เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2567 นาย Lawrence Wong นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังของสิงคโปร์ ได้ประกาศเปิดตัวแผนงาน Smart Nation 2.0: A Thriving Digital Future For All ณ Punggol Digital District Smart Nation Business District แห่งแรกของสิงคโปร์ เพื่อฟื้นคืนแผนงาน Smart Nation ที่ริเริ่มและขับเคลื่อนมาตั้งแต่ปี 2557 โดยสรุปสาระสำคัญได้ ดังนี้
วัตถุประสงค์และเป้าหมาย
Smart Nation 2.0 เป็นการยกระดับแนวทางและการดําเนินงานของรัฐบาลในการขับเคลื่อนแผนงาน Smart Nation ที่มีอายุครบ 10 ปีในปี 2567 โดยมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อเตรียมความพร้อมให้แก่ประชาชน และแรงงานทุกกลุ่มของสิงคโปร์ โดยเฉพาะคนวัยทำงาน เยาวชน และผู้สูงอายุ ตลอดจนเพื่อรับมือกับผลกระทบและสิ่งท้าทายต่าง ๆ ที่เกิดจากการพัฒนาทางเทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อมุ่งสู่การพัฒนาระยะต่อไปของสิงคโปร์ในการบรรลุเป้าหมายของการเป็นชาติที่มีขีดความสามารถทางด้านเทคโนโลยี
จุดเน้นของ Smart Nation 2.0
แผนงานนี้จัดทำขึ้นโดยกระทรวงการพัฒนาดิจิทัลและสารสนเทศ (Ministry of Digital Development and Information) โดยมีจุดเน้นที่กว้างกว่า digitalisation และตั้งอยู่บนหลักการสำคัญ 3 ประการ คือ Growth, Community และ Trust เพื่อให้สอดคล้องกับบริบทที่เปลี่ยนแปลงไปของ digital landscape ในโลกปัจจุบัน ซึ่งแตกต่างจากช่วง 10 ปีที่แล้วที่รัฐบาลสิงคโปร์ได้ริเริ่มแผนงาน Smart Nation ขึ้น เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพด้านการให้บริการของภาครัฐและอํานวยความสะดวกแก่ประชาชนและภาคธุรกิจเป็นหลัก ทั้งนี้ หลักการสำคัญ 3 ประการดังกล่าว มีรายละเอียด ดังนี้
(1) Growth รัฐบาลโดย National Research Foundation จะให้เงินสนับสนุนการวิจัยเพื่อพัฒนาเครื่องมือด้านปัญญาประดิษฐ์ (Al tools) จำนวน 120 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ ซึ่งเป็นเงินสนับสนุนที่เพิ่มเติมจากจำนวน 500 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ ที่รัฐบาลได้ลงทุนไปแล้วกับโครงการด้าน AI ในภาคส่วนต่าง ๆ ตั้งแต่ปี 2562 ภายใต้แผนงาน Al Singapore นอกจากนี้ รัฐบาลยังมุ่งเน้นการเตรียมความพร้อมให้แก่กําลังคนของสิงคโปร์ในอนาคต และป้องกันปัญหา job disruptions สำหรับแรงงานที่ไม่สามารถปรับตัวให้ทันกับการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี โดยกำหนดแนวทางในการสร้างและเพิ่มทักษะที่เกี่ยวข้องกับการขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัลให้แก่ประชาชน โดยตั้งแต่ปี 2568 โรงเรียนระดับประถมศึกษาและมัธยมศึกษาตอนต้นจะเปิดหลักสูตร Al for Fun Coding Modules เพื่อเตรียมความพร้อมให้กับกําลังคนรุ่นใหม่ของสิงคโปร์
(2) Inclusion ส่งเสริมความสัมพันธ์ของผู้คนในสังคม (community spirit) และความเท่าเทียมทางดิจิทัล (digital inclusion) โดยให้คนทุกกลุ่ม โดยเฉพาะผู้สูงอายุสามารถเข้าถึงและเรียนรู้ทักษะทางดิจิทัลเพื่อให้สามารถใช้ประโยชน์จากเครื่องมือทางดิจิทัลได้อย่างมั่นใจ โดย Council for Third Age ซึ่งเป็นองค์กรที่สนับสนุนรัฐบาลในด้าน active ageing จะเปิดหลักสูตรกว่า 180 หลักสูตร เพื่อช่วยผู้สูงอายุในการใช้งาน smart devices และเรียนรู้วิธีป้องกันความเสี่ยงต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้น
(3) Trust มุ่งเน้นความสำคัญของการสร้างความน่าเชื่อถือให้กับระบบและเทคโนโลยีดิจิทัล ซึ่งจำเป็นต้องนําไปใช้อย่างมีความรับผิดชอบ และใช้เพื่อส่งเสริมการเชื่อมต่อระหว่างบุคคล เสริมสร้างความร่วมมือและความเข้มแข็งของชุมชน โดยนายกรัฐมนตรีสิงคโปร์กล่าวว่า การนําเทคโนโลยีดิจิทัลไปใช้ในทางที่ผิดจะสร้างความแตกแยกและบั่นทอนความน่าเชื่อถือและความไว้วางใจในสังคม ดังนั้น แผนงาน Smart Nation 2.0 จึงจะรับมือกับปัญหาดังกล่าวด้วยการออกกฎหมายใหม่ ๆ เพื่อเร่งกระบวนการช่วยเหลือผู้ตกเป็นเหยื่อของ online harm และจะจัดตั้งหน่วยงานขึ้นใหม่ เพื่อบริหารจัดการเรื่องนี้ โดยรัฐบาลสิงคโปร์จะให้รายละเอียดเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวในช่วง 2-3 เดือนถัดไป


สรุป
การขับเคลื่อนการพัฒนาทางดิจิทัลภายใต้จุดเน้น 3 ประการของสิงคโปร์ นับเป็นการสร้างความแข็งแกร่งให้กับระบบนิเวศทางดิจิทัลของสิงคโปร์ และเสริมสร้างความร่วมมือที่ใกล้ชิดยิ่งขึ้นระหว่างภาครัฐ นักวิจัยและนักวิทยาศาสตร์ด้าน AI รวมถึงด้านอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง และยังสอดรับกับวิสัยทัศน์ของสิงคโปร์ที่มุ่งสู่การเป็นศูนย์กลางของเศรษฐกิจดิจิทัลทั้งในระดับภูมิภาคและระดับโลก นอกจากนี้ รัฐบาลสิงคโปร์มองว่า การออกกฎหมายใหม่ ๆ มีความจําเป็นเพื่อควบคุมและกำกับดูแลองคาพยพของระบบนิเวศทางดิจิทัลในสิงคโปร์ให้ครอบคลุมและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
ข้อมูล: สถานเอกอัครราชทูต ณ สิงคโปร์
เรียบเรียงโดย: ศูนย์ธุรกิจสัมพันธ์
เครดิจภาพ : https://dei.com.sg/exploring-smart-nation-2-0-singapores-digital-future/