การท่องเที่ยวถือเป็นภาคธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของ COVID-19 มากที่สุด และยังไม่มีแนวโน้มว่าจะฟื้นตัวในเร็ว ๆ นี้ การท่องเที่ยวจึงเป็นภาคเศรษฐกิจที่ซบเซาอย่างยิ่งของสิงคโปร์ในปี 2564 โดยจำนวนนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศลดลงจากประมาณ 19 ล้านคนต่อปีในช่วงก่อน COVID-19 เหลือเพียง 330,000 คน หรือลดลงกว่าร้อยละ 98 แม้ว่าสิงคโปร์จะจัดทำช่องทางเข้าประเทศสำหรับนักท่องเที่ยวโดยไม่ต้องกักตัว (Vaccinated Travel Lane – VTL) ซึ่งช่วยเพิ่มยอดนักท่องเที่ยวให้สิงคโปร์ได้ 120,000 คน แต่ธุรกิจการท่องเที่ยวในเมืองสิงโตพ่นน้ำแห่งนี้ก็ยังถือเป็นสถิติที่ต่ำสุดในประวัติการณ์
.
ขณะเดียวกัน ความนิยมในการเดินทางไปท่องเที่ยวในต่างประเทศของชาวสิงคโปร์ลดลงอย่างยิ่ง โดยมีผู้ขอมีหนังสือเดินทางใหม่เพียง 281,918 ราย ในปี 2564 หรือน้อยที่สุดในรอบ 15 ปี สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองสิงคโปร์ (Immigration and Checkpoints Authority – ICA) ให้ข้อมูลว่า ในช่วงก่อน COVID-19 มีผู้ขอหนังสือเดินทางเล่มใหม่ จำนวนกว่า 7 แสนเล่มต่อปี และไม่เคยมีจำนวนน้อยกว่า 3 แสนเล่มต่อปีมาก่อน จากพลเมืองสัญชาติสิงคโปร์ประมาณ 3.7 ล้านคน ซึ่งปัจจัยหนึ่งอาจเป็นเพราะเมื่อเดือนตุลาคม 2564 ICA ได้อนุมัติการเพิ่มอายุการใช้งานของหนังสือเดินทางสิงคโปร์จากเดิม 5 ปี เป็น 10 ปี
.
ทางเลือกใหม่และการปรับตัวของธุรกิจการท่องเที่ยว
.
กลุ่มสิ่งพิมพ์ด้านการท่องเที่ยว “Big 7 Travel” ได้จัดอันดับให้สิงคโปร์เป็นประเทศที่น่าถ่ายรูปลงแพลตฟอร์มอินสตาแกรมมากที่สุด (The most Instagrammable place) ประจำปี 2564 โดยเฉพาะต้นไม้จำลอง Supertree Grove ในสวนพฤกษศาสตร์ Gardens by the Bay และถนน Haji Lane ที่เต็มไปด้วยร้านรวงแสนเก๋และภาพศิลปะแขนงต่าง ๆ บนกำแพง
.
อย่างไรก็ตาม ด้วยข้อจำกัดของการเดินทางระหว่างประเทศในยุค COVID-19 รวมกับกระแสยุคดิจิทัล ทำให้มีการปรับตัวในการทำกิจกรรมและเกิดการท่องเที่ยวแบบเสมือนจริง (Virtual tour) ซึ่งได้รับความนิยมไม่น้อยในกลุ่มชาวสิงคโปร์และชาวต่างชาติ ดังนั้น สถานการณ์การท่องเที่ยวยังต้องใช้เวลาอย่างน้อย 2-3 ปี จึงจะฟื้นตัวได้ใกล้เคียงสถานการณ์ช่วงก่อน COVID-19 ซึ่งความท้าทายประการหนึ่งคือการสร้างความมั่นใจด้านความปลอดภัยแก่นักท่องเที่ยว การท่องเที่ยว และการเคลื่อนที่อย่างอิสระเสรียังคงเป็นธรรมชาติและความต้องการของมนุษย์ ซึ่งยังคงเฝ้ารอเวลาการเปิดพรมแดนหลังการยุติลงของการแพร่ระบาดของ COVID-19
.
การชะงักในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวการท่องเที่ยว ส่งผลให้สิงคโปร์เริ่มปรับตัว โดยหน่วยงานการท่องเที่ยวแห่งสิงคโปร์ (Singapore Tourism Board – STB) และ บริษัท Airbnb ได้จัดทำบันทึกความเข้าใจ (Memorandum of Understanding) ว่าด้วยการสนับสนุนการท่องเที่ยวในสิงคโปร์บนแพลตฟอร์มออนไลน์ของ Airbnb เพื่อให้ผู้คนทั่วโลกได้มาสัมผัสประสบการณ์ท่องเที่ยวในสิงคโปร์บนโลกออนไลน์ ซึ่งถือเป็นประสบการณ์แปลกใหม่ โดยทั้งสองฝ่ายหวังว่า ความร่วมมือในครั้งนี้จะช่วยฟื้นฟูธุรกิจการท่องเที่ยวในสิงคโปร์ในยุค COVID-19 ได้เป็นอย่างดี
.
นอกจากนี้ บริษัท Monster Day Tours ซึ่งเป็นบริษัทนำเที่ยวแบบเสมือนจริงที่กำลังเป็นที่นิยมในสิงคโปร์ ได้มีการนำเที่ยวในรูปแบบที่หลากหลาย เช่น การนำเที่ยวชมมรดกทางวัฒนธรรม การนำเที่ยวทางธรรมชาติ และการนำชมสถาปัตยกรรมสมัยใหม่ เป็นต้น นอกจากบริการนำเที่ยวแบบไลฟ์สด ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถสอบถามและมีส่วนร่วมกับมัคคุเทศก์ได้ขณะร่วมไลฟ์ เหมือนกับการได้ไปท่องเที่ยวกับมัคคุเทศก์จริง ๆ ประสบการณ์ท่องเที่ยวเสมือนจริงในแพลตฟอร์ม Airbnb แล้ว ยังมีการเปิดคอร์สสอนทำอาหารออนไลน์ เช่น สอนทำอาหารอินเดีย “Boring Indian Curry” ของ Mr. Dhruv Shanker ที่ได้รับความนิยมอย่างสูงและมีจำนวนผู้เรียนเพิ่มขึ้นมากกว่าก่อนช่วงการแพร่ระบาดของ COVID-19 อย่างมาก
.
ในช่วงที่ COVID-19 ระลอกใหม่ยังแพร่ระบาดอยู่นี้ ผู้ประกอบการไทยสามารถศึกษาการท่องเที่ยวแบบเสมือนจริง เพื่อให้ปรับปรุงบริการในรูปแบบใหม่ เนื่องจากประเทศไทยเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมระดับโลก โดยมีทรัพยากรและระบบนิเวศที่เอื้อต่อการท่องเที่ยวอย่างยิ่ง รวมถึงโบราณสถานและโบราณวัตถุมากมายที่ชาวต่างชาติสนใจ และสามารถจัดการท่องเที่ยวเสมือนจริงในรูปแบบการนำเที่ยวกึ่งบรรยายให้ความรู้ได้ บริษัททัวร์หลายแห่งในต่างประเทศได้ปรับโมเดลทางธุรกิจโดยใช้การท่องเที่ยวแบบเสมือนจริง ซึ่งช่วยสร้างรายได้เพิ่มขึ้นในช่วงที่การเดินทางระหว่างประเทศยังมีข้อจำกัด ทั้งยังช่วยสนับสนุนทางการเงินแก่มัคคุเทศก์ท้องถิ่นด้วย ในช่วงหลัง COVID-19 การท่องเที่ยวในรูปแบบนี้ยังน่าจะได้รับความนิยมในกลุ่มเป้าหมายที่ไม่สามารถเดินทางได้หรือไม่ต้องการรับความเสี่ยงจากการเดินทางด้วยตนเอง เช่น ผู้ที่มีปัญหาด้านสุขภาพ ผู้สูงอายุ และผู้ด้อยโอกาสทางสังคม เป็นต้น
.
สถานเอกอัครราชทูต ณ สิงคโปร์