากทีมทูต
  • โอกาสใหม่ในต่างแดน
    • โอกาสใหม่ในต่างแดน
    • Thai Festival
  • รู้กฎก่อนรุก
    • ความตกลงว่าด้วยการลงทุนระหว่างประเทศ
  • Glob Insight
  • INTER ECON
  • เครือข่ายของเรา
    • GT Network
    • ลิงค์ที่น่าสนใจ
  • ติดต่อเรา
No Result
View All Result
No Result
View All Result
Home ชี้ช่องจากทีมทูต

สเปนมุ่งหน้าสู่การเป็นผู้นำการผลิตไฮโดรเจนสีเขียวเป็นอันดับต้น ๆ ของโลก

23/12/2020
in ชี้ช่องจากทีมทูต, ทวีปยุโรป
0
สเปนมุ่งหน้าสู่การเป็นผู้นำการผลิตไฮโดรเจนสีเขียวเป็นอันดับต้น ๆ ของโลก
11
SHARES
152
VIEWS
Share on FacebookShare on TwitterShare on Line

โดยศูนย์ธุรกิจสัมพันธ์

กรมเศรษฐกิจระหว่างประเทศ กระทรวงการต่างประเทศ

สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงมาดริด

 

การพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมที่ไม่หยุดยั้งในโลกยุคปัจจุบัน และจำนวนประชากรที่เพิ่มขึ้น ทำให้ความต้องการพลังงานมีมากขึ้นเป็นเท่าตัว แหล่งพลังงานในรูปแบบเดิมที่เป็นพลังงานฟอสซิลมีข้อจำกัดทั้งในเรื่องของปริมาณและมลพิษ ทำให้ทุกประเทศต่างพยายามที่จะส่งเสริมการใช้พลังงานทดแทนที่สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น

.

ในบรรดาพลังงานทดแทนที่มีอยู่ในปัจจุบัน ไฮโดรเจนถือเป็นหนึ่งในพลังงานที่กำลังได้รับความสนใจเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยตัวอย่างที่ชัดเจน ได้แก่ การที่สหภาพยุโรป (European Union – EU) ได้ประกาศรับรอง “ยุทธศาสตร์ไฮโดรเจน” เมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม 2563  โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อผลักดันให้ทุกภาคส่วนลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ผ่านการใช้ไฮโดรเจนสีเขียวภายในปี 2593

 

 

ในฐานะสมาชิกของสหภาพยุโรป รัฐบาลสเปนได้ตั้งเป้าหมายลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (Decarbonization) ให้ได้มากกว่าร้อยละ 90 ภายในปี 2593 (ค.ศ. 2050) เมื่อเทียบกับระดับการปล่อยก๊าซ เมื่อปี 2533 (ค.ศ. 1990) โดยให้ความสำคัญกับไฮโดรเจนสีเขียวในฐานะแหล่งพลังงานทางเลือกที่จะทำให้เกิดความยั่งยืนด้านพลังงานของประเทศเช่นกัน

 

 

ไฮโดรเจนนับเป็นธาตุที่พบมากที่สุดบนโลก แต่การจะนำมาใช้งานจะต้องแปรสภาพให้เป็นก๊าซไฮโดรเจนเสียก่อน โดยผ่านกระบวนการต่าง ๆ อาทิ กระบวนการแปรสภาพเป็นแก๊ส (Gasification) หรือ กระบวนการรีฟอร์มมิงด้วยไอน้ำ (Stream Methane Reforming) หรือ กระบวนการอิเล็กโทรลิซิส (Electrolysis) เป็นต้น ด้วยเหตุนี้ เหตุผลที่เรียกว่าไฮโดรเจนสีเขียว ก็เพราะใช้วัตถุดิบหรือสารตั้งต้นที่เป็นชีวมวลหรือของเสียอินทรีย์ จึงถือเป็นพลังงานหมุนเวียนและไม่มีการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สู่บรรยากาศระหว่างการผลิต ทำให้ไฮโดรเจนสีเขียวมีความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากที่สุดเมื่อเปรียบเทียบกับไฮโดรเจนประเภทอื่นไม่ว่าจะเป็นไฮโดรเจนสีน้ำตาล หรือสีฟ้า

 

 

เมื่อเดือนตุลาคม 2563 ที่ผ่านมา รัฐบาลสเปนได้อนุมัติแผน “Hydrogen Roadmap: a commitment to renewable hydrogen” เพื่อส่งเสริมไฮโดรเจนสีเขียวให้เป็นหนึ่งในพลังงานทดแทนที่จะช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ภายในปี 2593 ตลอดจนช่วยกระตุ้นการฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศหลังวิกฤต COVID-19 รวมถึงส่งเสริมระบบเศรษฐกิจหมุนเวียนด้วย  แผนดังกล่าวประกอบด้วย มาตรการที่ครอบคลุมเรื่องกฎระเบียบ การส่งเสริมการวิจัยและนวัตกรรม 60 มาตรการ และได้กำหนดเป้าหมายไว้หลายประเด็น เช่น ต้องติดตั้งอิเล็กโทรไลต์ไฮโดรเจนให้ได้ จำนวน 4 กิกะวัตต์ ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 10   ที่สหภาพยุโรปได้วางไว้ภายในปี 2573 ต้องลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ให้ได้มากกว่าร้อยละ 90 และทำให้สเปนบรรลุเป้าหมายเศรษฐกิจที่มีคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ภายในปี 2593

.

นอกจากนี้ สเปนยังมุ่งส่งเสริมให้สเปนเป็นประเทศชั้นนำด้านเทคโนโลยีไฮโดรเจนสีเขียวหรือพลังงานทดแทนของยุโรป โดยอาศัยความได้เปรียบด้านภูมิอากาศและภูมิประเทศที่สามารถรองรับการจัดตั้งโรงงานผลิตพลังงานทดแทนได้เป็นจำนวนมาก สำหรับความสามารถในการผลิตไฮโดรเจนสีเขียวของสเปนในปัจจุบัน สเปนมีความได้เปรียบในเรื่องการแข่งขันด้านราคาเนื่องจากมีต้นทุนการผลิตไฮโดรเจนต่ำกว่าเยอรมนีถึงร้อยละ 35 ทำให้ในอนาคตสเปนน่าจะสามารถขยายกำลังการผลิตเพื่อส่งออกไปจำหน่ายในประเทศอื่นในสหภาพยุโรป

.

การผลิตไฮโดรเจนสีเขียวได้ด้วยตนเองนั้น ยังช่วยให้สเปนลดการพึ่งพาแหล่งพลังงานจากต่างประเทศ ได้อย่างมาก เนื่องจากสเปนนำเข้าพลังงานอย่างก๊าซและน้ำมันถึงร้อยละ 73 ซึ่งหากการพัฒนาพลังงานทดแทนเป็นไปตามแผนที่รัฐบาลสเปนวางไว้ คาดว่า ในปี 2593 สเปนอาจลดการพึ่งพาพลังงานต่างประเทศเหลือเพียงแค่ร้อยละ 13 เท่านั้น และจะสามารถประหยัดค่าใช้จ่ายด้านพลังงานระหว่างปี 2564 – 2593 ได้ถึง 344,000 ล้านยูโร เลยทีเดียว

.

ก่อนหน้านี้ภาคเอกชนสเปนยังไม่กล้าที่จะพัฒนาไฮโดรเจนสีเขียวมากนัก เนื่องจากไม่มั่นใจในความเสี่ยงของตลาดพลังงาน และต้นทุนการผลิตที่ค่อนข้างสูง แต่ภายหลังที่สหภาพยุโรปได้ประกาศ “ยุทธศาสตร์ไฮโดรเจน” รวมทั้งการที่รัฐบาลสเปนได้ประกาศแผน Hydrogen Roadmap: a commitment to renewable hydrogen นั้น กลับช่วยสร้างความเชื่อมั่นและกระตุ้นให้บริษัทพลังงานของสเปนเริ่มให้ความสนใจและกระตือรือร้นที่จะพัฒนาเทคโนโลยีไฮโดรเจนสีเขียวกันอย่างจริงจังมากขึ้น และล่าสุด เมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน 2563 ที่ผ่านมา รัฐบาลสเปนได้ประกาศว่าจะจัดสรรงบประมาณ 1,500 ล้านยูโรจากกองทุนฟื้นฟูยุโรปมาใช้สำหรับพัฒนาไฮโดรเจนสีเขียวสเปนในช่วงปี 2564 – 2566 อีกด้วย

.

