เมื่อวันที่ 30 ตุลาคม 2561 สำนักพิมพ์ The Business Times ได้รายงานข่าว Report: London, Singapore excel as fintech hubs โดยมีเนื้อหากล่าวถึงการที่ สถาบัน Institute of Singapore Charted Accountants (ISCA) และ Institute of Chartered Accountants in England and Wales (ICAEW) ร่วมกันศึกษาศักยภาพธุรกิจ fintech และพบว่าสิงคโปร์และลอนดอนเป็ นศูนย์กลางของธุรกิจด้าน fintech เนื่องด้วย 5 ปัจจัย ได้แก่ (1) ตลาด (2) ทักษะแรงงาน (3) เงินทุน (4) กฎระเบียบ และ (5) การสนับสนุนจากรัฐบาล [su_spacer size=”20″]
อย่างไรก็ดี ทั้ง 2 เมืองมีความแตกต่างกันในเรื่ องความสมบูรณ์ของทั้ง 5 ปัจจัย โดยธุรกิจ fintech ในลอนดอนมีความสมบูรณ์มากกว่ าในสิงคโปร์ เนื่องจากกลุ่มบริษัท startups ในสิงคโปร์ยังอยู่ในช่วงแรกที่ ยังเน้นเรื่องการสร้างฐานผู้ใช้ และดึงดูดการลงทุนมากกว่า ในขณะที่ธุรกิจ fintech ในลอนดอนเน้นเรื่ องการขยายขนาดธุรกิจให้ใหญ่ขึ้ นและหายุทธศาสตร์ใหม่ ๆ สําหรับนักลงทุน [su_spacer size=”20″]
นอกจากนี้ ในรายงานระบุว่า การมี Financial Conduct Authority (FCA) ในอังกฤษช่วยให้ธุรกิจ fintech สามารถแข่งขันและได้เปรียบผู้ ให้บริการทางการเงินดั้งเดิม (Incumbent) ในขณะที่ในสิงคโปร์เน้นการทํ างานร่วมกันของทุกฝ่ายมากกว่า อย่างไรก็ดี ปัจจุบันอังกฤษได้พบว่าการแข่ งขันกับผู้ให้บริการทางการเงิ นดั้งเดิมไม่ใช่เรื่องง่าย เนื่องจากกลุ่มนี้มีฐานลูกค้าที่ มากกว่า กว้างกว่า ตลอดจนมีภาพลักษณ์ของ brand ที่มั่นคง ดังนั้นอังกฤษจึงเริ่มหันมาสู่ การทํางานร่วมกันของทุกฝ่ ายมากขึ้น [su_spacer size=”20″]
ทั้งนี้ สำหรับสิงคโปร์ เทคโนโลยี blockchain เป็นเทคโนโลยีที่สามารถช่วยให้ ไม่สามารถปลอมแปลงข้อมูล ทางธุรกรรมได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในระบบการจ่ ายเงินทั้งในระดับบุคคลและระดั บธุรกิจ-ธุรกิจ [su_spacer size=”20″]
สถานเอกอัครราชทูต ณ สิงคโปร์