เมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม 2564 นาย Chan Chun Sing รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการค้าและอุตสาหกรรมของสิงคโปร์ (ปัจจุบันดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ) ได้แถลงในงานวันอุตสาหกรรมชีวเภสัชภัณฑ์ (Biopharma Industry Day) โดยเน้นย้ำความสำคัญของอุตสาหกรรมชีวการแพทย์ ที่จะช่วยผลักดันสิงคโปร์ให้บรรลุแผน “Manufacturing 2030” ซึ่งเป็นแผนระยะ 10 ปี ที่สิงคโปร์มุ่งขยายมูลค่าของภาคการผลิตให้เติบโตขึ้นร้อยละ 50 จากปัจจุบัน ซึ่งมีมูลค่า 106 พันล้านดอลลาร์สิงคโปร์ รวมถึงการเป็นศูนย์กลางทางธุรกิจ นวัตกรรม และบุคลากรผู้มีความสามารถระดับโลก และจะก้าวไปสู่การผลิตที่มีมูลค่าสูงขึ้น
.
โดยได้มีการพัฒนา Tuas Biomedical Park (TBP) ขนาดพื้นที่ 1,750 ไร่ เพื่อรองรับการเติบโตของอุตสาหกรรมชีวการแพทย์ โดยปัจจุบันเป็นที่ตั้งของธุรกิจภาคเภสัชภัณฑ์ระดับโลกถึง 13 แห่ง มีบุคลากรจำนวนประมาณ 7,000 คน
.
แม้ว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ส่งผลกระทบการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (Foreign Direct Investment – FDI) อย่างไรก็ตาม ตัวเลขการลงทุนในสินทรัพย์ถาวร (Fixed Asset Investment – FAI) ของอุตสาหกรรมชีวการแพทย์ในสิงคโปร์ กลับมีมูลค่าเพิ่มขึ้นประมาณ 410 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ โดยมีมูลค่ารวม 638 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ และมีผลรวมค่าใช้จ่ายธุรกิจ (Total Business Expenditure – TBE) มูลค่าที่ 269 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ โดยในปี 2563 อุตสาหกรรมชีวการแพทย์ในสิงคโปร์ขยายตัวถึงร้อยละ 24 ซึ่งคิดเป็นประมาณร้อยละ 18 ของ GDP ภาคการผลิตของสิงคโปร์
.
ปัจจุบัน สิงคโปร์ให้ความสำคัญกับการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีชีวภาพ (Medical Technology) ใหม่ ๆ เช่น พันธุกรรมบำบัด (Gene Therapy) การรักษาด้วยสเต็มเซลล์ (Stem cell Treatment) การรักษามะเร็งด้วยภูมิคุ้มกันบำบัด (Cancer Immunotherapy) การพัฒนาวัสดุชีวภาพในการช่อมแซมกระดูก และนวัตกรรมการใช้เครื่องพิมพ์ 3 มิติในการพิมพ์ชิ้นส่วนทางการแพทย์
.
จะเห็นได้ว่า ไม่ใช่แค่สิงคโปร์เท่านั้น ที่เล็งเห็นความสำคัญของอุตสาหกรรมชีวการแพทย์ ประเทศไทยนั้นมีการสนับสนุนอุตสาหกรรมนี้เช่นเดียวกัน ผ่านนโยบายเศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน เศรษฐกิจสีเขียว (BCG Economy) ประกอบกับการที่ประเทศไทยมีศักยภาพในอุตสาหกรรมทางการแพทย์ มีความพร้อมทั้งด้านบุคลากรและเทคโนโลยีทางการแพทย์อยู่แล้ว ทำให้ผู้ประกอบการไทยมีโอกาสที่จะนำจุดแข็งนี้ไปต่อยอดเป็นธุรกิจที่เกี่ยวข้องในต่างประเทศได้ ซึ่งผู้ประกอบการที่สนใจสามารถติดตามข้อมูลข่าวสาร ศึกษาถึงความเป็นไปได้ในการทำธุรกิจในอุตสาหกรรมนี้ รวมถึงศึกษาแนวโน้มสำหรับอุตสาหกรรมในตลาดโลก เพื่อนำไปประกอบการตัดสินใจสำหรับการดำเนินธุรกิจในอนาคตต่อไปได้
.
สถานเอกอัครราชทูต ณ สิงคโปร์