ประเทศไทยเองก็มีเป้าหมายที่จะใช้พลังงานทดแทนและพลังงานทางเลือกให้ได้ถึงร้อยละ 30 ของการใช้พลังงานขั้นสุดท้ายภายในปี 2579 โดยไทยได้จัดทำและปรับปรุงแผนพัฒนาพลังงานทดแทนและพลังงานทางเลือก (Alternative Energy Development Plan –  AEDP 2018) เน้นการส่งเสริมพลังงานชีวภาพ ได้แก่ พลังงานจากขยะชีวมวล และก๊าซชีวภาพ เป็นอันดับแรก เพื่อทดแทนการนำเข้าน้ำมันและลดปัญหาสภาวะโลกร้อน อย่างไรก็ตาม แม้ว่าประเทศไทยได้มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องมาโดยตลอด แต่การขยายตัวในส่วนของภาคอุตสาหกรรมและการเพิ่มขึ้นของประชากรในประเทศส่งผลให้ไทยต้องพึ่งพาน้ำมันปิโตรเลียมมากขึ้นเพื่อใช้เป็นแหล่งพลังงาน

.

ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจพลังงานควรเรียนรู้จากสเปน และนำแผนส่งเสริมไฮโดรเจนสีเขียวของสเปนมาประยุกต์ในการสร้างธุรกิจใหม่ ๆ และส่งเสริมการวิจัยและการคิดค้นนวัตกรรมด้านพลังงานสะอาดให้มากขึ้น ซึ่งอาจจะช่วยลดปัญหามลภาวะต่าง ๆ อาทิ PM 2.5 ที่มีปริมาณมากขึ้นและกำลังส่งผลเสียต่อสุขภาพและการดำเนินกิจกรรมต่าง ๆ ของชาวไทยในปัจจุบัน และอาจต่อยอดไปสู่การสร้างสิ่งแวดล้อมของประเทศให้เกิดความยั่งยืน ควบคู่ไปกับการแสวงหาแหล่งพลังงานทดแทนใหม่ในประเทศให้มากขึ้น เช่นพลังงานไฮโดรเจน เนื่องจากเป็นพลังงานสะอาดที่ไม่ก่อให้เกิดมลพิษทางอากาศอีกด้วย

.

พบกับอัพเดทความเคลื่อนไหวและโอกาสในตลาดต่างประเทศที่สถานทูตไทยทั่วโลกตั้งใจติดตามมาให้ภาคเอกชนไทยได้ที่เว็บไซต์ www.globthailand.com หากมีข้อคิดเห็นหรือข้อเสนอแนะเพิ่มเติม สามารถเขียนมาคุยกันได้ที่ in**@**********nd.com

.

ที่มาของภาพ

https://cicenergigune.com/en/blog/european-hydrogen-strategy

https://dieselgasturbine.com/u-s-energy-department-invests-in-hydrogen-projects/

.

ที่มาข้อมูล

https://iie.fti.or.th/?p=4233#

 

Previous Post

การพัฒนาโรงงานอุตสาหกรรมและหัตถกรรมในสปป. ลาว

Next Post

เวียดนามเดินหน้าซื้อไฟฟ้าจากสปป. ลาวเพิ่มขึ้นในปี 2564 – 2568

Tanakorn

Tanakorn

Glob Thailand Administrator

Next Post
เวียดนามเดินหน้าซื้อไฟฟ้าจากสปป. ลาวเพิ่มขึ้นในปี 2564 – 2568

เวียดนามเดินหน้าซื้อไฟฟ้าจากสปป. ลาวเพิ่มขึ้นในปี 2564 – 2568

Post Views: 943

NEW EVENT

Current Month

RECENTNEWS

กว่างซีจ้วงเร่งเครื่องเศรษฐกิจสีน้ำเงิน โอกาสใหม่ของไทยในยุทธศาสตร์ทะเลจีน

กว่างซีจ้วงเร่งเครื่องเศรษฐกิจสีน้ำเงิน โอกาสใหม่ของไทยในยุทธศาสตร์ทะเลจีน

23/05/2025
เขต YRD ทะยานสู่ผู้นำโลกหุ่นยนต์เสมือนมนุษย์ และโอกาสความร่วมมือกับไทย ตอนที่ 3

