สิงคโปร์เปิดตัวการใช้ SGQR ช่วยขับเคลื่อนสิงคโปร์เป็นสังคมไร้เงินสดอย่างสมบูรณ์

            เมื่อวันที่ 17 กันยายน 2561 สิงคโปร์ได้เปิดตัวการใช้ Singapore Quick Response Code (SGQR) ซึ่งเป็นการใช้ QR code เดียว เพื่ออํานวยความสะดวกผู้บริโภคในการใช้จ่าย ที่ผ่านมา บริษัท/ระบบ e-payment แต่ละแห่งจะมี QR code เป็นของตัวเองทําให้ผู้บริโภคเกิดความสับสนและเกิดความรู้สึกไม่อยาก ใช้จ่ายผ่านระบบ QR Code โดยภายในสิ้นเดือนกันยายนนี้ QR code ทั้งหลายประมาณ 19,000 แบบ จะถูกแทนที่ ด้วย SGQR เพียงชนิดเดียว และในอีก 6 เดือนข้างหน้า สิงคโปร์มีแผนจะนําเอาบริษัท/ระบบด้าน e-payment จํานวน 27 บริษัท อาทิ PayNow, Nets, GrabPay, Liquid Pay, Singtel Dash เข้าร่วมใช้ SGQR ซึ่งจะทําให้ ระบบมีความแพร่หลาย ครอบคลุม และเป็นปัจจัยสําคัญในการส่งเสริมให้สิงคโปร์เป็นสังคมไร้เงินสดอย่างสมบูรณ์ [su_spacer size=”20″]

            นาย Ong Ye Kung รัฐมนตรีกระทรวงศึกษาของสิงคโปร์ และคณะกรรมการบริหาร Monetary Authority of Singapore (MAS) กล่าวว่า การมี SGQR เป็นจิ๊กซอว์ชิ้นสุดท้ายในการสร้างระบบโครงสร้างพื้นฐานของ e-payment ในสิงคโปร์ อย่างไรก็ดี สถาบันการเงินในสิงคโปร์จะต้องเพิ่มมาตรการป้องกันการคุกคามทางไซเบอร์ เพื่อให้ผู้บริโภค มีความมั่นใจในระบบ e-payment มากขึ้น [su_spacer size=”20″]

            ทั้งนี้ การใช้ SGQR สามารถกระทําได้อย่างง่ายดาย สะดวก และรวดเร็ว ใน 3 ขั้นตอน ได้แก่ [su_spacer size=”20″]

            1. Pick – เลือกเปิด application ที่ผู้บริโภคจะจ่าย [su_spacer size=”20″]

            2. Scan – สแกน SGQR และตรวจสอบชื่อร้านค้าว่าถูกต้อง [su_spacer size=”20″]

            3. Pay – ใส่จํานวนยอดเงิน และจ่าย โดยขั้นตอนที่สะดวก ประกอบกับการมี QR code เพียงชนิดเดียว จะทําให้ผู้บริโภคไม่สับสน ทั้งนี้ ผู้บริหาร ร้าน Toast Box ซึ่งเป็นร้านกาแฟ/ขนมปังที่เป็นนิยมในหมู่ชาวสิงคโปร์กล่าวว่า การมี SGQR น่าจะช่วยให้ การจ่ายเงินมีความรวดเร็วและลดเวลาการรอของลูกค้าได้ [su_spacer size=”20″]

            การใช้ QR code เดียวนั้น เป็นสิ่งที่หลายๆ ประเทศในโลกพยายามทํา เพื่อสร้างมาตรฐานและ ทําให้ผู้บริโภคมีแรงจูงใจในการใช้จ่ายผ่าน QR Code โดยไม่ต้องใช้เงินสดมากยิ่งขึ้น ในลําดับต่อไป สิงคโปร์จะต้องชักจูงกลุ่มบริษัท Fintech ต่างๆ ที่ไม่ใช่ธนาคารมาเข้าร่วมมากขึ้น เหมือนที่สหราชอาณาจักรและอินเดีย เพื่อสร้างการแข่งขันที่เกิดประโยชน์ต่อผู้บริโภค[su_spacer size=”20″]

            บริษัท Frost & Sullivan คาดการณ์ว่า ภายในปี ค.ศ. 2020 นั้น 82% ของการใช้จ่ายในสิงคโปร์จะเป็นการไม่ใช้เงินสด ซึ่งเพิ่มขึ้นจาก 61% ในปี ค.ศ. 2016 นอกจากนี้ สิงคโปร์ยังมีเป้าหมายในการเลิกใช้จ่ายผ่านเช็คภายในปี ค.ศ. 2025 และลดการกดเงินสดผ่านตู้ ATM[su_spacer size=”20″]

            อนึ่ง สิงคโปร์เป็นประเทศที่ใช้ระบบ e-payment มา โดยมี timeline สรุปดังนี้  [su_spacer size=”20″]

            – ค.ศ. 1984 สิงคโปร์เริ่มใช้ระบบ Giro เพื่อให้ผู้บริโภคสามารถให้บริษัทต่างๆ หักค่าใช้จ่าย โดยอัตโนมัติผ่านบัญชีธนาคาร

            – ค.ศ. 1986 สิงคโปร์เริ่มใช้ระบบ NETS EFTPOS โดยผู้บริโภคสามารถจ่ายเงินผ่านบัตร ATM ให้แก่ร้านค้าต่างๆ ได้

            – ค.ศ. 1996 สิงคโปร์เริ่มใช้ระบบ NETS CashCard เป็นบัตรเงินสดใส่ในกล่องติดหน้ารถยนต์สามารถหักค่าผ่านทางและค่าจอดรถได้

            – ค.ศ. 2002 สิงคโปร์เริ่มใช้ระบบ EZ-Link Card เป็นบัตรสําหรับใช้ในระบบขนส่งมวลชน อาทิ รถไฟและรถโดยสาร

            – ค.ศ. 2009 สิงคโปร์เริ่มใช้ระบบ NETS FlashPay พัฒนาจากบัตรที่ใช้ในระบบขนส่งมวลชน มาใช้ได้ทั้งการซื้อของจากร้านสะดวกซื้อและซุปเปอร์มาร์เก็ต

            – ค.ศ. 2014 สิงคโปร์เริ่มใช้ระบบ FAST (Fast and Secure Transfer) ทําให้ผู้บริโภคสามารถ โอนเงิน/จ่ายเงินโดยตรงกับผู้ให้บริการได้

            – ค.ศ. 2016 สิงคโปร์เริ่มใช้ระบบ UPOS (Unified point-of-sale) ให้ผู้ขายใช้ระบบเดียวเพื่อสามารถรับการจ่ายเงินจากผู้บริโภคได้จากทุกบัตร

            – ค.ศ. 2017 สิงคโปร์เริ่มใช้ระบบ PayNow ผู้บริโภคสามารถจ่ายเงิน/โอนเงินให้กันและกัน โดยใช้เพียงเลขประจําตัว (NRIC) และเบอร์โทรศัพท์มือถือ

            – ค.ศ. 2018 สิงคโปร์เริ่มใช้ระบบ PayNow Corporate ทําให้บริษัท/หน่วยงานสามารถจ่ายเงิน/โอนเงินได้โดยใช้เลขประจําหน่วยงานหรือ UEN (Unique Entity Numbers) และเริ่มระบบ SGQR โดยผู้ขายใช้ QR code เดียว เพื่อสามารถรับการจ่ายเงินจ่ายผู้บริโภคได้จากทุกช่องทาง

            – ค.ศ. 2019 สิงคโปร์จะเริ่มใช้ระบบ FAST ที่ควบควมถึงกลุ่ม/บริษัทการเงินที่ไม่ใช่ธนาคาร อาทิ GrabPay, Razer Pay เพื่อสร้างการแข่งขันที่เป็นประโยชน์ต่อผู้บริโภค และเชื่อมต่อระบบ e-wallet จากบริษัทที่ไม่ใช่ธนาคารกับระบบบัญชีของธนาคาร

[su_spacer size=”20″]

สถานเอกอัครราชทูต ณ สิงคโปร์