ภูมิภาคแอฟริกาเป็นตลาดเศรษฐกิจขนาดใหญ่ ด้วยจำนวนประชากรมากเป็นอันดับ 2 ของโลก และมีอัตราการขยายตัวของเมืองในระดับสูง ส่งผลให้ความต้องการสินค้าอุปโภคบริโภคเพิ่มขึ้นอย่างมาก โดยเฉพาะภูมิภาคแอฟริกาตะวันตก ซึ่งมีประชากรรวมเกือบ 400 ล้านคน เป็นตลาดขนาดใหญ่สำหรับสินค้าข้าว
[su_spacer]
และมีปริมาณความต้องการบริโภคข้าวขยายตัวอย่างต่อเนื่อง จนมีการคาดการณ์ว่าภูมิภาคนี้จะกลายเป็นภูมิภาคสำคัญในการผลักดันการบริโภคข้าวในตลาดโลก ส่งผลให้ประเทศผู้ส่งออกข้าวที่สำคัญของโลก ไม่ว่าจะเป็นไทย เวียดนาม อินเดีย และปากีสถาน ให้ความสนใจกับการบุกตลาดข้าวในแอฟริกาตะวันตก
[su_spacer]
ประชาชนในประเทศแถบแอฟริกาตะวันตก จำนวน ๑๓ ประเทศ ได้แก่ เซเนกัล กีนี กินี-บิสเซา มาลี แกมเบีย โกตติวัวร์ เซียร์ราลีโอน โตโก ไลบีเรีย บูร์กินาฟาโซ กาบอง กาบูร์เวอร์เด และไนเจอร์ มีพฤติกรรม การบริโภคข้าวคล้าย ๆ กัน คือ นิยมกลุ่มข้าวที่มีราคาต่ำ เช่น ปลายข้าวขาวและข้าวขาว 25% เนื่องจากยังเป็นประเทศที่ยังมีรายได้น้อย กำลังการซื้อยังอยู่ในระดับต่ำ
[su_spacer]
“เซเนกัล หรือ สาธารณรัฐเซเนกัล” เป็นประเทศที่ตั้งอยู่แอฟริกาตะวันตก ติดกับมหาสมุทรแอตแลนติกเหนือ มีพื้นที่ประมาณ 196,190 ตารางกิโลเมตร มีเมืองหลวงคือ กรุงดาการ์ เป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจที่สำคัญของภูมิภาคแอฟริกาตะวันตก และเป็นประเทศผู้นำเข้าข้าวอันดับ 8 ของโลก ถึงแม้ว่าทางรัฐบาลเซเนกัลจะมีนโยบายการเกษตรภายใต้โครงการพัฒนาความมั่นคงทางอาหารในเรื่องการปลูกข้าวการปลูกข้าว (National Rice Self-sufficiency Programme – PNAR) ตามแผนการพัฒนาของเซเนกัล (The Emerging Senegal Plan – PSE) แต่เซเนกัลก็ไม่สามารถทำการเพาะปลูกข้าวให้เพียงพอต่อความต้องการในการบริโภคข้าวที่มีแนวโน้มเพิ่มปริมาณขึ้นจาก 79 กิโลกรัมต่อคนต่อปี เป็น 91 กิโลกรัมต่อคนต่อปี นอกจากนี้ เมล็ดพันธุ์ข้าวยังมีราคาสูง ขาดผู้ประกอบการเอกชนเข้ามาลงทุนสร้างโรงสีข้าว จัดเก็บและกระจายข้าวสู่ตลาดอย่างเป็นระบบ
[su_spacer]
สำหรับประเทศไทย เซเนกัลเป็นประเทศคู่ค้าที่สำคัญอันดับ 4 ในตลาดแอฟริกาตะวันตก และเป็น ตลาดส่งออกข้าวไทยที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคนี้ เนื่องจากเป็นทั้งตลาดการบริโภคและเป็นทางผ่านของการนำเข้าข้าวสู่ประเทศใกล้เคียง อาทิ มาลี แกมเบีย กินี-บิสเซา และบูร์กินาฟาโซ เนื่องจากเซเนกัลมีระบบโลจิสติกส์ที่มีประสิทธิภาพมากกว่าประเทศอื่น ๆ ในภูมิภาค โดยในปี 2558 ไทยมีส่วนแบ่งการตลาดการนำเข้าข้าวจากต่างประเทศของเซเนกัลมากถึงร้อยละ 72.54 อย่างไรก็ตาม สถิติปี 2559 ซึ่งเป็นสถิติล่าสุดของสำนักงานสถิติของเซเนกัล ระบุว่าส่วนแบ่งการนำเข้าข้าวจากต่างประเทศได้เปลี่ยนไป ปริมาณการนำเข้าข้าวจากไทยลดลงอย่างเห็นได้ชัดที่ระดับร้อยละ 16.20 โดยมีเหตุผลมาจากการแข่งขันด้านราคา ซึ่งข้าวจากประเทศไทยมีราคาสูงถึง 600 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน ในขณะที่ข้าวจากเวียดนามมีราคาเพียง 472 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน และเซเนกัล หันไปนำเข้าข้าวหักจากอินเดียถึงร้อยละ 60.97 ลดปริมาณการนำเข้าข้าวหักจากไทยเหลือเพียง ร้อยละ 21.22 เนื่องจากราคาข้าวหักจากไทยมีราคาที่สูงถึง 13.5 บาทต่อกิโลกรัม เมื่อเทียบกับราคาข้าวหักจากอินเดียซึ่งขายในราคา 10.7 บาทต่อกิโลกรัม
[su_spacer]
จากการสอบถามบริษัทตัวแทนนำเข้าข้าวจากประเทศไทย ทราบว่าข้าวของไทยมีราคาสูงมาก หากข้าวไทยสามารถปรับลดลงได้ประมาณ 50 หรือ 60 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน หรือเหลือประมาณ 500-550 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน ก็จะสามารถแข่งขันในตลาดได้ เนื่องจากข้าวไทยเป็นข้าวที่มีคุณภาพดีเมื่อเทียบกับประเทศอื่น ๆ นอกจากนี้ อินเดียและเวียดนามซึ่งเป็นประเทศคู่แข่งไทยในการนำส่งออกข้าวไปยังเซเนกัลและแอฟริกาตะวันตกได้ปรับปรุงคุณภาพข้าวและมีราคาที่ถูกกว่าข้าวจากประเทศไทย ซึ่งเป็นราคาที่ผู้บริโภคในประเทศแอฟริกาตะวันตกรับได้ เหมาะสมกับกำลังการซื้อของประเทศแอฟริกาตะวันตก
[su_spacer]
การวางยุทธศาสตร์ของไทยในการส่งออกข้าวมายังประเทศแอฟริกาตะวันตกนั้น ควรต้องคำนึงว่าประเทศแอฟริกาตะวันตกส่วนใหญ่มีกำลังซื้อที่ค่อนข้างจำกัด จึงให้ความสำคัญกับราคาข้าวมากกว่าคุณภาพ ของข้าว ดังนั้น การนำส่งออกข้าวมาในประเทศเหล่านี้ อาจต้องปรับคุณภาพและราคาให้เหมาะสม เพื่อให้สินค้าของไทยสามารถแข่งขันกับประเทศอื่น ๆ ที่ครองตลาดในเวลานี้ นอกจากนี้ ในฐานะที่ประเทศไทยเป็นหนึ่งใน ผู้ส่งออกข้าวที่สำคัญของโลก อาจพิจารณาให้ความช่วยเหลือทางวิชาการในลักษณะหุ้นส่วนการพัฒนา โดยให้การแนะนำประเทศดังกล่าว ให้สามารถปลูกข้าวเพื่อการบริโภคภายในประเทศ ซึ่งเป็นความช่วยเหลือ ที่ยังคงความนิยมประเทศไทยและสินค้าไทยไว้ได้อีกด้วย
[su_spacer]
ที่มา
http://www.thaiembassy.org/pretoria/contents/images/text_editor/files/Rice%20Market.pdf
https://www.thairath.co.th/news/business/market-business/1352421
[su_spacer]
โดยศูนย์ธุรกิจสัมพันธ์
กรมเศรษฐกิจระหว่างประเทศ กระทรวงการต่างประเทศ
สถานเอกอัครราชาทูต ณ กรุงดาการ์