เขต YRD ทะยานสู่ผู้นำโลกหุ่นยนต์เสมือนมนุษย์ และโอกาสความร่วมมือกับไทย ตอนที่ 3

22/05/2025
เจาะตัวเลขการค้าหูหนาน ไตรมาสแรก 2568

เจาะตัวเลขการค้าหูหนาน ไตรมาสแรก 2568

22/05/2025
ทิศทางความเคลื่อนไหวด้านพลังงานนิวเคลียร์ของไต้หวัน

ทิศทางความเคลื่อนไหวด้านพลังงานนิวเคลียร์ของไต้หวัน

22/05/2025
“โปรตีนทางเลือก” โอกาสสำหรับธุรกิจอาหารเพื่อความยั่งยืนในสิงคโปร์

“โปรตีนทางเลือก” โอกาสสำหรับธุรกิจอาหารเพื่อความยั่งยืนในสิงคโปร์

22/05/2025
สรุปข่าวเศรษฐกิจที่สำคัญของรัฐบาเดิน-เวือรืทเทิมแบร์ค

สรุปข่าวเศรษฐกิจที่สำคัญของรัฐบาเดิน-เวือรืทเทิมแบร์ค

22/05/2025

FOLLOW US

ศูนย์ธุรกิจสัมพันธ์ กรมเศรษฐกิจระหว่างประเทศ
กระทรวงการต่างประเทศ
443 ถนนศรีอยุธยา แขวงทุ่งพญาไท เขตราชเทวี
กรุงเทพมหานคร 10400

OFFICE HOURS

วันทำการ : จันทร์ – ศุกร์ เวลา 08.30 – 16.30 น.
(ยกเว้นวันหยุดนักขัตฤกษ์)
TEL : 02-203-5000 ต่อ 14239 – 14245
EMAIL : IN**@**********ND.COM

FOLLOW US

© 2016-2022 Globthailand.com Business Information Centers (BICs) Ministry of Foreign Affairs, Kingdom of Thailand. All rights reserved.

No Result
View All Result
  • Home
  • เกี่ยวกับเรา
  • ทันโลก
    • เศรษฐกิจ I การเงิน
    • ธุรกิจ I การค้า I การลงทุน
    • การท่องเที่ยว I การบริการ
    • อาหาร I การเกษตร
    • คมนาคม I โลจิสติกส์
    • การแพทย์ I สุขภาพ
    • พลังงาน I สิ่งแวดล้อม I ความยั่งยืน
    • เทคโนโลยี I นวัตกรรม
    • E-commerce
    • กฎ I ระเบียบ I นโยบาย
    • อื่นๆ
    • INFOGRAPHICS
  • Glob Issue
  • ชี้ช่องจากทีมทูต
  • โอกาสใหม่ในต่างแดน
    • โอกาสใหม่ในต่างแดน
    • Thai Festival
  • รู้กฎก่อนรุก
    • ความตกลงว่าด้วยการลงทุนระหว่างประเทศ
  • Glob Insight
  • INTER ECON
  • เครือข่ายของเรา
    • GT Network
    • ลิงค์ที่น่าสนใจ
  • ติดต่อเรา

© 2016-2022 Globthailand.com Business Information Centers (BICs) Ministry of Foreign Affairs, Kingdom of Thailand. All rights reserved.

Welcome Back!

Sign In with Facebook
Sign In with Google
OR

Login to your account below

Forgotten Password? Sign Up

Create New Account!

Sign Up with Facebook
Sign Up with Google
OR

Fill the forms below to register

All fields are required. Log In

Retrieve your password

Please enter your username or email address to reset your password.

Log In
X
X