ภายหลังการเข้ามาบริ หารประเทศของประธานาธิบดี มุน แจ-อิน สมาพันธ์อุตสาหกรรมเกาหลี (FKI) ได้ถูกลดบทบาทและความสำคั ญทางการเมืองลงอย่างมีนัยสำคัญ เนื่องจากถูกมองว่าเป็นเครื่ องมือสำคัญของประธานาธิบดี ปัก กึน-ฮเย ซึ่งถูกเปิดโปงกรณีอื้อฉาวกั บนางชเว ซุน-ซิล[su_spacer size=”20″]
สมาชิกหลักของ FKI อาทิ Samsung SK LG และ Hyundai รวมทั้งบริษัทอื่นได้ทยอยถอนตั วจากจากการเป็นสมาชิก FKI และส่งผลให้ FKI ขาดรายได้หลัก ทำให้เหลือสมาชิกเพียง 500 บริษัทจาก 640 บริษัท นอกจากนี้ยังมีการปรั บลดขนาดองค์กร ลดจำนวน Head Office จากเดิม 7 แห่ง เหลือเพียง 1 แห่ง ลดจำนวนพนักงานลงร้อยละ 60 และปรับลดเงินเดือนพนั กงานลงประมาณร้อยละ 30-40 โดยมีนายฮอ ชาง-ซู เป็นประธานกลุ่มบริษัท GS ดำรงตำแหน่งประธาน FKI ในปัจจุบัน [su_spacer size=”20″]
นักวิเคราะห์มองว่า ปัจจุบัน KCCI กำลังกลายมาเป็นกลุ่มองค์ กรทางธุรกิจที่ทรงอิทธิพลมากที่ สุดในเกาหลีใต้แทนที่ FKI โดยนับตั้งแต่รัฐบาลภายใต้ การนำของประธานาธิบดี มุน แจ-อิน เข้ามาบริหารประเทศ บทบาทของ KCCI ก็ได้รับการยอมรับจากรั ฐบาลเกาหลีใต้ในฐานะผู้ แทนภาคธรกิจของเกาหลีใต้มากขึ้น โดยในช่วงที่ผ่านมา KCCI ได้มีความร่วมมือกับหน่ วยงานภาครัฐในการดำเนิ นโครงการและจัดกิจกรรมทางธุรกิ จสำคัญ ๆ อาทิ การเป็นเจ้าภาพการจัดงานสัมมนา ASEAN Connectivity Forum ครั้งที่ 5 ร่วมกับศูนย์อาเซียน-เกาหลี (ASEAN Korea Center – AKC) เป็นครั้งแรก ระหว่างวันที่ 28-30 พฤศจิกายน 2560 (AKC เป็นเจ้าภาพจัดงานสัมมนาดังกล่ าวร่วมกับ FKI มาโดยตลอด นับตั้งแต่ครั้งที่ 2 เป็นต้นมา) และการร่วมมือกับกระทรวงยุ ทธศาสตร์และการคลัง (Ministry of Strategy and Finance – MOSF) ของเกาหลีใต้ เปิดตัวโครงการผู้ตรวจการสำหรั บการเติบโตเชิงนวัตกรรม (Ombudsman Program for Innovation Growth) ซึ่งจะทำหน้าที่เป็นสะพานเชื่ อมด้านนวัตกรรมระหว่างภาคธุรกิ จกับรัฐบาลเกาหลีใต้ ซึ่งเปิดตัวไปเมื่อวันที่ 15 มกราคม 2561 [su_spacer size=”20″]
สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงโซล