ทิศทางของสิงคโปร์กับการพัฒนาเพื่อเป็นจุดหมายปลายทางชั้นนำสำหรับการแสดงคอนเสิร์ตและความบันเทิงต่าง ๆ โดดเด่นอย่างมากในช่วงหลายปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะตั้งแต่ต้นปี 2565 ที่สิงคโปร์เปิดประเทศ ก็ได้ต้อนรับศิลปินชั้นนำจำนวนมากที่เข้ามาจัดการแสดงอย่างต่อเนื่อง และในปี 2567 จะมีทั้งคอนเสิร์ตของ Coldplay และ Taylor Swift ซึ่งสิงคโปร์เป็นเพียง 1 ใน 2 ประเทศในเอเชียที่ Taylor Swift เลือกเปิดการแสดง นอกเหนือจากญี่ปุ่น ซึ่งเท่ากับว่า สิงคโปร์เป็น “จุดพักเพื่อการแสดงเพียงแห่งเดียว” ของ Taylor Swift ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ความต้องการบัตรคอนเสิร์ตของ Coldplay และ Taylor Swift ในสิงคโปร์ล้นหลามจนต้องประกาศเพิ่มรอบของทั้งสองงานแสดง และแฟนเพลงของ Taylor Swift จำนวนมากแห่สมัครบัตรเครดิตของธนาคาร UOB หนึ่งในผู้สนับสนุนคอนเสิร์ตของอย่างเป็นทางการเพื่อสิทธิจองบัตรคอนเสิร์ตล่วงหน้า ทั้งนี้ คาดว่าจะมีผู้เข้าชมคอนเสิร์ตของทั้งสองศิลปินในช่วงต้นปี 2567 มากกว่า 600,000 คน ทั้งคนสิงคโปร์ ชาวต่างชาติในสิงคโปร์ และชาวต่างชาติจากต่างประเทศ โดยแฟนเพลงต่างชาติที่เข้ามาดูคอนเสิร์ตจะเป็นนักท่องเที่ยวชั้นดี และจะใช้จ่ายถึง 300-500 ดอลลาร์สิงคโปร์ต่อคนต่อวัน ซึ่งจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวของสิงคโปร์อย่างมหาศาล
ธุรกิจโรงแรมในสิงคโปร์ก็คึกคักเป็นอย่างมาก โรงแรม Marina Bay Sands และแพลตฟอร์มบริการท่องเที่ยว Klook ผู้สนับสนุนคอนเสิร์ตอย่างเป็นทางการ มีการจัดโปรโมชั่นจำหน่ายบัตรคอนเสิร์ต Taylor Swift พร้อมข้อเสนอห้องพักโรงแรม การค้นหาที่พักในสิงคโปร์ในช่วงคอนเสิร์ตของ Taylor Swift เพิ่มขึ้นถึง 160 เท่า และค่าโดยสารเครื่องบินขาเข้าสิงคโปร์ในช่วงคอนเสิร์ตก็สูงขึ้นเกือบ 4 เท่าอีกด้วย นอกจากโรงแรมในสิงคโปร์จะคึกคักแล้ว เหล่าโรงแรมในรัฐยะโฮร์บาห์รู ประเทศมาเลเซีย ก็เป็นอีกแห่งที่นักท่องเที่ยวสนใจ เนื่องจากมีราคาย่อมเยาและสามารถเดินทางเข้าสิงคโปร์ได้แบบไปเช้า เย็นกลับ โดยทางมาเลเซียจะทำการประชาสัมพันธ์แหล่งท่องเที่ยวแก่ชาวต่างชาติที่เข้ามาดูคอนเสิร์ตในสิงคโปร์ เพื่อให้มาท่องเที่ยวต่อในรัฐด้วย
ภาคบริการ ร้านค้าและร้านอาหารของสิงคโปร์ก็เตรียมกลยุทธ์เพื่อตอบกระแสความนิยมของคอนเสิร์ตด้วยเช่นกัน เช่น การขยายเวลาให้บริการ โดยเฉพาะกิจการที่อยู่ใกล้กับสถานที่จัดคอนเสิร์ต การจัดข้อเสนอพิเศษสำหรับลูกค้าในช่วงก่อนและหลังคอนเสิร์ต และการเข้าร่วมเป็นพันธมิตรกับผู้จัดคอนเสิร์ต เป็นต้น
สิงคโปร์มองอุตสาหกรรมดนตรีและความบันเทิงเป็นภาพใหญ่มากกว่าแค่การแสดงคอนเสิร์ตทั่วไป และเป็นส่วนหนึ่งของอุตสาหกรรม MICE (การจัดการประชุม สัมมนา งานแสดงสินค้า และนิทรรศการขนาดใหญ่) โดยการท่องเที่ยวแห่งสิงคโปร์ มีบทบาทอย่างมากในการสร้างความร่วมมือและข้อเสนอที่ดึงดูดให้กับผู้เล่นในอุตสาหกรรมบันเทิง จนทำให้มีบริษัทด้านดนตรีชั้นนำจำนวนมากจัดตั้งสำนักงานใหญ่ในสิงคโปร์ อาทิ บริษัท Universal Music นอกจากนี้ การท่องเที่ยวแห่งสิงคโปร์ ยังร่วมมือกับภาคเอกชนในการผลักดันการท่องเที่ยวเชิงคอนเสิร์ตอย่างแข็งขัน และตั้งเป้าขยายกิจกรรมให้ครอบคลุมทั้งด้านกีฬาและไลฟ์สไตล์ด้วย
