ด้วยเมื่อวันที่ 7 มิ.ย. 2562 สํานักพิมพ์ The Straits Times ได้ลงบทความ “Spore to ban key Source of artificial trans fats by 2021” รายงานการยกเลิกการใช้สารประกอบ PHOs ซึ่งเป็นแหล่งที่มาของไขมันทรานส์ ว่า เมื่อวันที่ 6 มิ.ย. 2562
นาย Amrin Amin รัฐมนตรีอาวุโส กระทรวงสาธารณสุขสิงคโปร์ ได้กล่าวในระหว่างการเยือนซูเปอร์มาร์เก็ต Sheng Siong ของสิงคโปร์ ในประเด็น Partially Hydrogenated Oils (PHOs) อันเป็นแหล่งที่มาหลักของไขมันทรานส์ ว่า สารประกอบ PHOs นี้ จะถูกห้ามเป็นส่วนผสมในอาหารทุกชนิดที่จําหน่ายในสิงคโปร์ตั้งแต่เดือน มิ.ย.2564 เป็นต้นไป ซึ่งรวมไปถึงอาหารสําเร็จรูปที่ลงบรรจุภัณฑ์แล้วด้วย อาทิ คุกกี้ มันฝรั่งทอดและบะหมี่กึ่งสําเร็จรูป ถึงแม้ว่าจะเป็นอาหารที่ผลิตในต่างประเทศก็ตาม อย่างไรก็ดี กฎระเบียบข้อห้ามนี้เกิดขึ้น หลังจากประเทศต่าง ๆ เช่น สหรัฐฯ แคนาดา และไทย ได้บังคับใช้กฎระเบียบที่คล้ายกันเมื่อปีที่แล้วและปีก่อนหน้านี้อีกทั้งในบราซิล ก็จะมีผลบังคับใช้ในปี 2564 เช่นเดียวกัน
[su_spacer]
PHOs เป็นแหล่งสําคัญของไขมันทรานส์หรือไขมันไม่อิ่มตัว สามารถกลายเป็นของแข็ง ได้ที่อุณหภูมิห้องและสามารถยืดอายุการเก็บรักษาผลิตภัณฑ์ได้ เป็นที่รู้จักครั้งแรกในต้นศตวรรษที่ 20 เพื่อนํามาใช้ทดแทนเนยและน้ำมันหมู โดยไขมันทรานส์ถูกใช้ในอุตสาหกรรมการผลิตอาหารและในร้านอาหารเนื่องจากมีคุณสมบัติหลายอย่าง ได้แก่ ช่วยเพิ่มรสชาติ ช่วยในการเก็บรักษาอาหาร ช่วยยืดอายุของอาหารแปรรูปมีราคาถูก และสามารถนํามาใช้ซ้ำได้ เช่น น้ำมันพืชสามารถนํามาทอดซ้ำได้
[su_spacer]
อย่างไรก็ดี จากผลการวิจัยขององค์กรอนามัยโลก (WHO) พบว่าผู้ได้รับไขมันทรานส์ในอัตราที่สูง จะส่งผลให้เกิดความเสี่ยงในการเสียชีวิตที่เพิ่มมากขึ้น รวมทั้งเสี่ยงต่อการเกิดโรคต่าง ๆ อาทิ โรคหัวใจ โรคหลอดเลือด สมอง และโรคเบาหวาน ชนิดที่ 2 อันเป็นภาวะที่มีน้ำตาลในเลือดสูงรวมถึงเพิ่มระดับคอเลสเตอรอลในร่างกาย
[su_spacer]
ผลิตภัณฑ์ที่มีแนวโน้มว่าจะมีส่วนผสมของ PHOs สูง ได้แก่ สินค้าอาหารที่เป็นขนมอบ เช่น เค้ก ขนมปัง คุ้กกี้ พาย โดนัท มันฝรั่งทอด พิซซ่าแช่แข็ง บะหมี่กึ่งสําเร็จรูป อาหารพร้อมรับประทาน ครีมเทียม เครื่องดื่ม 3-in-1 ช็อคโกแลตสําหรับทาขนมปังและเนยถั่ว
[su_spacer]
สมาคมโรคหัวใจแห่งสหรัฐฯ (American Heart Association) แนะนําให้ใช้น้ำมันพืชที่ไม่ผ่าน กระบวนการเติมไฮโดรเจน อันเป็นน้ำมันพืชที่มาจากธรรมชาติ เช่น น้ำมันคาโนลา น้ำมันเมล็ดคําฝอย น้ำมันเมล็ด ดอกทานตะวัน น้ำมันมะกอก และรับประทานอาหารที่ไม่ได้ใช้น้ำมันพืชที่ผ่านกระบวนการเติมไฮโดรเจนหรือมีกรด ไขมันอิ่มตัว เพื่อป้องกันการรับประทานไขมันทรานส์
[su_spacer]
