สิงคโปร์วางแผนที่จะดึงดูดบริษัทผลิตรถยนต์ไฟฟ้าให้เข้ามาลงทุนและตั้งโรงงานในสิงคโปร์มากขึ้น ภายหลังจากเมื่อปีที่แล้วที่บริษัท Dyson ประกาศจะผลิตรถยนต์ไฟฟ้าคันแรกในสิงคโปร์ โดยสิงคโปร์กําลังสร้างความเชื่อมโยงกับตลาดโลกโดยทําข้อตกลงการค้าเสรี (FTA) และใช้การมีแรงงานท้องถิ่นที่มีทักษะสูง และกฎระเบียบคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญาเป็นจุดแข็งในการดึงดูดบริษัทรถยนต์ไฟฟ้า [su_spacer size=”20″]
นาย Chng Kai Fong กรรมการผู้จัดการของคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจแห่งสิงคโปร์ (EDB) กล่าว ว่า สิงคโปร์อยู่ระหว่างเจรจากับบริษัทรถยนต์ไฟฟ้ารายอื่น ๆ อีก 2 – 3 ราย โดยไม่ต้องการให้บริษัท Dyson ผูกขาดแต่เพียงเจ้าเดียว โดยมีแนวคิดสร้างกลุ่มอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศ แม้ว่าสิงคโปร์จะมีแรงงานที่มีค่าแรงสูง แต่สิงคโปร์ก็จะใช้ระบบเทคโนโลยีขั้นสูงและระบบอัตโนมัติเข้ามาช่วยทุ่นแรง [su_spacer size=”20″]
อนึ่ง บริษัท Dyson เป็นบริษัทสัญชาติอังกฤษ มีชื่อเสียงในการผลิตเครื่องเป่าผมและเครื่องดูดฝุ่น วางแผนว่า จะสร้างโรงงานรถยนต์ไฟฟ้าในสิงคโปร์ได้แล้วเสร็จภายในปี 2563 และจะผลิตต้นแบบรถยนต์ไฟฟ้าในสิงคโปร์ให้ได้ภายในปี 2564 ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการมูลค่า 3.5 พันล้านดอลลาร์สิงคโปร์ เพื่อขยายธุรกิจสู่ภาคยานยนต์ ทั้งนี้ นาย James Dyson ได้มีแผนจะย้ายสํานักงานใหญ่ของบริษัทฯ จากอังกฤษมายังสิงคโปร์ เนื่องจากเห็นศักยภาพการเติบโตของภูมิภาคเอเชีย [su_spacer size=”20″]
ปัจจุบัน สิงคโปร์ยังไม่มีโรงงานผลิตรถยนต์ และเป็นหนึ่งในประเทศที่ราคารถยนต์แพงที่สุดในโลก ทั้งนี้ นาย Elon Musk ได้เคยลงข้อความใน Twitter เมื่อเดือนมกราคม 2562 ว่า รัฐบาลสิงคโปร์ไม่ค่อยอํานวยความสะดวก ในการทําธุรกิจของบริษัท Tesla เท่าใดนัก โดย Tesla ได้พยายามนํารถยนต์ไฟฟ้าเข้ามาในสิงคโปร์แต่รัฐบาลสิงคโปร์ไม่สนับสนุน [su_spacer size=”20″]
นอกจากนี้ รัฐบาลสิงคโปร์ยังมีแผนในการเพิ่มภาษีคาร์บอน เพื่อให้บรรลุข้อตกลงใน Paris Agreement อย่างไรก็ดี ก็จะทําให้ต้นทุนราคารถยนต์สูงขึ้นอีก หากเปรียบเทียบกับประเทศอื่น ๆ ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ [su_spacer size=”20″]
สถานเอกอัครราชทูต ณ สิงคโปร์