สิงคโปร์ยังมีความพร้อมด้านสถานที่จัดการแสดงที่ได้มาตรฐานสากล เพียบพร้อมด้วยโปรดักชันที่ทันสมัย ทำเลใจกลางเมืองหลายแห่ง เช่น สนามกีฬาแห่งชาติ และโรงละครของมากมาย ทำให้สามารถรองรับการแสดงหลากหลายรูปแบบ นอกจากนี้ การที่สิงคโปร์มีชาวต่างชาติอาศัยอยู่จำนวนมาก และดำเนินนโยบายเพื่อดึงดูดชาวต่างชาติอยู่เสมอ ส่งผลให้สิงคโปร์สามารถจัดการแสดงไม่เพียงเฉพาะตลาดเพลงยอดนิยมเท่านั้น แต่ยังรวมถึง ละครเวทีบรอดเวย์ ดนตรีออร์เคสตรา คอนเสิร์ตแบบเฉพาะกลุ่ม ศิลปะและการแสดงอื่น ๆ ทั้งจากในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งช่วยเพิ่มกลุ่มเป้าหมายและขยายตลาดบันเทิงของประเทศ
สิงคโปร์ยังพัฒนาความเชื่อมโยงทางอากาศอย่างต่อเนื่อง มีการคมนาคมขนส่งในเมืองที่สะดวกและครอบคลุม มีความปลอดภัยสูง การเมืองมีเสถียรภาพ มีมาตรการรักษาความปลอดภัยและการป้องกันการก่อการร้ายเป็นที่ยอมรับในระดับสากล อีกทั้งมีสภาพแวดล้อมด้านการทำธุรกิจที่ดีเป็นอันดับต้นของโลก รวมถึงมาตรฐานการจัดงานใหญ่ที่เป็นประจักษ์ นอกจากนี้ ภาครัฐของสิงคโปร์ยังมีแผนที่จะสนับสนุนการศึกษาด้านดนตรีเพิ่มขึ้น เพื่อใช้ประโยชน์จากข้อได้เปรียบนี้ในการพัฒนาอุตสาหกรรมดนตรีท้องถิ่นควบคู่กันไป เพื่อให้สิงคโปร์เป็นจุดหมายที่น่าดึงดูดใจสำหรับศิลปินต่างชาติที่จะเข้ามาลงทุนและสร้างความร่วมมือระหว่างกันมากขึ้น
สำหรับอุตสาหกรรมคอนเสิร์ตของไทยกำลังเติบโตและฟื้นตัวเช่นกัน โดยมีคอนเสิร์ตและงานเทศกาลดนตรีทั้งของไทยและต่างประเทศที่รอแสดงในปีนี้และปีหน้าเป็นจำนวนไม่น้อย โดยเฉพาะอย่างยิ่งกระแสดนตรี K-POP อย่างไรก็ตาม การดึงดูดผู้จัดระดับโลกเข้ามาลงทุนในไทยนั้น นอกเหนือจากเรื่องความมั่นคงทางการเมืองและการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทั่วไปแล้ว การยกระดับมาตรฐานผู้จัดงานและการอำนวยความสะดวกให้แก่ทีมงานศิลปิน ก็เป็นปัจจัยสำคัญที่จะดึงดูดคอนเสิร์ตต่างชาติและเพิ่มศักยภาพการจัดงานของไทยให้ก้าวสู่ระดับสากลมากขึ้น นอกจากนี้ รัฐควรสนับสนุนการศึกษาด้านดนตรี และเพิ่มความร่วมมือกับภาคเอกชนเพื่อสร้างข้อเสนอที่จูงใจผู้จัดงาน พัฒนาความเชื่อมโยงในการเดินทางไปสถานที่จัดการแสดงให้สะดวกสบาย รวมถึงการปรับปรุงสถานที่จัดการแสดงให้ทันสมัยเพื่อเพิ่มความน่าสนใจต่อการลงทุน
ทั้งนี้ ไทยมีข้อได้เปรียบเรื่องแหล่งท่องเที่ยวที่หลากหลายมากกว่าสิงคโปร์ จึงน่าจะดึงดูดชาวต่างชาติให้เข้ามาในประเทศจำนวนมาก ดังนั้น การสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้จัดคอนเสิร์ตระดับโลกจะช่วยดึงดูดการลงทุนในอุตสาหกรรมบันเทิง ท่องเที่ยว และบริการเพิ่มเติม ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ และสร้างรายได้ให้กับธุรกิจท้องถิ่น รวมถึงเปิดโอกาสให้กับธุรกิจใหม่ ๆ ได้อีกด้วย
ศูนย์ข้อมูลเพื่อธุรกิจไทย (BIC) สถานเอกอัครราชทูต ณ สิงคโปร์