รัฐมนตรี Amin กล่าวว่า การออกข้อห้ามนี้เป็นส่วนหนึ่งของการส่งเสริมการรับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพในหมู่ชาวสิงคโปร์ อีกทั้ง นาย Jimmy Soh รองประธานสมาคมผู้ผลิตอาหารของสิงคโปร์ กล่าวว่า เหล่าบรรดา ภาคอุตสาหกรรมในสิงคโปร์รับทราบถึงระเบียบข้อห้ามด้าน PHOs นี้ ว่ากําลังจะถูกปฏิบัติใช้อย่างจริงจัง ซึ่งข้อห้ามนี้ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงในเชิงบวกของอุตสาหกรรมอาหาร บริษัทอุตสาหรรมอาหารต่าง ๆ ของสิงคโปร์ อาทิ Sheng Siong Group, Gardenia Foods, Nestle Singaproe, Sunshine Bakeries, FairPrice bla: Prime Supermarket ต่างมุ่งเน้นในการที่จะทําให้ผลิตภัณฑ์ของบริษัทฯ ปลอดจาก PHOs เพื่อให้สอดคล้องกับกฎระเบียบที่จะเกิดขึ้น
[su_spacer]
อย่างไรก็ดี ผู้ผลิตและผู้ค้าปลีกในท้องถิ่นของสิงคโปร์ ส่วนใหญ่ได้ดําเนินการตามขั้นตอนเพื่อปฏิรูป ผลิตภัณฑ์มาก่อนหน้านี้แล้ว หลังจากการจํากัดปริมาณไขมันทรานส์ที่มีผลบังคับใช้ในสิงคโปร์ ในปี 2556 มีการแก้ไขกฎระเบียบเพื่อลดปริมาณไขมันและน้ำมันของอาหารที่ส่งมอบให้กับผู้ผลิตและร้านอาหารในสิงคโปร์ ที่ต้องไม่มีปริมาณไขมันทรานส์เกิน 2 เปอร์เซ็นต์ต่อผลิตภัณฑ์ นอกจากนี้ ระเบียบในปี 2556 ของสิงคโปร์ ยังบังคับให้ติดฉลากระดับไขมันทรานส์บนบรรจุภัณฑ์ของไขมันและน้ำมันทั้งหมดและระบุในรายการส่วนผสมหากใช้ PHOS แต่กฎระเบียบดังกล่าวไม่ครอบคลุมถึงอาหารสําเร็จรูป รวมถึงอาหารที่ผลิตในต่างประเทศ ซึ่งหมายความว่าผลิตภัณฑ์ส่วนใหญ่ที่มีแนวโน้มได้รับผลกระทบจากข้อห้ามนี้เป็นผลิตภัณฑ์อาหารที่นําเข้าจากต่างประเทศ
[su_spacer]
นาย Lim Hock Chee ผู้บริหารของบริษัท Sheng Siong Group กล่าวว่า มีผลิตภัณฑ์ประมาณ 200 รายการจาก2,000 รายการ ในหมวดหมู่เสี่ยงต่อไขมันทรานส์ที่จําหน่ายโดยบริษัทต่าง ๆ ที่อยู่ในเครือเดียวกัน อีกทั้ง ยังกล่าวว่าSheng Siong Group จะยกเลิกการนําเข้าสินค้าที่ไม่สอดคล้องกับกฎระเบียบที่จะเกิดขึ้น ซึ่ง Sheng Siong Group เป็น1 ใน 6 บริษัทผู้ผลิตและผู้ขายปลีกที่ให้สัญญาว่าผลิตภัณฑ์ที่บริษัทฯ ผลิตหรือนําเข้า จะปลอดจาก PHOs ตั้งแต่เดือน มิ.ย. 2563 เป็นต้นไป รวมถึงบริษัทอื่น ๆ ได้แก่ Gardenia Foods, Nestle Singapore, Sunshine Bakeries, FairPrice และ Prime Supermarket โดย Nestle Singapore กล่าวว่า 98.6% ของผลิตภัณฑ์ของ Nestle ที่ขายในสิงคโปร์นั้นปลอดจากไขมันทรานส์และในส่วนที่เหลือจะปลอดจากไขมันทรานส์ ภายในสิ้นปี 2562 นี้ โดยไม่มีการเปลี่ยนแปลงราคา เช่นเดียวกันกับนาย Jose Miguel Porraz ผู้บริหารของบริษัท Sunshine Bakeries กล่าวว่าความพยายามของบริษัทในการลด PHOs ออกจากผลิตภัณฑ์นั้น เสร็จสมบูรณ์แล้ว ประมาณ 98%
(สถานเอกอัครราชทูต ณ สิงคโปร์)